รูปปากสวยขึ้นได้ด้วย ฉีดฟิลเลอร์ปาก รู้หรือไม่ว่า ริมฝีปาก เป็นเครื่องหน้าอีกอย่างที่มีผลมากๆ กับความงามของใบหน้า ปากที่สวย ปากอวบอิ่ม ปากเซ็กซี่ได้รูปรับกับใบหน้า จะส่งเสริมให้หน้าดูดีขึ้น และการฉีดฟิลเลอร์ปากถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากในการปรับริมฝีปากให้รับกับโครงหน้าโดยรวมและทำให้ดูสวยขึ้น หล่อขึ้นทันที ซึ่งบทความนี้หมอเขียนขึ้นเพื่อไขข้อข้องใจให้ท่านที่กำลังสนใจได้ทราบรายละเอียดต่างๆ อย่างครอบคลุม เช่น ฉีดปากดีไหม? ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นก้อนไหม อันตรายไหม บวมกี่วัน ฉีดปากเจ็บไหม ฉีดปากกระจับ ใช้ฟิลเลอร์กี่ cc พร้อมแนะนำ ที่ไหนดี และรีวิวต่างๆ
ก่อนอื่นหมอขอแนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อ หมอเอ็ม หรือ นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำ เอ็มวีต้าคลินิก ครับ
ฟิลเลอร์ปาก คืออะไร?
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) ช่วยเติมเต็มผิวหนัง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ มีน้ำมีนวล มีคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำ เพิ่มความชุ่มชื้น
การฉีดฟิลเลอร์ปากจึงช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม ดูนุ่มละมุน ไม่แห้งผาก และปรับรูปปากของเราให้สวยเข้ากับรูปหน้าได้มากยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับใครที่สนใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ชนิดอื่น สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฟิลเลอร์คาง , ฟิลเลอร์ใต้ตา
รูปทรงฟิลเลอร์ปาก มีอะไรบ้าง?
รูปทรงปากที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย มีด้วยกัน 4 รูปทรงดังนี้
1. ทรงปากแบบสายฝอ (Sexy Lip)
สำหรับทรงปากแบบสายฝอหรือแบบตะวันตก หรือที่เรียกว่า “Sexy Lip” นั้นเน้นความอวบอิ่มเต็มที่ทั้งริมฝีปากบนและล่าง โดยมักจะทำให้ขอบปากดูเบลอไม่ชัดเจนเพื่อเพิ่มวอลลุ่มให้กับริมฝีปาก ความพิเศษของทรงนี้คือการรักษาสัดส่วนของริมฝีปากบนและล่างให้ใกล้เคียงกันในอัตรา 1:1 ซึ่งช่วยสร้างลุคที่ดูเซ็กซี่และดึงดูดสายตา ทรงปากแบบนี้จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นความเย้ายวนและความอวบอิ่มของริมฝีปากอย่างชัดเจน
2. ทรงปากแบบเกาหลี (Cherry Lip)
ทรงปากสไตล์เกาหลี หรือที่เรียกว่า “Cherry Lip” นั้นกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ลักษณะเด่นของทรงนี้คือการสร้างเนื้อกระเปาะคล้ายผลเชอร์รี่สองลูกที่ริมฝีปากล่าง พร้อมกับการเน้นขอบริมฝีปากบนให้ชัดเจน ทั้งนี้ยังคงรักษาสัดส่วนที่สวยงามระหว่างริมฝีปากบนและล่างในอัตรา 1:1.6 ถึง 1:7 เอาไว้ ผลลัพธ์ที่ได้คือริมฝีปากที่ดูอวบอิ่ม และช่วยเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า ทำให้ทรงปากแบบนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ต้องการเสริมเสน่ห์แบบสาวเกาหลี
3. ทรงปากคลาสสิค (Classic Lip)
ทรงปากคลาสสิค ลักษณะเด่นของทรงนี้คือความอวบอิ่มที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยมีการเพิ่มเติมสันปากเพียงเล็กน้อยเพื่อสร้างมิติ ผลลัพธ์ที่ได้คือริมฝีปากที่ดูมีวอลลุ่มพอประมาณ ดูไม่เกินจริงจนเสียความสมดุลของใบหน้า ที่สำคัญคือการรักษาสัดส่วนที่ลงตัวระหว่างริมฝีปากบนและล่าง โดยมีอัตราส่วนที่เหมาะสมอยู่ที่ 1:1.6 ถึง 1:1.7 ซึ่งช่วยให้ริมฝีปากดูสวยงามและกลมกลืนกับโครงหน้า
4. ทรงปากกระจับ (Classic+Cherry Lip)
ส่วนทรงปากกระจับ หรือ “Classic+Cherry Lip” นั้นเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความสดใสแบบเกาหลี ลักษณะเด่นคือริมฝีปากที่โค้งเรียวสวยรับกับรูปหน้า โดยริมฝีปากบนมีขอบชัดคล้ายปีกนก ทรงนี้ช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากโดยไม่ดูเกินจริง ทำให้ปากดูอมยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความสวยงามของริมฝีปากแต่ไม่ต้องการเพิ่มความหนามากเกินไป
สัดส่วนรูปปากที่สวย ดูดี และเพอร์เฟ็ค
เบื้องต้นเราควรทราบลักษณะของปากที่จัดว่าสวยกันก่อน เพื่อจะได้ทราบว่าการปรับรูปปากของเรานั้น ควรจะต้องปรับอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าปากของผู้หญิงกับผู้ชายจะมีนิยามความสวยที่ต่างกันครับ
จากการศึกษาเปรียบเทียบโครงหน้าคนที่หน้าตาดีหลายๆ คนมาสรุปรวมกันก็พบว่า สัดส่วนริมฝีปากที่ดูดีได้รูปมีลักษณะ ดังนี้ครับ
หน้าตรง
ริมฝีปากหน้าตรงแนวนอน แนวนอนถ้าเราเทียบ ความสูงจากใต้จมูกถึงเส้นที่ปากบนประกบปากล่าง กับความสูงจากเส้นที่ปากบนประกบปากล่างถึงปลายคาง ส่วนแรกควรมีขนาดเป็นครี่งหนึ่งของส่วนที่สองครับ
ริมฝีปากหน้าตรงแนวตั้ง แนวตั้งเราลากเส้นตั้งฉากกับมุมปากข้างซ้าย และเส้นตั้งฉากกับมุมปากข้างขวา 2 เส้นที่ตั้งฉากจากดวงตาจรดริมฝีปากทั้งสองข้าง ริมฝีปากไม่ควรเกินกว้างเกินขอบลูกตาดำด้านใน (medial limbus) ของตาซ้ายกับขวาตามลำดับในผู้หญิง
แต่ถ้าในผู้ชายอาจจะกว้างได้อีกนิดโดยจะไม่เกินกึ่งกลางตาดำข้างซ้ายกับขวาตามลำดับ
ด้านข้าง V
เมื่อมองมุมข้าง เราจะมีเส้นสำคัญคือเส้นสีทองในรูป ที่ลากจากปลายจมูกมายังปลายคาง เส้นนี้มีชื่อเรียกว่า Ricketts E line หรือเส้น E line ซึ่งรูปหน้าที่สมส่วน ริมฝีปากบนควรห่างจากเส้นนี้ประมาณ 4 ซม. ริมฝีปากล่างควรห่างจากเส้นนี้ประมาณ 2 ซม. ครับ นอกจากนี้ปากของผู้หญิงกับผู้ชายก็จะมีรายละเอียดที่ต่างกันเล็กน้อย ดังนี้
ผู้หญิง
ทรงปากที่สวยเหมาะกับรูปหน้าของผู้หญิงจะมีขอบปากชัดเจน ดูอวบอิ่มทั้งปากบนและล่าง และมุมปากสองข้างไม่กว้างเกินขอบตาดำด้านใน นอกจากนี้ควรมีกระจับที่สวยและชัดเจนด้วยครับ
ผู้ชาย
ส่วนเคสคุณผู้ชายทรงปากที่ดูหล่อเข้มจะมีขอบที่ชัดเฉพาะตรงคันศรกลางปากบน (cupid’s bow) เท่านั้น บริเวณอื่นๆ ขอบไม่ควรจะชัดมาก ปากบนควรบางและส่วนปากล่างควรจะอวบอิ่มกว่า แต่ความอวบอิ่มควรอยู่แค่กลางปากเท่านั้น และมุมปากสองข้างไม่ควรเกินกึ่งกลางตาดำ
ฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยเทคนิคการฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ริมฝีปาก วิธีนี้ช่วยเพิ่มความอวบอิ่ม ปรับรูปทรง และแก้ไขความไม่สมมาตรของปากได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องผ่าตัด
ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการเติมปาก
Restylane Kysse ฟิลเลอร์เติมปากที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน ด้วยเนื้อเจลที่ละเอียดนุ่ม ช่วยเติมเต็มริมฝีปากได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่บวมหลังฉีด และยังช่วยให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้น อิ่มฟู ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานถึง 1 ปี นอกจากนี้ Restylane Kysse ยังเป็นไฮยาลูรอนิก แอซิดบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นสารที่พบได้ตามธรรมชาติในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยสูงและลดโอกาสเกิดอาการแพ้
คนไข้ทุกท่านที่เข้ามารับการรักษา ทางทีมผู้ช่วยแพทย์จะมีการแนะนำวิธีการดู ตั้งแต่กล่องที่ซีนมาแบบยังไม่มีการแกะกล่อง เพื่อเช็คของแท้ก่อนเสมอ เพิ่มความมั่นใจให้กับคนไข้ทุกท่านที่เข้ามารับการรักษา
ส่วนใครที่อยากได้กล่องฟิลเลอร์กลับบ้านก็สามารถแจ้งกับน้องๆ ผู้ช่วยแพทย์และคุณหมอได้เลยครับ
การเติมฟิลเลอร์ปากปลอดภัย มั่นใจได้
ด้วยฟิลเลอร์คุณภาพสูง ของแท้ที่ผ่านการรับรองโดย อย. แล้ว จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย ตัวฟิลเลอร์สามารถสลายได้ 100% ครับ และด้วยเทคนิคการฉีดของหมอจะมีการเช็คปลายเข็มก่อนการเดินยาทุกครั้ง
ขนาดซีซี สำหรับฉีดฟิลเลอร์ปาก
โดยทั่วไปในการฉีดปากเรามักใช้ฟิลเลอร์ปริมาณ 1 cc ก็เพียงพอสำหรับเติมปากให้สวยงามแล้วครับ ยกเว้นในบางเคสที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มมากๆ อาจจะต้องใช้ 2 cc ครับ โดยหมอจะช่วยประเมินก่อนและแนะนำปริมาณที่เหมาะสมให้เป็นรายบุคคลไป
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่เจ็บอย่างที่คิด
เจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะสำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิก หมอได้ออกแบบระบบการควบคุมความเจ็บในขณะฉีด มาเป็นอย่างดี โดยก่อนฉีดจะมีการลงยาชาที่ผิวหนัง เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที นอกจากนี้ฟิลเลอร์ที่หมอเลือกใช้ จะมียาชาผสมอยู่ด้วย ดังนั้นตอนฉีดฟิลเลอร์จริงคนไข้จะแทบไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ และหลังจากหมดฤทธิ์ของยาชาแล้วก็ไม่เจ็บด้วยครับ
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ปากที่เอ็มวีต้าคลินิก มีขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ ดังนี้
1. เริ่มจากคนไข้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมิน แล้วหมอจะแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ปริมาณที่ต้องใช้
2. จากนั้นจะมีการคลีนทำความสะอาดผิวบริเวณปาก และทายาชาที่ผิวไว้ เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
3. เมื่อครบเวลาของยาชาแล้ว เจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดผิวและนำคนไข้เข้าสู่ห้องหัตถการ
4. นอกจากมีการเตรียมผิวชั้นบนให้ชาแล้ว คุณหมอจะทำการฉีดยาชาอีกครั้ง ในขั้นตอนนี้จะไม่รู้สึกเจ็บ และมั่นใจได้เลยว่าคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลยตลอดขั้นตอนของการฉีดฟิลเลอร์ปากเลยครับ
5. หลังทำ ก็จะเห็นผลว่าปากจะสวยได้รูปดูดีขึ้นทันที หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จเรียบร้อย คนไข้จะได้รับการชี้แจงรายละเอียดข้อมูลการปฏิบัติตัวหลังเข้ารับฉีดฟิลเลอร์อย่างละเอียด และเจ้าหน้าที่จะทำการนัดคนไข้เพื่อกลับมาให้คุณหมอตรวจประเมินผลลัพธ์อีกครั้งที่ 2 สัปดาห์ หลังจากการฉีดครั้งแรกครับ
รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก
รีวิว Restylane Kysse ฟิลเลอร์ปาก
รีวิว ฟิลเลอร์ปาก Restylane
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เห็นผลทันทีหลังฉีด
สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์เลยครับ ว่าปากจะได้รูปทรงสวย รับกับใบหน้าขึ้นทันทีครับ
ฉีดฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิค ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว และร่างกายเรามีเอนไซม์ที่สามารถสลายมันได้เองครับ ระยะเวลาในการที่ร่างกายจะสลายฟิลเลอร์นั้น จะแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด
แต่โดยทั่วไปอาจกล่าวได้ว่าฟิลเลอร์อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน ยกเว้นบางตัวอาจจะอยู่ได้นานกว่านั้น เช่น ปีครึ่งถึงสองปีได้ ซึ่งขึ้นกับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ครับ
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก
ฟิลเลอร์ปากเป็นวิธีที่ช่วยเติมเต็มริมฝีปากให้สวย อวบอิ่ม ช่วยให้ปากมีรูปทรงที่สวยงามมากขึ้น วิธีนี้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง เห็นผลลัพธ์การรักษาทันทีหลังฉีดเสร็จ
- รวดเร็วและสะดวก: ใช้เวลาทำเพียงไม่กี่นาที ไม่ต้องพักฟื้น
- ไม่ต้องผ่าตัด: ลดความเสี่ยงและระยะเวลาฟื้นตัว
- ปรับแต่งได้ตามต้องการ: สามารถเลือกทรงปาก ปริมาณความอวบอิ่มได้ตามชอบ
- แก้ไขได้: หากไม่พอใจสามารถฉีดสารละลายเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้
- ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ: เมื่อทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ริมฝีปากจะดูสวยงามอย่างกลมกลืน
- ปลอดภัย: ใช้สารที่ร่างกายสามารถดูดซึมได้ตามธรรมชาติ
- แก้ไขปัญหาหลายอย่าง: ทั้งเพิ่มความอวบอิ่ม แก้ไขรูปทรงไม่สมมาตร และลดริ้วรอยรอบปาก
- เสริมความมั่นใจ: ช่วยให้รู้สึกดีกับรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้น
เทคนิคพิเศษ ในการฉีดฟิลเลอร์ปาก ของเอ็มวีต้าคลินิก
ที่เอ็มวีต้าคลินิก หมอจะเน้นมากเป็นพิเศษถึงความเป๊ะสัดส่วนพอดีที่สุด ในคนไข้ทุกราย เพื่อผลลัพธ์ที่สวยที่สุด ดังนั้นก่อนฉีดหมอจะใช้เวลาวัดสัดส่วนอย่างละเอียดและจะมีการมาร์คตำแหน่งเป็นอย่างดี เพื่อที่เวลาฉีดจะได้ตรงจุด และเป๊ะที่สุดครับ
นอกจากนี้ยังเน้นในเรื่องความคมของรูปปาก ต้องสวยชัดและเข้ากับใบหน้าเหมาะสมตามเพศของคนไข้ด้วยครับ
ความสมมาตร
ความสมมาตรเท่ากันของปากทั้งสองข้างนั้นสำคัญมากๆ และหมอจะเน้นมากๆ เพื่อให้ฉีดออกมาสวยตรงกึ่งกลางที่สุด ในบางท่านที่ปากเดิมเบี้ยวเอียงอยู่แล้ว เราก็ยังสามารถใช้ฟิลเลอร์ช่วยปรับให้ดูสมมาตรได้ด้วย
ฟิลเลอร์ปากช่วยเพิ่มอวบอิ่ม ปากสวยไม่เป็นก้อน
สำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิก หมอใช้ฟิลเลอร์ที่มีเนื้อเนียนเพื่อสร้างริมฝีปากที่สวยอวบอิ่มและได้รูป ดังนั้นหลังฉีดจะไม่เป็นก้อน แต่จะเป็นทรงที่ได้รูปทันที และจะยิ่งสมูธมากขึ้นหลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์
ข้อควรปฏิบัติ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หากเป็นไปได้ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDS ได้แก่ ibuprofen naproxen วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
- หากเป็นไปได้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการรักษา
- ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปากควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา เพราะคุณหมออาจจะพิจารณา ให้ยาป้องกันการกำเริบของ โรคเริม หลังฉีดได้ในบางท่านครับ
ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
ทันทีหลังจากการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการผิวหนังบวมแดง อาการคันหรือคลำได้เป็นก้อนใต้ผิวหนังบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติของการฉีดฟิลเลอร์ และอาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 48 ชั่วโมง แต่ในบางรายอาจมีอาการบวมนานถึง 7-10 วัน และบางรายอาจเกิดขึ้นได้หลายสัปดาห์ การประคบเย็นหลังจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยลดอาการบวมและแดงได้
โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
24 ชั่วโมงหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการจับ ลูบคลำหรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยา
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวภายใน 12 ชั่วโมงแรก
1 สัปดาห์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลานานอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและช้ำได้ตามที่ต้องการ
2 สัปดาห์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนความร้อน เช่น ซาวน่า และการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการนวดใบหน้า
- หลีกเลี่ยงการจับ กด หรือบีบบริเวณที่ฉีด
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ในช่วงวันแรก หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรนอนราบ นอนตะแคง หรือเคลื่อนไหวในท่าก้มหัว ควรนั่งตัวตรง หรือยืนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยา
- นอนท่าศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม
- ควรนัดพบแพทย์เพื่อประเมินผลการรักษา 2 สัปดาห์หลังการฉีดฟิลเลอร์ และอาจมีการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มในกรณีที่จำเป็น
- โปรดปรึกษาแพทย์ หากเกิดข้อสงสัย หรือมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น
วิธีดูฟิลเลอร์แท้
แพทย์จะจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับรักษาไว้ รวมถึงกล่องฟิลเลอร์ที่ยังไม่เคยผ่านการแกะมาก่อน แล้วนำมาแกะต่อหน้าผู้รับการรักษา เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คนไข้ กล่องฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้จะมีเลขทะเบียนอย. เอกสารกำกับที่เป็นภาษาไทย สามารถนำข้อมูลชื่อยี่ห้อหรือเลขอย.ไปตรวจความถูกต้องจากเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
ฟิลเลอร์ปากจะบวมเล็กน้อย แต่หายเองได้ใน 2 วัน
อาจมีอาการริมฝีปากบวม อาการคันบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติของการฉีดฟิลเลอร์ และอาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 48 ชั่วโมง แต่ในบางรายอาจมีอาการบวมนานถึง 7-10 วัน และบางรายอาจเกิดขึ้นได้หลายสัปดาห์ การประคบเย็นหลังจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยลดอาการบวมและคันได้ครับ
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยให้ปากสวยยังไง แก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง
การเติมฟิลเลอร์ หรือ ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นใช้สารธรรมชาติเข้าไปเติมเต็มริมฝีปากของเรา ช่วยคงสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย จึงช่วยทำให้ริมฝีปากของเราดูสวย อวบอิ่ม ได้รูป ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหารูปให้กับผู้ที่มีริมฝีปากบาง รูปปากไม่ชัดเจน ปากไม่เท่ากัน ปากไม่เรียบเนียน ริมฝีปากเป็นร่องลึก ปากแห้ง ปากลอก รวมถึงฉีดบริเวณมุมปากเพื่อแก้ไขปัญหาของผู้ที่มีมุมปากตก ใบหน้าบึ้งตึง เมื่อฉีดฟิลเลอร์แล้วจะทำให้ใบหน้าดูเหมือนมีรอยยิ้มเล็กๆ อย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อริมฝีปากของเราอิ่มสวยแล้ว องค์รวมของใบหน้าก็จะดูดีขึ้นด้วย หากจะแต่งเติมด้วยลิปก็เป็นไปด้วยดี ไม่ต้องกลัวว่าจะทาลิปสีสวยแล้วตกร่องอีกต่อไป หรือต่อให้ไม่แต่งหน้าอะไร ริมฝีปากของเราก็จะดูชุ่มชื้น สวยงามอยู่ตลอดเวลา
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วจะรับประทานอาหารปกติได้รึเปล่า
ปกติการฉีดฟิลเลอร์บริเวณริมฝีปากไม่ได้มีกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันแต่อย่างใด หากบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์มาไม่ได้สัมผัสกับความร้อนโดยตรงก็ไม่มีปัญหา เพียงแค่ต้องระวังในช่วงวันแรกๆ หรือประมาณ 48 ชั่วโมงหลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จ ระหว่างนี้ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้อยู่ในพื้นที่ที่มีความร้อนจัด เช่น หน้าเตาปรุงอาหาร เตาชาบู หมูกระทะ และอย่าให้ปากสัมผัสกับความร้อนโดยตรง เพราะจะส่งผลเสียต่อตัวฟิลเลอร์จนเกิดการผิดรูปได้
สำหรับการรับประทานอาหารทั่วไปสามารถทานได้ แต่ไม่แนะนำให้ทานอาหารร้อนๆ เพราะการทานอาหารที่ร้อนมากเป็นประจำจะทำให้ฟิลเลอร์ปากสลายได้เร็วขึ้นกว่าปกติ เพราะไม่สามารถเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อนได้เหมือนผิวส่วนอื่นของร่างกายนั่นเอง
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วจะต้องพักฟื้นไหม
ไม่ต้องพักฟื้น เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ช่วยให้รูปปากสวยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ละขั้นตอนมีความปลอดภัยสูง ไม่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียหรือ หลังรักษาจะมีแผลเพียงรอยเข็มเล็กๆ ซึ่งจะหายเองได้ในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ต้องงดแต่งหน้าหลังฉีดฟิลเลอร์กี่วัน
หลังจากฉีดฟิลเลอร์เรียบร้อยแล้ว คุณควรงดการใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวต่างๆ ประมาณ 12 ชั่วโมงแรก หรือถ้าให้ดีแนะนำให้งดการแต่งหน้า 1 – 2 วัน เมื่อพ้นสองวันแรกแล้วก็สามารถทาครีมและใช้เครื่องสำอางแต่งเติมใบหน้าได้ สำหรับบริเวณปากต้องระมัดระวังในการสัมผัสบ้าง เติมลิปได้แต่งดเว้นการบีบจับบ่อยๆ จะดีที่สุด
ถ้าฉีดฟิลเลอร์แล้วผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจ มีวิธีแก้ไหม
หากฉีดฟิลเลอร์แล้วรู้สึกไม่พอใจกับผลการรักษา คุณสามารถการฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ แนะนำว่าควรปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อแก้ไขปัญหารูปปากให้เป็นไปตามต้องการ
สรุป
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก ทุกเคสทำโดย บุคลากรผู้เชี่ยวชาญของ M Vita Clinic เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของคนไข้ทุกราย
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก นอกจากเพื่อปรับรูปทรงริมฝีปากแล้ว ยังช่วยเติมเต็มหรือเสริมให้ริมฝีปากกลับมาดูอวบอิ่ม เต่งตึง ชุ่มชื้นอีกครั้ง ลดอาการปากแห้ง มีร่องริมฝีปากได้อีกด้วย
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือการใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid : HA) ทางคลินิก M Vita Clinic จะใช้ของ ยี่ห้อ Juvederm volift สามารถอยู่ได้นานถึง 12 เดือน
ในกรณีที่มีความรู้สึกผิดปกติหลังจาก เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปาก คนไข้สามารถติดต่อเข้ามาเล่ารายละเอียดอาการผิดปกติได้ทันที หรือจะส่งรายละเอียดภาพประกอบ เพื่อให้พี่หมอดูอาการเบื้องต้นได้ว่าเป็นอาการผิดปกติจริงไหม หากคนไข้สะดวกสามารถเดินทางเข้ามาที่คลินิกได้ตัวเอง ทางคลินิกพร้อมที่จะเช็คอากาศผิดปกติที่เกิดขึ้นกับคนไข้ทันที สำหรับคนไข้ที่มีข้อสงสัยต้องการสอบถามรายละเอียดก็สามารถถามหมอ หรือผู้ช่วยแพทย์ได้ทันทีครับ
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมาทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่