ฟิลเลอร์ใต้ตา หลายๆ ท่านเคยส่องกระจกแล้วรู้สึกกังวลกับใต้ตาของตัวเองไหม? ทั้งเด็กวัยรุ่นและหนุ่มสาววัยทำงาน ล้วนเคยชินกับการที่คนรอบข้างแซวกันว่า ตาแพนด้า ขอบตาคล้ำ นี่แหละครับคือปัญหา “ร่องใต้ตาลึก” แล้วถ้ามีร่องใต้ตาแล้วควรทำไงดี? บทความนี้จะมาบอกรายละเอียดแบบครอบคลุม และรวมถึงเรื่องของ “ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา” ซึ่งเป็นการรักษาที่ดีที่สุดของร่องใต้ตาลึก บทความนี้จะให้รายละเอียดลงลึกว่า ฟิลเลอร์แก้ใต้ตาอันตรายไหม, ยี่ห้อไหนดี, ฟิลเลอร์ใต้ตาราคา, ฟิลเลอร์สำหรับใต้ตาทำที่ไหนดี และรีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา ด้วยครับ
- ร่องใต้ตาลึก คือ
- ร่องใต้ตาลึก เกิดจากอะไร
- แก้ไขร่องใต้ตาลึก รักษาอย่างไร
- ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
- ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายมั้ย
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
- ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องใช้กี่ cc
- ฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บหรือไม่
- ขั้นตอนการฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา
- ร่องใต้ตาลึก ทำไมจัดเป็นปัญหาผิวที่รักษายากที่สุด
- เทคนิคพิเศษ ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ของเอ็มวีต้าคลินิก
- ฟิลเลอร์ใต้ตาเห็นผลทันทีเลยหรือไม่
- ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานไหม
- ข้อควรปฏิบัติ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้
- รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่เอ็มวีต้าคลินิก
- คุณหมอเอ็ม รับรางวัลจากบริษัท Allergan (และ Medyceles (ตัวแทนจำหน่าย Neuronox)
- เอ็มวีต้าคลินิก คลินิกรักษาสิว เลเซอร์รอยสิว
- ช่องทางติดต่อ
- คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฟิลเลอร์ใต้ตา
ร่องใต้ตาลึก คือ
ร่องใต้ตาลึก หนึ่งในสัญญาณแรกแห่งวัย ร่องใต้ตา คือ ร่อง แอ่งหรือเส้นที่เริ่มจากบริเวณใต้หัวตา ยาวลงมาที่บริเวณแก้มบน ดังรูป
ร่องใต้ตา ใต้ตาลึก ขอบตาคล้ำ เป็นสัญญาณแห่งความชราที่มักปรากฏเป็นอันดับแรกๆ ในหลายท่าน ซึ่งส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนล้า อิดโรย เหมือนคนนอนน้อย หรือดูเหมือนคนไม่สบาย และยิ่งอายุเพิ่มขึ้นก็ยิ่งเป็นหนักขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งร่องใต้ตานี้ แม้จะนอนเต็มที่ ทาครีมบำรุงแพงๆ บางทีก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นเลยครับ
ร่องใต้ตาลึก เกิดจากอะไร
เพื่อการรักษาได้อย่างตรงจุด ก่อนอื่นเราควรเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิด ร่องใต้ตาโดยสังเขปกันก่อนนะครับ
แม้ดูเผินๆ จะคล้ายกัน แต่ร่องใต้ตาในแต่ละท่านอาจมีสาเหตุและปัญหาที่ไม่เหมือนกันครับ เบื้องต้นเรามาลองดูโครงสร้างผิวช่วงรอบดวงตา กันก่อนนะครับ
ผิวรอบดวงตา เป็นบริเวณบอบบางมากๆ หากเราสามารถดูใต้ผิวที่เปลือกตาล่างลึกลงไปจะเห็นเป็นชั้นๆ ได้ตามรูป คือ ใต้ผิวลงไปก็จะมีชั้นไขมันบางๆ (ไม่แสดงในรูป) ต่อมาเป็นกล้ามเนื้อรอบดวงตา (Orbicularis oculi) ใต้กล้ามเนื้อเป็นผนังกั้นเบ้าตา (Orbital septum) ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อพังผืดที่เป็นเหมือนโครงให้กับเปลือกตาด้วย ใต้ผนังกั้นเบ้าตาจะมีแผ่นไขมันของเบ้าตา (Orbital fat pad) ทำหน้าที่ช่วยป้องกันห่อหุ้มเบ้าตาและลูกตาของเราครับ
ทีนี้ลองดูผิวอีกส่วนนะครับ คือผิวที่อยู่ล่างต่อร่องน้ำตา จะเห็นว่ามีโครงสร้างที่ซับซ้อนลงไปใต้ผิว ซึ่งรายละเอียดตรงนี้หมอจะไม่ได้ลงรายละเอียดมากนะครับ เพียงแค่อยากให้สังเกตจากรูป หากเราดูลึกลงไปใต้ชั้นผิวตรงร่องใต้ตาพอดี จะเห็นว่าข้างใต้จะเป็นเส้นเอ็น ligament ที่เชื่อมโยงกับผิวอยู่ จากตรงนี้หมอขอสรุปให้เข้าใจง่ายๆว่า ร่องใต้ตา (Tear trough) หลักๆ ก็เกิดจากเส้นเอ็นนี้ นั่นเอง ซึ่งเส้นเอ็นนี้มีชื่อว่า Orbital retaining ligament หากแปลตามตัวจะหมายความว่า เป็น “เส้นเอ็นที่พยุงเบ้าตา” ครับ
แล้วทำไมร่องใต้ตาแต่ละคนจึงมีสาเหตุต่างกัน?
จุดที่ทำให้แตกต่าง คือโครงสร้างเหนือและใต้ต่อเส้นเอ็นนี้ครับ หมอจะขออธิบายแยกเป็นกรณีต่างๆ คร่าวๆ นะครับ
- กรณีแรกคือ ผิวตรงบริเวณเปลือกตาล่าง (ซึ่งอยู่เหนือเส้นเอ็น) มีการสูญเสียชั้นไขมันใต้ผิวไป หรือเส้นเอ็นที่พยุงเบ้าตาเริ่มมีการหย่อนคล้อย แต่ยังไม่มาก เคสกลุ่มนี้ มักจะมีร่องใต้ตาตื้นๆ เป็นร่องเพียงเล็กน้อย มักพบในเคสที่ช่วงวัยรุ่นใต้ตายังเรียบเนียนดี
แต่พออายุเริ่มเยอะขึ้นหน่อยก็เริ่มมีร่องขึ้นมาครับ ( 30-35 ปีขึ้นไป )
- กลุ่มที่สอง เป็นร่องใต้ตาที่เกิดจากโครงสร้าง ของเส้นเอ็นใต้ตาที่หย่อนคล้อยลงอย่างมาก รวมถึงโครงสร้างผิวบริเวณ midcheek หรือแก้มส่วนที่อยู่ใต้ต่อร่องน้ำตาลงมาอีกนั้น ก็มีการสูญเสียความ แข็งแรงและไขมันใต้ผิวชั้นลึก (deep cheek fat) ก็ฝ่อตัวค่อนข้างมาก
สูญเสียโครงสร้างที่คอยพยุงร่องใต้ตาในกลุ่มนี้จะลึก และจะเห็นโหนกแก้มหย่อนคล้อยร่วมด้วย เคสกลุ่มนี้จะเป็นเคสที่มีอายุขึ้นมาหน่อยครับ(35-40 ปีขึ้นไป)
- กลุ่มที่สาม เป็นกลุ่มที่มีร่องคาดกลางแก้ม (Midcheek groove) จุดนี้เป็นจุดที่พิเศษ เพราะเนื่องจากเป็นร่องที่ไม่ได้เกิดจาก Orbital retaining ligament แต่เกิดจากเส้นเอ็นอีกเส้นที่ ชื่อว่า Zygomaticocutaneous ligament เกาะยึดกระดูกโหนกแก้มด้านหน้ากับผิวหนังด้านบนอย่างแน่น
ทำให้เกิดเป็นแองร่องที่ลึก กลุ่มนี้อาจมีร่อง midcheek groove นี้ได้ตั้งแต่วัยรุ่น (15-20 ปีขึ้น ไป) หรืออาจจะมาพบทีหลังในช่วงวัยที่เพิ่มขึ้น เมื่อ ผิวแก้มเริ่มทีการหย่อนคล้อยก็ได้ครับ ซึ่งในกลุ่มที่มีอายุก็มักจะพบ midcheek groove และมีร่องใต้ตาแบบข้อ 2 ด้วย คือมีทั้ง 2 ปัญหาเลยดังรูปครับ
- กลุ่มที่สี่ เป็นกลุ่มที่มีปัญหากล้ามเนื้อที่เปลือกตาล่างอ่อนแรง ไม่สามารถพยุงแผ่นไขมันของเบ้าตาที่อยู่ข้างหลังไว้ได้ แผ่นไขมันจึงนูนออกมาเป็นถุง เรียกว่า ถุงใต้ตา กลุ่มนี้ส่วนนึงจะมีกรรมพันธุ์มาเกี่ยวข้องด้วย แต่ท่านที่เป็นก็จะเป็นมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นด้วยครับ
- กลุ่มที่ห้า เป็นกลุ่มที่มีกล้ามเนื้อรอบดวงตา Orbicularis Oculi ที่แข็งแรงหรือหนาตัวมากกว่าปกติ ทำให้เวลาที่ยิ้มจะมองเห็นเป็นเส้นนูนบริเวณใต้ตา มีชื่อเรียกว่า Medial Band ซึ่งมักจะนูนจนทำให้เห็นร่องลึกใต้เส้น Medial Band นี้ดังรูปนั่นเองครับ
แก้ไขร่องใต้ตาลึก รักษาอย่างไร
การรักษาที่เห็นผลดีที่สุด ทั้งยังปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง และเห็นผลได้รวดเร็ว คือ การฉีดฟิลเลอร์ หรือสารไฮยาลูรอนิกเพื่อเติมเต็มร่องใต้ตาครับ โดยฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเป็นฟิลเลอร์ที่เป็นไฮยาลูรอนิก ที่ผ่านการรับรองจาก อย. แล้วเท่านั้นครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารไฮยาลูรอนแอซิดในบริเวณที่ต้องการรักษาปัญหาร่องลึกใต้ตา ซึ่งการทำงานของสารไฮยาลูรอนแอซิดจะเข้าไปช่วยเติมเต็มในส่วนที่มีปัญหา และเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวบริเวณนั้น อีกทั้งสารไฮยาลูรอนแอซิดนี่ยังไม่เป็นพิษต่อร่างกายอีกด้วย เนื่องจากเป็นสารที่ถูกสารเลียนแบบสารธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้น ทำให้เมื่อเติมสารนี้ลงสู่ผิวสารก็จะคงอยู่ได้ในระยะหนึ่งและสลายหายไปได้เอง
หากสนใจข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ชนิดอื่นเพิ่มเติม สามารถคลิกอ่านได้ที่บทความต่อไปนี้เลยครับ >> ฟิลเลอร์ปาก , ฟิลเลอร์คาง , ฟิลเลอร์ร่องแก้ม <<
ฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายมั้ย
แม้บริเวณที่ทำฟิลเลอร์จะเป็นใต้ตาก็จริง แต่ในการทำจริงๆ หมอขอเรียนว่าไม่น่ากลัวเลยครับ เพราะ
- หมอจะมีการป้องกันความเจ็บให้อย่างดีด้วยการทายาชา และมีการสะกิดยาชาให้ด้วยครับ ดังนั้นตอนทำคนไข้แทบจะไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลยครับ
- การฉีดหมอจะใช้เข็มพิเศษ คือ เข็มปลายทู่ หรือ cannula ซึ่งมีข้อดีคือจะป้องกันการแทงถูกเส้นเลือดทำให้ไม่เขียวช้ำ และสามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างปลอดภัยครับ
- เทคนิคการฉีดแบบสมูธ ลดการบอบช้ำของเนื้อเยื่อ และฉีดโดยเลี่ยงเส้นเลือดใต้ผิว ช่วยลดการเขียวช้ำเช่นเดียวกันครับ
- หมอเลือกใช้แต่ฟิลเลอร์มีคุณภาพและเป็นของแท้ ผ่าน อย. เท่านั้น และแกะกล่องต่อหน้าทุกครั้งครับ
ด้วยการระวังอย่างละเอียดทุกสเต็ป การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาของเอ็มวีต้าคลินิกจึงปลอดภัย และไม่เคยมีปัญหาผลข้างเคียงเลยมาโดยตลอดที่ทำมาตั้งแต่เปิดคลินิกเลยครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี
- สำหรับการเติมเต็มร่องใต้ตาตื้นๆ ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ตัวที่ให้ผลการรักษาที่ดี กรณีที่ร่องใต้ตาตื้นๆ ได้แก่
ฟิลเลอร์ Restylane
- Restylane Vital light (8-12 เดือน) ตัวนี้ปกติถ้าฉีดบริเวณอื่น อยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน แต่สำหรับใต้ตามักจะอยู่ได้นานกว่านั้นครับ โดยประมาณก็จะอยู่ 8-12 เดือน ด้วยเนื้อที่เบา ซอฟต์ จึงเหมาะกับการฉีดชั้นตื้นๆ เพื่อช่วยร่องใต้ตาตื้นได้ดีมาก อีกทั้งยังมีระบบควบคุมปริมาณยา Smart Click System ในขณะที่ฉีด ทำให้เกลี่ยยาได้ง่าย ฉีดออกมาได้สวยสมูธครับ
- Belotero Soft (6 เดือน) ตัวนี้เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วย เทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ทำให้เนื้อของฟิลเลอร์มี คุณสมบัติในการกระจายตัวใต้ผิวหนังได้เป็นอย่าง ดีมากๆ จึงสามารถฉีดตรงบริเวณใต้ตาตี้นๆ ได้เป็น อย่างดี โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นก้อน เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ หรือ ร่องใต้ตาที่เป็นไม่มากนัก หลังฉีดใต้ตาจะดูฟูเต็ม สวย เนียนมากๆแต่ข้อเสียคืออาจจะอยู่ไม่นานเท่า ฟิลเลอร์ตัวอื่นครับ
- Belotero Balance (8-10 เดือน) ฟิลเลอร์อีก ตัวที่ผลิตโดยเทคโนโลยี CPM (cohesive polydensified matrix) เนื้อของฟิลเลอร์ก็กระจาย ตัว ใต้ผิวหนังได้เป็นอย่างดีมากๆเช่นเดียวกันกับ ตัว Soft แต่ตัวนี้จะมีปริมาณของ Hyaluronic acid ที่สูงกว่า จึงอยู่ได้นานกว่า Soft และสามารถฉีด เพื่อช่วยยกเส้นเอ็น ligamemt ที่หย่อนคล้อยได้ ด้วย ตัวนี้จึงเหมาะสำหรับฉีดในท่านที่มีปัญหาร่อง ใต้ตาลึกไม่มากนักไปจนถึงระดับปานกลาง รวมถึง ท่านที่มีปัญหา เนื้อแก้ม(Midcheek) หย่อนคล้อย
- ส่วนสำหรับท่านที่มีปัญหาเรื่องของแก้มที่หย่อนคล้อย หรือท่านที่มีร่องคาดกลางแก้ม mid cheek groove ต้องใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติในการยกและเติมเต็มที่มากขึ้น ฟิลเลอร์ที่แนะนำ ได้แก่
ฟิลเลอร์ Restylane
- Restylane Defyne (12 เดือน) ใช้เทคโนโลยี OBT เนื้อสัมผัสเฟิร์มแต่สมูธ ช่วยยกผิวได้ดี เหมาะกับท่านที่มีแก้มหย่อนคล้อยปานกลาง หรือมีผิวค่อนข้างบาง
- Restylane Lyft Lidocaine (12 เดือน) เป็น NASHA gel นื้อสัมผัสเฟิร์ม ยกผิวได้ดีมาก เหมาะกับท่านที่มีผิวปกติ ไม่บาง และมีปัญหาหน้าแก้มหย่อนคล้อยครับ
ฟิลเลอร์ Juvederm
- Juvederm Voluma (24 เดือน) เป็นฟิลเลอร์ที่ช่วยยกผิวได้ดีมาก ช่วยเติมร่องลึกได้ดีและยกแก้มที่หย่อนคล้อยด้วยครับ
- โดยแต่ละท่านอาจต้องใช้ฟิลเลอร์คนละชนิดกัน ขึ้นกับปัญหาของแต่ละคน ซึ่งถ้าจะให้ชัวร์แนะนำให้มาปรึกษาหมอจะดีที่สุดครับผม
- บางท่านที่ร่องตาลึกค่อนข้างมากจริงๆ อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ข้อ 1 + ข้อ 2 เพื่อเก็บงานชั้นลึกและตื้นให้ได้ใต้ตาที่ดีและเนียนที่สุดครับ ซึ่งหมอจะเป็นผู้ดูและแนะนำในส่วนนี้ในตอนที่ให้คำปรึกษาอีกทีครับ
ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา | คุณสมบัติ | ระยะเวลา | เหมาะกับ | ราคา |
---|---|---|---|---|
Restylane Vital Light | เนื้อบางเบา ซอฟ เกลี่ยยาได้ง่าย ฉีดออกมาได้สวยสมูธ | 8 – 12 เดือน | เหมาะกับการฉีดชั้นตื้นๆ ช่วยเติมเต็มร่องใต้ตาตื้นได้ดีมาก | 12,500 บาท / cc |
Restylane Defyne | เทคโนโลยี OBT เนื้อสัมผัสเฟิร์มแต่สมูธ ช่วยยกผิวได้ดี | 12 เดือน | เหมาะกับผู้มีแก้มหย่อนคล้อยปานกลาง หรือมีผิวค่อนข้างบาง | 12,500 บาท / cc |
Restylane Lyft Lidocaine | NASHA gel เนื้อสัมผัสเฟิร์ม ยกผิวได้ดีมาก | 12 เดือน | เหมาะกับผู้มีร่องลึก หรือมีชั้นผิวที่ไม่บาง | 12,500 บาท / cc |
Belotero Soft | เทคโนโลยี CPM เนื้อของฟิลเลอร์มีคุณสมบัติในการกระจายตัวใต้ผิวหนังได้ดีมาก | 6 เดือน | เหมาะกับผู้มีร่องลึก หรือมีชั้นผิวที่ไม่บาง | 12,500 บาท / cc |
Belotero Balance | เทคโนโลยี CPM เนื้อของฟิลเลอร์กระจายตัวใต้ผิวหนังได้ดีมากๆ มีปริมาณของ Hyaluronic Acid สูงกว่า Belotero Soft จึงอยู่ได้นานกว่า | 8 – 10 เดือน | เหมาะกับผู้มีปัญหาร่องใต้ตาลึกไม่มากนักไปจนถึงระดับปานกลาง รวมถึงผู้มีปัญหาเนื้อแก้มหย่อนคล้อย | 12,500 บาท / cc |
Juvederm Voluma | ช่วยยกผิวได้ดีมาก ช่วยเติมร่องลึกได้ดีและยกแก้มที่หย่อนคล้อย | 24 เดือน | เหมาะกับผู้มีปัญหาเรื่องแก้มหย่อนคล้อย หรือมีร่องคาดกลางแก้ม | – |
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1. แพทย์จะประเมินผิวใต้ตาของผู้มารับบริการฉีดฟิลเลอร์ แล้วจะแนะนำฟิลเลอร์และปริมาณที่เหมาะสมกับการรักษา
2. แพทย์จะคลีนทำความสะอาดผิวบริเวณใต้ตาและโหนกแก้ม และทายาชาที่ผิวไว้ เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
3. แพทย์จะสะกิดยาชาเพื่อบล็อกเส้นประสาท หลังจากนั้นคนไข้จะรู้สึกชามากขึ้น ภายใน 1-2 นาที ก็จะพร้อมฉีดฟิลเลอร์แล้ว
4. แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์ให้กับผู้เข้ารับการรักษา ตอนที่ฉีดฟิลเลอร์จะไม่รู้สึกเจ็บ หลังทำก็จะเห็นผลว่าร่องใต้ตาเต็มขึ้นได้ทันที
ฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องใช้กี่ cc
ฟิลเลอร์ใต้ตาปริมาณซีซีที่ใช้จะขึ้นอยู่กับ ลักษณะของร่องใต้ตาครับ ซึ่งหมอจะช่วยตรวจและประเมินปริมาณซีซีให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละท่านครับ แต่โดยทั่วไป ท่านที่มีปัญหาร่องใต้ตาไม่ค่อยลึกมากนัก สามารถใช้ฟิลเลอร์ เพียง 1 cc ก็สามารถเติมร่องใต้ตาให้เนียนได้แล้วครับ
ในบางท่านที่ร่องใต้ตาเกิดจากหลายสาเหตุรวมกัน อาจจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อเติมร่องให้เต็ม และในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์หลายชนิด เพื่อแก้ปัญหาให้ถูกจุดครบทุกสาเหตุ ในท่านเหล่านี้อาจต้องใช้ฟิลเลอร์ 2-3 cc ในการรักษาครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บหรือไม่
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ เพราะสำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิก คุณหมอเอ็ม ได้ออกแบบ ระบบการควบคุมความเจ็บในขณะฉีด มาเป็นอย่างดี โดยก่อนฉีดจะมีการลงยาชาที่ผิวหนังเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที และจะมีการสะกิดยาชาเพื่อบล็อกเส้นประสาท ให้รู้สึกชาเป็นบริเวณกว้างด้วยครับ
นอกจากนี้ฟิลเลอร์ที่หมอเลือกใช้จะมียาชาผสมอยู่ด้วย ดังนั้นตอนฉีดฟิลเลอร์จริงคนไข้จะแทบไม่รู้สึกเจ็บใดๆ เลยครับ และหลังจากหมดฤทธิ์ของยาชาแล้วก็ไม่เจ็บด้วยครับ
ขั้นตอนการฉีด ฟิลเลอร์สำหรับใต้ตา
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่เอ็มวีต้าคลินิก
เริ่มจากคนไข้เข้าพบแพทย์เพื่อรับการประเมินแล้วหมอจะแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสม ปริมาณที่ต้องใช้ จากนั้นจะมีการคลีนทำความสะอาดผิวบริเวณใต้ตาและโหนกแก้ม และทายาชาที่ผิวไว้ เป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงครับ เมื่อครบเวลาของยาชาแล้ว เจ้าหน้าที่จะเช็ดทำความสะอาดผิวและนำคนไข้เข้าสู่ห้องหัตถการ
จากนั้นคุณหมอจะทำการสะกิดยาชาเพื่อบล็อกเส้นประสาทเพียงข้างละ 1 จุดเท่านั้น ซึ่งขั้นตอนนี้เจ็บน้อยมากครับ แล้วหลังจากนั้นคนไข้จะรู้สึกชามากขึ้นบริเวณใต้ตา โหนกแก้มและร่องแก้ม ภายในเวลาประมาณ 1-2 นาที ซึ่งก็จะพร้อมสำหรับการฉีดฟิลเลอร์แล้วครับ
ตอนที่ฉีดฟิลเลอร์คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บเลยครับ และหลังทำก็จะเห็นผลว่าร่องใต้ตาเต็มขึ้นได้ทันที
หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จเรียบร้อย คนไข้จะได้รับ การชี้แจงรายละเอียด ข้อมูลการปฏิบัติตัวหลังเข้ารับฉีดฟิลเลอร์ อย่างละเอียด และเจ้าหน้าที่จะทำการนัดคนไข้เพื่อกลับมาให้คุณหมอตรวจประเมินผลลัพธ์อีกครั้งที่ 2 สัปดาห์หลังจากการฉีดครั้งแรกครับ
หลังฉีดคนไข้จะยังคงมีอาการชาจากยาชาต่อไปอีกประมาณ 1-2 ชั่วโมง ซึ่งพอหมดฤทธิ์ของยาชาแล้วจะไม่รู้สึกเจ็บแล้วนะครับ โดยทั่วไปมักเห็นผลการรักษาทันทีโดยไม่มีอาการผิดปกติใดๆ เลยครับ
ร่องใต้ตาลึก ทำไมจัดเป็นปัญหาผิวที่รักษายากที่สุด
เพราะหากรักษาโดยแพทย์ที่ประสบการณ์น้อย อาจเกิดปัญหาขึ้นได้ครับ เพราะใต้ตาเป็นจุดที่บอบบางมากๆ ปัญหาที่อาจเกิดได้แก่
- ฟิลเลอร์นูนเป็นก้อนใต้ตา มักเกิดจากการเลือกใช้ฟิลเลอร์ ชนิดที่ไม่เหมาะสมกับผิวบริเวณรอบดวงตา หรือฉีดไม่ถูกชั้น
- ฉีดแล้วร่องใต้ตาไม่ดีขึ้น หรือแย่ลงกว่าเดิม อันนี้เช่นเดียวกันครับ มักจะเกิดจากการเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม หรือฉีดไม่ตรงชั้นเช่นกัน
- ฉีดแล้วเกิดร่องม่วงคล้ำขึ้นมาตามแนวของฟิลเลอร์ เรียกว่า ปรากฏการณ์ทินดอล(Tyndall effect) ซึ่งเกิดจากการฉีดตื้นในปริมาณที่มากเกินไปครับ
ซึ่งผลข้างเคียงสามข้อที่กล่าวมานี้ หากเกิดขึ้นก็สามารถรักษาได้โดยแพทย์ต้องมีประสบการณ์ก็จะสามารถแก้ให้กลับมาดูดีได้ครับ ดังนั้นใครที่เป็นก็ไม่ต้องกังวลใจนะครับ
- ปัญหาร่องใต้ตาเกิดจากสาเหตุหลากหลายมาก การวิเคราะห์ปัญหาต้องอาศัยประสบการณ์พอสมควร เพื่อที่จะเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่เหมาะและฉีดออกมาได้ผลดี เรียกได้ว่าเป็นจุดที่ปราบเซียนจุดนึงเลยทีเดียวครับ
สรุปแล้วการฉีดร่องใต้ตาควรทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มีความเชี่ยวชาญ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
เทคนิคพิเศษ ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ของเอ็มวีต้าคลินิก
ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาของเราจะมีการวิเคราะห์ปัญหาให้อย่างละเอียด เพื่อเลือกวิธีการฉีดและฟิลเลอร์ตัวที่เหมาะที่สุดในการรักษาเพื่อให้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์แบบครับ นอกจากนี้ด้วยประสบการณ์ในการฉีดเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2550 จึงรับประกันได้ว่าร่องใต้ตาจะดูเต็มสวย เรียนเนียน และไม่เกิดผลข้างเคียงอย่างแน่นอนครับ
- เข็มปลายทู่พิเศษ
นอกจากนี้ ในการฉีดร่องใต้ตาหมอจะใช้เข็มปลายทู่พิเศษหรือเข็ม cannula ทุกครั้งเพื่อลดการเกิดรอยช้ำและสามารถเติมร่องใต้ตาได้อย่างละเอียด และทั่วถึงครับ งานฉีดจะออกมาสวยสมูธครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตาเห็นผลทันทีเลยหรือไม่
สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์เลยครับ ว่าร่องใต้ตาจะดูเต็มและเรียบเนียนขึ้นทันทีครับ
ฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานไหม
ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิค ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว และร่างกายเรามีเอนไซม์ที่สามารถสลายมันได้เองครับ
ระยะเวลาในการที่ร่างกายจะสลายฟิลเลอร์นั้น จะแตกต่างกันขึ้นกับชนิดของฟิลเลอร์ที่ฉีด แต่โดยทั่วไปอาจกล่าวได้ว่า ฟิลเลอร์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ยกเว้นบางตัวอาจจะอยู่ได้นานกว่านั้น เช่น ปีครึ่งถึงสองปีได้ ซึ่งขึ้นกับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ดังที่หมอได้กล่าวไว้แล้วในส่วนบนของบทความนี้ครับ
ข้อควรปฏิบัติ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หากเป็นไปได้ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวด กลุ่ม NSAIDS ได้แก่ ibuprofen naproxen วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
- หากเป็นไปได้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการรักษา
- ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปากควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา เพราะ คุณหมออาจจะพิจารณา ให้ยาป้องกันการกำเริบของ โรคเริม หลังฉีดได้ในบางท่านครับ
ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
ทันทีหลังจากการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการผิวหนังบวมแดง อาการคันหรือคลำได้เป็นก้อนใต้ผิวหนังบริเวณที่ฉีด อาการเหล่านี้เป็นอาการปกติของการฉีดฟิลเลอร์ และอาการเหล่านี้มักหายไปเองภายใน 48 ชั่วโมง แต่ในบางรายอาจมีอาการบวมนานถึง 7-10 วัน และบางรายอาจเกิดขึ้นได้หลายสัปดาห์ การประคบเย็นหลังจากการฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยลดอาการบวมและแดงได้
โปรดปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
24 ชั่วโมงแรกหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการจับ ลูบคลำหรือนวดบริเวณที่ฉีด เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยา
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางและครีมบำรุงผิวภายใน 12 ชั่วโมงแรก
1 สัปดาห์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากเป็นเวลานานอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมและช้ำได้ตามที่ต้องการ
2 สัปดาห์หลังจากการฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนความร้อน เช่น ซาวน่า และการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน
- หลีกเลี่ยงการนวดใบหน้า
- หลีกเลี่ยงการจับ กด หรือบีบบริเวณที่ฉีด
เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- ในช่วงวันแรก หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ควรนอนราบ นอนตะแคง หรือเคลื่อนไหวในท่าก้มหัว ควรนั่งตัวตรง หรือยืนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเคลื่อนตำแหน่งของตัวยา
- นอนท่าศีรษะสูงเพื่อลดอาการบวม
- ควรนัดพบแพทย์เพื่อประเมินผลการรักษา 2 สัปดาห์หลังการฉีดฟิลเลอร์ และอาจมีการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มในกรณีที่จำเป็น
- โปรดปรึกษาแพทย์ หากเกิดข้อสงสัย หรือมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น
วิธีดูฟิลเลอร์ของแท้
- ดูเลขทะเบียน อย. ที่กล่องและเอกสารกำกับยา
- ดูเลขล็อตที่ผลิต ที่กล่องและหลอดฟิลเลอร์
- เช็คเลขล็อตของฟิลเลอร์และคลินิกที่มีการสั่งซื้อที่บริษัทจัดจำหน่าย
รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา ที่เอ็มวีต้าคลินิก
รีวิวคุณเอก ฟิลเลอร์ร่องใต้ตา ด้วย Restylane Defyne เทียบกับหลังทำเห็นผลได้ทันที
รีวิวฟิลเลอร์ร่องน้ำตาคุณเจิ้ง ด้วย Restylane Vital light เทียบก่อนและหลังทำทันที
รีวิวฟิลเลอร์ร่องน้ำตาคุณพลอย ใต้ตาดูเต็มเนียนสวยขึ้นทันทีครับ
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา คุณจูน พนิดา ใต้ตาดูเต็มเนียน ใต้ตาคล้ำดีขึ้น สวยขึ้นทันทีครับ
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา คุณฟิล์ม ด้วย Belotero Balance ใต้ตาดูเต็มเนียน ใต้ตาคล้ำดีขึ้น สวยขึ้นทันทีครับ
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา คุณส้ม ด้วย Belotero Balance ใต้ตาดูเต็มเนียน ใต้ตาคล้ำดีขึ้น สวยขึ้นทันทีครับ
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา ด้วย Belotero Balance จาก คุณมาย ร่องใต้ตาดูเรียบเนียน ใต้ตาคล้ำดีขึ้นทันทีหลังทำ
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา เติมร่องใต้ตา คุณน้ำฝน ดูเรียบเนียน ใต้ตาคล้ำดีขึ้นทันทีหลังทำ
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา คุณตุ้ก ร่องใต้ตาดูเรียบเนียน ใต้ตาคล้ำดีขึ้นทันทีหลังทำ
รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา คุณจง ปรับร่องใต้ตาดูเรียบเนียนทันทีหลังทำ
คุณหมอเอ็ม รับรางวัลจากบริษัท Allergan (และ Medyceles (ตัวแทนจำหน่าย Neuronox)
ปี 2561
Allergan : งาน The Professionista
Medyceles : คุณหมอเอ็มได้รับเกียรติเข้าร่วมงานเปิดตัวฟิลเลอร์จากเกาหลีใต้ Neuramis deep
ปี 2561
Medyceles : คุณหมอเอ็มได้รับเกียรติจากผู้แทนเชิญรางวัลมอบให้โดยตรงที่เอ็มวีต้าคลินิกครับ
ปี 2562
Allergan : คุณหมอเอ็มเข้าร่วมงานประชุมวิชาการอัพเดตความรู้เทคนิดการฉีดฟิลเลอร์แบบ MD codes distinction ซึ่งเป็นการวางระบบการฉีดให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามโดยคำนึงถึงใบหน้าองค์รวมที่ต้องมีความสมดุลกลมกลืนกันครับ
Galderma : คุณหมอเอ็มเข้าร่วมงานประชุมวิชาการของภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ที่จัดร่วมกับบริษัทกัลเดอร์มา ในหัวข้อ Empowering individual beauty เพื่ออัพเดตเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้าให้สวยงามในแบบเฉพาะบุคคล ให้คนไข้สวยในแบบที่เป็นตัวเองครับ
ปี 2562
Allergan : งาน Beauty decoded รับรางวัลประจำปี
ปี 2563
Aesthetics Master Class
Mers Aesthetic : MASJ Treatment Program
Mers Aesthetic : START PURE START RIGHT by Merz
Galderma : Top100 Exclusive Clinic จากบริษัท Galderma (Thailand) ซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมความงามระดับโลก Restylane, Dysport ซึ่งรางวัลนี้จะมอบให้กับคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้จากสวีเดน และเป็นคลินิก 100 อันดับแรกเท่านั้นในปี 2020