เคยรู้สึกท้อแท้กับการเป็นสิวเรื้อรังไม่หายสักทีไหม? หรือยิ่งรักษาก็ยิ่งเกิดสิวซ้ำในจุดเดิม จนส่งผลกระทบต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ไม่ต้องกังวลไปครับ หมอเอ็ม จาก M VITA Clinic จะพาไปดูว่าสิวเรื้อรัง คืออะไร? มีประเภทไหนบ้าง? มีวิธีรักษาอย่างไร? และคอร์สรักษาสิวช่วยได้ไหม? ไปดูกันเลยครับ
สิวเรื้อรัง คืออะไร?
สิวเรื้อรัง คือภาวะที่เกิดสิวขึ้นซ้ำ ๆ ในบริเวณเดิม และมีอาการอักเสบต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือน โดยสิวอาจมีลักษณะเป็นตุ่มนูน มีการอักเสบ เป็นหนอง หรือเป็นก้อนไขมันใต้ผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน การระคายเคืองจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย รวมถึงการติดเชื้อทางผิวหนัง
ประเภทของสิวเรื้อรัง
สิวเรื้อรังสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักตามลักษณะการอักเสบ ได้แก่ สิวอักเสบและสิวอุดตัน ซึ่งแต่ละประเภทมีลักษณะและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน
1. สิวอักเสบ
สิวอักเสบเป็นสิวที่มีการอักเสบของผิวหนัง มีลักษณะเป็นตุ่มแดง บวม อาจมีหนอง และเจ็บเมื่อสัมผัส แบ่งเป็น
- สิวอักเสบไม่มีหัว : เป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก เจ็บเมื่อสัมผัส
- สิวหัวหนอง : มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีแดง มีหัวหนองสีขาวหรือเหลือง
- สิวหัวช้าง : เป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ บวมแดง และทำให้เจ็บมาก
2. สิวอุดตัน
สิวอุดตันเกิดจากการอุดตันของรูขุมขน ไม่มีการอักเสบ แบ่งเป็น
- สิวหัวปิด (สิวหัวขาว) : มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีขาวหรือสีเนื้อ
- สิวหัวเปิด (สิวหัวดำ) : มีลักษณะเป็นจุดดำที่รูขุมขน เกิดจากไขมันที่สัมผัสกับอากาศ
สิวเรื้อรังเกิดขึ้นที่ไหน?
สิวเรื้อรังสามารถเกิดขึ้นได้ในหลายบริเวณของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก มาดูกันว่าแต่ละบริเวณมีลักษณะอย่างไร
- สิวที่คาง
สิวที่คางมักเกิดจากฮอร์โมนที่ไม่สมดุล โดยเฉพาะในช่วงมีประจำเดือน หรือเกิดจากการระคายเคืองจากการโกนหนวด นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงหรืออาหารรสจัด
- สิวขึ้นแก้ม
สิวที่แก้มมักเกิดจากการสัมผัสกับสิ่งสกปรก เช่น โทรศัพท์มือถือ หมอน หรือหน้ากากอนามัย รวมถึงการใช้เครื่องสำอางที่อุดตันรูขุมขน และปัจจุบันพบปัญหา “maskne” หรือสิวจากการใส่แมสก์เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
- สิวขึ้นหน้าผาก
สิวที่หน้าผากมักเกิดจากความมันส่วนเกินบริเวณ T-Zone และการอุดตันจากผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการสวมหมวกหรือผ้าพันคอที่อับชื้น
- สิวที่หลัง
สิวที่หลังมักเกิดจากความอับชื้น เหงื่อ และการเสียดสีของเสื้อผ้า โดยเฉพาะหลังการออกกำลังกาย หรือการสวมเสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศ
วิธีรักษาสิวเรื้อรัง
วิธีรักษาสิวเรื้อรังมีหลายวิธี ดังต่อไปนี้
1. กดสิวเรื้อรัง
การกดสิวเป็นวิธีการรักษาที่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะการกดสิวที่ไม่ถูกวิธีอาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และทิ้งรอยแผลเป็นได้ ที่ M VITA Clinic มีขั้นตอนการกดสิวที่พิถีพิถัน เริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้า 2 ขั้นตอน ตามด้วยการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน และอบไอน้ำเพื่อเปิดรูขุมขน จากนั้นผู้เชี่ยวชาญจะใช้เทคนิคพิเศษในการกดสิวแบบละเอียด ด้วยเครื่องมือที่สะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อ พร้อมทั้งมีการฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วยการฉายแสง LED และการใช้ High Frequency เพื่อลดการอักเสบหลังกดสิว
2. ยารักษาสิว
การรักษาด้วยยาต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยแบ่งเป็น
- ยาทาภายนอก : มักใช้ยาที่มีส่วนผสมของ Benzoyl peroxide ที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือ Adapalene ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน ซึ่งจะช่วยลดการอักเสบและป้องกันการเกิดสิวใหม่
- ยารับประทาน : สำหรับสิวอักเสบรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะเพื่อลดการอักเสบ หรือยา Isotretinoin ในกรณีที่เป็นสิวเรื้อรังรุนแรง โดยจะมีการติดตามผลและปรับขนาดยาอย่างเหมาะสม
3. เลเซอร์สิวเรื้อรัง
เลเซอร์สิวเป็นนวัตกรรมการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง โดยที่ M VITA Clinic มีคอร์ส Medi-Aclear ที่ออกแบบมาเพื่อรักษาทั้งสิวและรอยสิวไปพร้อมกัน ด้วยเลเซอร์ QuadroStar ProYellow ซึ่งเป็นเลเซอร์มาตรฐานระดับสูง ผ่านการรับรองจาก อย. ไทยและทั่วโลก
โปรแกรมรักษาสิว Medi-Aclear ประกอบด้วยขั้นตอนการรักษาแบบครบวงจร
- ทำความสะอาดผิวหน้า 2 ขั้นตอน
- ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วย Tangerine Peel
- อบโอโซนเพื่อเปิดรูขุมขน
- กดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญด้วยเทคนิคพิเศษ
- Acne Spark เพื่อลดการอักเสบของสิว
- ฉายแสง LED เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- ฉีดสิวอักเสบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- มียาทาสูตรพิเศษและยารับประทานในคอร์ส
การรักษาด้วย QuadroStar ProYellow จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ทั้งสิวและรอยสิวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาทั้งสิวและรอยสิวไปพร้อมกัน โดยจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่รักษา และดียิ่งขึ้นเมื่อทำอย่างต่อเนื่อง
4. ใช้คลื่นวิทยุ RF รักษาสิวเรื้อรัง
การรักษาด้วยคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency) เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพในการรักษาสิวเรื้อรัง โดยเฉพาะการรักษาหลุมสิว มีกลไกการทำงานดังนี้
- ส่งคลื่นความร้อนลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้
- ลดการทำงานของต่อมไขมัน ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวเรื้อรัง
- ล้างหน้าให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน วันละ 2 ครั้ง
- หลีกเลี่ยงการแตะหรือบีบสิว
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic)
- ทาครีมกันแดดทุกวัน
- เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าเป็นประจำ
- รักษาความสะอาดของโทรศัพท์มือถือและแมสก์
- พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารมันและรสจัด
สรุปบทความ
เป็นสิวเรื้อรังไม่หายสักที ต้องอาศัยความอดทนและการดูแลอย่างต่อเนื่องครับ สำหรับใครที่ต้องการให้สิวเรื้อรังหายโดยเร็ว และต้องการลดการรับประทานยา ที่ คลินิกรักษาสิว ใกล้ฉัน M VITA Clinic ตอบโจทย์คนเป็นสิวไม่หายอย่างแน่นอนครับ เพราะเรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาแบบองค์รวม พร้อมกับโปรแกรมการรักษาที่ออกแบบมาอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การรักษาสิวไปจนถึงรอยสิวหรือหลุมสิว ทำให้ใบหน้ากลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง ผิวหน้าโดยรวมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ ใครที่สนใจรักษาสิวเรื้อรัง สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาหมอได้ที่นี่ครับ…