สิวที่คอ เป็นสิวที่พบได้บ่อยในบริเวณคอและหลังคอ เกิดจากหลายปัจจัย หากใครที่กำลังเจอปัญหาสิวบริเวณคออยู่ อาจทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ส่งผลต่อบุคลิกภาพและการเข้าสังคมได้
บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับสาเหตุ วิธีการรักษาสิวที่คอ และระยะเวลาในการหายของสิว โดยอธิบายถึงสาเหตุของการเกิดสิวบริเวณคออย่างละเอียด ยกตัวอย่างวิธีรักษาสิวที่ได้ผล และแนะนำวิธีป้องกันสิว เพื่อให้ผู้อ่านสามารถรักษาสิวที่คอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สวัสดีครับ เบื้องต้นหมอขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อ หมอเอ็ม นพ. มนตรี อุดมประเสริฐกุล จากเอ็มวีต้าคลินิกนะครับ
สิวที่คอ คืออะไร ? เกิดจากอะไร ?
สิวที่คอ เป็นสิวที่พบได้บ่อยในบริเวณคอและหลังคอ เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การผลิตน้ำมันที่มากเกินไป เซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิ่งสกปรก และแบคทีเรีย
สาเหตุสิวที่คอ เกิดจากอะไร ?
สิวที่คอเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- การผลิตน้ำมันที่มากเกินไป : บริเวณคอเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันอยู่มาก หากมีการผลิตน้ำมันที่มากเกินไปก็จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
- เซลล์ผิวที่ตายแล้ว : การผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากผิวอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วอุดตันรูขุมขน หากเซลล์ผิวที่ตายแล้วสะสมอยู่มากก็จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
- สิ่งสกปรก : สิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นละออง เหงื่อ และเครื่องสำอาง ก็อาจเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้
- แบคทีเรีย : แบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวก็อาจทำให้เกิดสิวได้
นอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิวที่คอ เช่น
- ฮอร์โมน : ฮอร์โมนบางชนิด เช่น ฮอร์โมนแอนโดรเจน อาจกระตุ้นให้เกิดสิว
- ยาบางชนิด : ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาลดความดันโลหิต และยาต้านฮอร์โมน อาจทำให้เกิดสิว
- โรคบางชนิด : โรคบางชนิด เช่น โรคเบาหวานและโรคไทรอยด์ อาจทำให้เกิดสิว
- พันธุกรรม : พันธุกรรมอาจมีส่วนทำให้เกิดสิว
ประเภทสิวบริเวณคอ
สิวที่คอสามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ตามลักษณะของสิว ดังนี้
- สิวอุดตัน เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนด้วยน้ำมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรีย มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก หัวสิวสีขาวหรือสีดำ
- สิวอักเสบ เป็นสิวที่เกิดจากการที่รูขุมขนเกิดการอักเสบและติดเชื้อ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง เจ็บ และอาจเกิดแผลเป็นตามมา แบ่งออกเป็นประเภทย่อยได้ดังนี้
- สิวหัวหนอง เป็นสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มผดแดง มีหัวหนองขาวๆเป็นจุดเล็กๆตรงยอด
- สิวตุ่มแดง เป็นสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนบวมแดง เจ็บ
- สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดใหญ่ แข็ง และเจ็บ
สิวที่คอ มีลักษณะอย่างไร ?
นอกจากนี้ ลักษณะสิวที่คอยังสามารถแบ่งออกตามลักษณะความรุนแรงของสิว ดังนี้
- สิวไม่รุนแรง เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก หัวสิวสีขาวหรือสีดำ มักไม่มีอาการอักเสบร่วมด้วย
- สิวปานกลาง เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงหรือสิวหัวหนอง มักมีอาการอักเสบร่วมด้วย
- สิวรุนแรง เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นสิวหัวช้างหรือสิวตุ่มแดง มักมีอาการอักเสบรุนแรง
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่คอ
สิวที่คอเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่างๆ เช่น การผลิตน้ำมันที่มากเกินไป เซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิ่งสกปรก และแบคทีเรีย การป้องกันสิวที่คอสามารถทำได้ดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น benzoyl peroxide, salicylic acid หรือ retinoid
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่เป็นสิว เพราะอาจทำให้สิวอักเสบรุนแรงขึ้น
- ไม่ใช้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน เช่น เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือซิลิโคน
- ดูแลเรื่องอาหารการกิน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลสูง เพราะอาจทำให้การผลิตน้ำมันบนผิวเพิ่มขึ้น
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะความเครียดอาจกระตุ้นให้เกิดสิว
ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับเพิ่มเติมในการป้องกันการเกิดสิวบริเวณคอ
- สระผมให้สะอาดเป็นประจำ เพื่อขจัดความมันและรังแคที่อาจตกค้างบนไหล่และคอ
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อลดการสะสมของเหงื่อและความชื้น
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสิ่งสกปรกหรือคราบน้ำมัน
- ทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และผ้าห่มเป็นประจำ
หากคุณปฏิบัติตามเคล็ดลับเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวรอบๆ คอได้
วิธีรักษาสิวที่คอด้วยตัวเอง
การรักษาด้วยตนเอง หากสิวที่คอไม่รุนแรง คุณสามารถรักษาด้วยตนเองได้ดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำ วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น benzoyl peroxide, salicylic acid หรือ retinoid
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่เป็นสิว
- ไม่ใช้เครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน
- ดูแลเรื่องอาหารการกิน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงและน้ำตาลสูง
- พักผ่อนให้เพียงพอ
หากใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวแล้วสิวยังไม่ดีขึ้น หรือสิวมีอาการอักเสบรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์
รักษาสิวที่คอ ด้วยวิธีไหนบ้าง
สิวบริเวณคอแก้ไขได้ด้วยวิธีการรักษาโดยแพทย์ หากสิวที่คอมีความรุนแรง หรือมีอาการอักเสบรุนแรง แพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้
- การรับประทานยาปฏิชีวนะมักใช้รักษาสิวที่อักเสบรุนแรง โดยยาปฏิชีวนะจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว
- การกดสิวเป็นวิธีรักษาสิวที่แพทย์จะทำการกดสิวเพื่อระบายหนองออกจากรูขุมขน การกดสิวควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
- การฉีดสิวเป็นวิธีรักษาสิวที่แพทย์จะฉีดสเปรย์หรือยาเข้าที่บริเวณที่เป็นสิวเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ
- การทำเลเซอร์เป็นวิธีรักษาสิวที่แพทย์จะใช้เลเซอร์เพื่อทำลายรูขุมขนที่อุดตัน และรักษารอยที่เกิดจากสิว
สิวบริเวณคอ อันตรายไหม
โดยปกติแล้ว สิวที่คอไม่อันตราย แต่เป็นปัญหาด้านความงามที่อาจทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ สิวรอบๆ คออาจทำให้เกิดอาการคันหรือเจ็บได้ หากสิวมีอาการอักเสบรุนแรง อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้
อย่างไรก็ตาม สิวบริเวณคออาจบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ เช่น
- โรคผิวหนังบางชนิด เช่น โรคโรซาเซีย (rosacea) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
- ภาวะฮอร์โมนผิดปกติ เช่น ภาวะต่อมหมวกไตทำงานมากเกินไป (hyperadrenocorticism) และภาวะไทรอยด์ทำงานเกิน (hyperthyroidism)
- การใช้ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์และยาต้านฮอร์โมน
หากสิวรอบๆ คอมีอาการรุนแรงหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น คันหรือเจ็บ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม
รักษาสิวที่คอ ที่ เอ็มวีต้า คลินิก
รักษาสิวที่คอ เอ็มวีต้า คลินิก ครบวงจร ทันสมัย ราคาย่อมเยา ให้บริการรักษาสิวบริเวณคอแบบครบวงจร ครอบคลุมทุกปัญหาสิว ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวเรื้อรัง และรอยสิว ดูแลโดย หมอเอ็ม นพ.มนตรี อุดมประเสริฐกุล อย่างใกล้ชิด โดยเลือกใช้เทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ
รักษาสิวที่คอ ราคา
รักษาสิวที่คอ ด้วย โปรแกรมรักษาสิวและเลเซอร์รอยสิวครบสูตร เป็นการรักษาสิวที่ประเมินการรักษาโดยแพทย์ และดำเนินการรักษาล้ำลึกตั้งแต่ต้นตอ จนถึงกระบวนการสุดท้ายที่เป็นการรักษารอยสิว ผลลัพธ์ที่ได้จากการเข้ารักษาสิวในโปรแกรม Medi-Aclear สิวลดลงและรอยสิวจะจางลงได้มากถึง 80-90% การันตีครับ
โปรแกรมรักษาสิวที่คอและเลเซอร์รอย Medi – Aclear
Medi – Aclear | คอร์ส 10 ครั้ง | คอร์ส 5 ครั้ง | รายครั้ง |
---|---|---|---|
ราคาเฉลี่ยต่อ 1 ครั้ง | 1,720.- | 2,100.- | 3,500.- |
ราคาคอร์ส | 17,000.- | 10,500.- | – |
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับสิวที่คอ ( Q & A )
Q : สิวที่คอรักษากี่วันถึงจะหาย
ระยะเวลาที่ใช้ในการรักษาสิวรอบๆ คอจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว โดยทั่วไปแล้ว สิวที่คอที่ไม่รุนแรงอาจหายได้ภายใน 1-2 สัปดาห์ หากสิวมีอาการอักเสบรุนแรง อาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนจึงจะหาย
Q : สิวที่คอ หายแล้วจะกลับมาเป็นอีกหรือไม่
สิวรอบๆ คอมีโอกาสกลับมาเป็นอีกได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สาเหตุของสิว ความรุนแรงของสิว วิธีการรักษา และการดูแลตนเอง อย่างไรก็ตาม หากสิวบริเวณคอเกิดจากปัจจัยถาวร เช่น พันธุกรรม สภาพผิว หรือโรคบางชนิด สิวอาจกลับมาเป็นอีกได้แม้หลังจากได้รับการรักษาแล้ว
สรุปเรื่อง สิวที่คอ
สิวที่คอเกิดจากรูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรีย พบได้บ่อยในวัยรุ่นและผู้ใหญ่ มักรักษาได้ด้วยตนเองโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยควบคุมความมันหรือยาทาสิว หากสิวมีอาการรุนแรง อาจต้องรักษาโดยแพทย์
ที่เอ็มวีต้า คลินิก เราเชี่ยวชาญเรื่องรักษาสิวทุกประเภท ด้วยวิธีที่ปลอดภัย ได้ผลรวดเร็ว และอยู่ในการดูแลของแพทย์ หากคุณกำลังเป็นสิวอยู่ แล้วอยากปรึกษากับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อนัดคิวพบหมอ หรือสอบถามโปรโมชั่น ได้ที่…
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่