สิวผด

ไขข้อสงสัย สิวผด คืออะไร รักษาให้หายได้อย่างไร

สิวผด เป็นปัญหาที่หลายคนกำลังพบเจอและสร้างความกังวลใจไม่น้อย เพราะแม้จะไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บหรือเห็นได้ชัดเหมือนสิวอักเสบ แต่ก็ทำให้ไม่มั่นใจเนื่องจากทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน แถมยังเป็นๆ หายๆ อีกด้วย หากไม่รักษาหรือป้องกันที่ต้นเหตุก็อาจทำให้เกิดสิวตุ่มผดซ้ำๆ ไม่หายขาด

ดังนั้น วันนี้ผม หมอเอ็ม นพ.มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิก จะมาบอกวิธีการรักษาสิวผดและวิธีป้องกันการเกิดสิวเม็ดผดที่ถูกต้องให้ทุกคนได้ทราบกันครับ

รวม 7 วิธีรักษาสิวผดให้หายขาด

วิธีรักษาสิวผดให้หายขาดนั้นมีทั้งวิธีทั่วไปและวิธีเร่งด่วนที่จะทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนได้เร็วขึ้น ถ้าปฏิบัติตนตามนี้โอกาสที่สิวผดจะหายขาดและไม่ต้องรักษาเพิ่มเติมนั้นเป็นไปได้แน่นอน

1. ล้างหน้าให้ถูกวิธี

ล้างหน้าให้ถูกวิธี

การล้างหน้าให้สะอาดเป็นขั้นตอนที่สำคัญทั้งในการรักษาสิวผดและป้องกันการเกิดสิว เริ่มจากการเช็ดเครื่องสำอางออกให้สะอาด หลีกเลี่ยงการขัดถูแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง แล้วใช้ผ้าซับเบาๆ ซึ่งการล้างหน้าที่ถูกวิธีจะช่วยกำจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวชนิดผดเห่อด้วยนั่นเอง

2. งดการสัมผัสใบหน้า

งดการสัมผัสใบหน้า

มือของเรามักสัมผัสสิ่งต่างๆ ตลอดวัน ทำให้มีเชื้อแบคทีเรีย สิ่งสกปรก และน้ำมันสะสมอยู่ เมื่อเราแตะหน้าบ่อยๆ สิ่งเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดสู่ผิวหน้า นำไปสู่การเกิดสิวมากกว่าเดิมได้ นอกจากนี้ การบีบ แคะหรือแกะสิวยังทำให้เกิดการอักเสบและสิวเห่อขึ้นด้วย หากจำเป็นต้องแตะหน้าจริงๆ แนะนำให้ล้างมือให้สะอาดก่อนเสมอ

3. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว

เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว

การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสิวผด ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่อุดตันรูขุมขน (Non-comedogenic) และปราศจากน้ำมัน (Oil-free) สำหรับครีมกันแดด ให้เลือกชนิดเนื้อเบา และมีค่า SPF อย่างน้อย 30

4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อาหารที่เรารับประทานมีผลโดยตรงต่อสุขภาพผิว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จึงเป็นวิธีหนึ่งในการช่วยรักษาสิวประเภทผด ควรเน้นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อช่วยขับสารพิษและรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว

5. หลีกเลี่ยงแสงแดด และรังสียูวี

หลีกเลี่ยงแสงแดด และรังสียูวี

แสงแดดและรังสียูวีเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวประเภทผดและทำให้อาการรุนแรงขึ้น รังสียูวีทำให้ผิวระคายเคือง เกิดการอักเสบ ซึ่งนำไปสู่การเกิดสิว นอกจากนี้ ยังทำให้รอยดำจากสิวเข้มขึ้นและหายช้า ดังนั้น ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และมีคุณสมบัติป้องกันทั้ง UVA และ UVB

6. ใช้ยาช่วยรักษาสิว

ยารักษาสิว

สำหรับยาที่ใช้ในการรักษาสิวผดนั้นมีทั้งประเภทยาทาและยารับประทาน ยกตัวอย่างเช่น

รักษาด้วยกลุ่มยาทา

  • ตัวยาที่มีส่วนผสมของคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) เป็นยาทาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อยีสต์ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของสิวผด
  • ยาทากลุ่มสเตียรอยด์จะเข้าไประงับการเกิดผดผื่นและอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้น (แต่ต้องใช้เพียงชั่วคราวภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น)
  • ยาทาในกลุ่ม BHA หรือ กรดซาลิไซลิค (Salicylic acid) ในความเข้มข้นน้อยๆ จะมีฤทธิ์ผลัดผิวอ่อนๆ ช่วยรักษาสิวประเภทผดบางชนิดได้ ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์

รักษาด้วยกลุ่มยารับประทาน

  • ยาปฏิชีวนะ
  • ยาฆ่าเชื้อรา
  • ยากลุ่มอนุพันธ์ของกรดวิตามินเอใช้รักษาในผู้ที่เป็นสิวประเภทผดบางชนิดในระดับรุนแรงมาก และไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบอื่น

ยิ่งคนไข้ที่มีอาการคันและแสบแบบเรื้อรัง รักษาด้วยการทายาทั่วไปไม่ได้ผล ควรเข้าพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัย และจ่ายยาที่เหมาะสมเพื่อรักษาให้หายขาดต่อไป

7. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง

หากทดลองวิธีรักษาสิวผดด้วยตนเองแล้วไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรงมากกว่าเดิม ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง แพทย์จะวินิจฉัยสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดสิว ซึ่งอาจเกิดจากการแพ้ หรือโรคผิวหนังอื่นๆ และให้การรักษาที่เหมาะสม

สำหรับท่านที่กำลังมองหา คลินิกรักษาสิวใกล้ฉัน? คลิกเลย!

สิวผด คืออะไร

สิวผด คืออะไร

สิวผด คือ ภาวะทางผิวหนังที่มีลักษณะเป็นตุ่ม หรือผดผื่นเล็กๆ กระจายตัวอยู่บนผิวหนัง ซึ่งอาจไม่ใช่สิวเสมอไป โดยลักษณะของผดอาจเป็นได้หลายแบบ คือ

  • ตุ่มขาว
  • ตุ่มน้ำใส
  • ตุ่มแดง
  • ตุ่มหนอง

อาจพบอาการคันร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ และถ้าเอามือลองไปสัมผัสจะรู้สึกถึงความนูนของตัวผดผื่นเป็นเม็ด แต่ถ้ากดดูจะไม่แข็งเหมือนหัวสิว โดยส่วนใหญ่สิวแบบผด มักจะยุบๆ เห่อๆ ไม่คงที่ โดยมักจะยุบลงหรือดูเรียบตอนเช้า และค่อยๆ เห่อขึ้นในช่วงบ่ายถึงเย็น

สิวผด เกิดจากอะไร

สิวผด เกิดได้จากโรคทางผิวหนังหลายชนิด ดังนั้นถ้าตรวจเจอ เราต้องหาโรคที่เป็นต้นเหตุของสิวชนิดนี้ก่อน เมื่อหาได้แล้ว หากเรารักษาโรคนั้นให้หาย สิวก็จะหายตามเช่นกัน ซึ่งโรคที่เป็นเหตุของสิวผด มีดังนี้

สิวผดจากโรค Acne Aestivalis หรือ Mallorca Acne

สิวผดจากโรค Acne Aestivalis หรือ Mallorca Acne เป็นสิวประเภทหนึ่ง (Acne variants) ที่เกิดขึ้นได้เมื่อผิวโดนแดด (Polymorphic light eruption) โดยเฉพาะแสง UVA จะกระตุ้นได้มากที่สุด

สิวผดจากโรค Acne Aestivalis หรือ Mallorca Acne

ลักษณะสิวผดแบบนี้ มักเป็นตุ่มขาว อาจมีหัวสิว (comedone) มักเกิดค่อนข้างช้า ประมาณ 1-3 วัน หลังโดนแดด

สิวผดจากโรคต่อมเหงื่ออุดตัน Miliaria

สิวผดจากโรคต่อมเหงื่ออุดตัน Miliaria เกิดจากการอุดตันของท่อเหงื่อที่อยู่ในผิวหนัง ซึ่งเกิดขึ้นได้เมื่อผิวโดนแดด (Polymorphic light eruption) โดยเฉพาะแสง UVA จะกระตุ้นได้มากที่สุด

โรคนี้มีชื่อเรียกง่ายๆ ว่า ผดร้อน Prickly heat เกิดจากความร้อนทำให้เหงื่อระบายออกไม่ได้และสะสมใต้ผิว กลายเป็นผดผื่นขึ้น สิวแบบนี้ลักษณะจะเป็นตุ่มขาว ตุ่มน้ำใส ไม่ค่อยมีอาการคัน

สิวผดที่เกิดจากผิวหนังอักเสบ

ผิวหนังอักเสบ Dermatitis เป็นโรคที่ผิวหนังถูกกระตุ้น จากนั้นจึงเกิดผื่นแดง คัน ส่วนใหญ่ผื่นที่ขึ้นจะเป็นวงปื้น เป็นแถบกว้างๆ แต่มีส่วนน้อยที่ผื่นจะขึ้นก็เป็นตุ่มเล็กๆเหมือนสิวผดได้ครับ

สิวผดจากผิวหนังอักเสบ มักจะเป็นตุ่มแดง ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง ไม่ค่อยจะเป็นตุ่มขาวครับ

สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดผิวหนังอักเสบ ได้แก่

  • ฝุ่นละออง PM 2.5 หรือเชื้อโรคต่างๆ ในอากาศสามารถกระตุ้นสิวผดได้
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หรือเครื่องสำอาง เช่น โฟมล้างหน้า โทนเนอร์ เซรั่ม ที่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ก็อาจเกิดเป็นสิวชนิดผดได้เช่นกัน
  • การใส่หน้ากากอนามัย การใช้สัมผัสผิวหน้าด้วยมือที่ไม่สะอาดบ่อยๆ 
  • ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจเป็นสาเหตุได้เช่นกัน

พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันอื่นๆ เช่น การล้างหน้าบ่อยๆ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ชั้นผิวบางลง จากสารชะล้างในโฟมล้างหน้า ส่งผลให้เกราะป้องกันผิวถูกทำลาย ผิวจึงเกิดการระคายเคืองและเกิดสิวได้ในที่สุดครับ

สิวผดที่เกิดจากรูขุมขนอักเสบจากเชื้อยีสต์กลุ่มมาลาสซีเซีย Malassezia Folliculitis

สิวผดที่เกิดจากรูขุมขนอักเสบจากเชื้อยีสต์กลุ่มมาลาสซีเซีย

เชื้อยีสต์นี้ปกติพบอาศัยอยู่บนผิวหนังอยู่แล้ว แต่ในบางสภาวะอาจทำให้เชื้อเพิ่มจำนวนมากผิดปกติก็อาจทำให้เกิดลักษณะแบบสิวผดได้ โดยมักเป็นตุ่มแดงหรือตุ่มหนอง และมักมีอาการคันร่วมด้วย เช่น ในผู้ที่มีเหงื่อออกง่าย หรืออยู่ในสภาพอากาศร้อนชื้น หรือผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะหรือยากดภูมิคุ้มกันบางชนิดเป็นเวลานานๆ

รักษาสิวกับแพทย์
Line @ : @mvitaclinic

สิวผดต่างจากสิวอุดตันหรือไม่

สิวผดและสิวอุดตันดูเผินๆ อาจจะรู้สึกว่าเหมือนกัน แต่จริงๆ มีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกัน

  • สิวอุดตัน จะเกิดจากการที่ผิวมีความมันเนื่องด้วยผิวมีการผลิตน้ำมันมากกว่าปกติหรือเกิดจากการแบ่งเซลล์ผิวในรูขุมขนมากผิดปกติทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตัน โดยไม่มีการอักเสบ เจ็บ คันหรือแสบใดๆ 
  • แต่ถ้าเป็นสิวแบบผด จะขึ้นมาเป็นตุ่มเล็กๆ อาจพบอาการแสบหรือคันได้ แล้วก็จะมีอาการยุบๆเห่อๆ ขึ้นอยู่กับอากาศ ความเครียด หรืออาการแพ้เครื่องสำอาง ดังนั้น รูปแบบการรักษาจึงต่างกันด้วย
สิวผด สิวอุดตัน

ตารางสรุปความแตกต่างระหว่างสิวผด และสิวอุดตันแบบเข้าใจง่าย

สิวผดสิวอุดตัน
เป็นตุ่มผดผื่นเล็กๆ สีอาจขาว แดง ใส หรือเป็นตุ่มหนอง มักไม่มีหัว อาจมีอาการแสบ คันได้เป็นสิวอุดตันในรูขุมขุน มีหัว สีขาวหรือสีดำ ไม่ค่อยมีอาการแสบ คัน
ส่วนใหญ่ไม่สามารถบีบออกได้ ถ้ากดจะเป็นน้ำใสๆ (ยกเว้นสิวผดแบบ Acne Aestivalis)ส่วนใหญ่ไม่สามารถบีบออกได้ ถ้ากดจะเป็นน้ำใสๆ (ยกเว้นสิวผดแบบ Acne Aestivalis)
หายเองได้ แต่ก็กลับมาเป็นใหม่ได้อีกไม่หายไปเอง
เกิดจากโรคทางผิวหนังหลายชนิด ต้องวินิจฉัยโรคที่เป็นสาเหตุเพื่อรักษาให้ถูกจุดเกิดจากการสะสมของน้ำมันกลายเป็นหัวสิว Comedone อุดตันในรูขุมขน

วิธีรักษาสิวผดแบบเร่งด่วน ให้หายขาด

สำหรับใครที่ต้องการรักษาสิวผดให้หายขาด ไม่ทิ้งรอย และหายได้แบบทันใจ แนะนำให้ทำการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาแนวทางการรักษาครับ

รักษาสิวผด ผื่นแพ้ จากการสัมผัสสารระคายเคือง แนะนำ โปรแกรมเดอร์มาคาล์มมิ่ง (Dermacalming) ครับ

โปรแกรม เดอร์มาคาล์มมิ่ง (Dermacalming)

โปรแกรมเดอร์มาคาล์มมิ่งนี้ ไม่เพียงแต่จะรักษาในเรื่องของอาการผื่นแดง แสบ คัน เท่านั้น แต่จะต้องรักษาผิวให้มีความแข็งแรง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาผื่นแพ้กำเริบขึ้นมาอีกในระยะยาวครับ

Derma Calming
Derma Calming ราคา

ส่วนกรณีสิวเกิดจากผิวหนังอักเสบ เริ่มเป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง มีการอุดตัน หมอแนะนำ โปรแกรมรักษาสิว Acni – Clear ครับ

โปรแกรมรักษาสิว Acni – Clear

Acni–Clear คอร์สรักษาสิว 6 ขั้นตอน หมอออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ตามแนวคิดการรักษาสิว เพื่อแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุของการเกิดสิวจริงๆ ซึ่งโปรแกรมนี้จะช่วยเคลียร์สิว รักษาสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวผด สิวมีหัว

คอร์สรักษาสิว
Acni-Clear รักษาสิว
รักษาสิวกับแพทย์
Line @ : @mvitaclinic

บริเวณที่มักเกิดสิวผด

สิวผด สิวอุดตัน

สำหรับท่านไหนที่ยังไม่แน่ใจว่าสิวที่เป็นอยู่นั้น จะใช่สิวผดหรือไม่? สามารถเช็กได้ตามจุดต่าง ๆ ทั้งบนใบหน้าหรือส่วนอื่นๆ ตามร่างกาย โดยจะพบมากในตำแหน่งเหล่านี้

สิวผดที่หน้าผาก

สิวผดที่หน้าผากมักเป็นในคนที่ต้องออกแดดอยู่บ่อยๆ เพราะหน้าผากเป็นจุดที่โดนแสงแดดมาก ความร้อน หรือคราบเหงื่อ การไว้ผมหน้าม้า และการสัมผัสหน้าผากบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้เป็นสิวชนิดนี้ได้ง่าย หรือการเปลี่ยนแชมพู ครีมนวดผม ที่อาจระคายเคืองผิวก็อาจทำให้เกิดสิวที่หน้าผากได้เช่นกัน

สิวผดที่แก้ม

สิวผดที่แก้ม พบได้เช่นกันแต่ไม่บ่อยเท่ากับบริเวณหน้าผาก โดยจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อากาศร้อน การโดนแสงแดด หรือการแพ้สกินแคร์หรือเครื่องสำอาง เพราะเป็นจุดที่คนมักเน้นการทาหรือใช้สารต่างๆ เหล่านี้เยอะ

สิวผดที่คาง

สิวผดที่คาง เกิดขึ้นได้จากการแพ้สกินแคร์ต่างๆ ยาสีฟัน หรืออาจเป็นเพราะทำความสะอาดใบหน้าได้ไม่ดีพอ และในปัจจุบันอาจเกิดจากการใส่หน้ากากอนามัยจนทำให้ผิวบริเวณคางอับชื้นและเกิดสิวผดตามมาได้

สิวผดที่จมูก

มักเป็นสิวที่ขึ้นบริเวณสันจมูกหรือข้างจมูก เกิดจากการระคายเคืองของผิว เช่น การใส่หน้ากากอนามัย ทำให้เมื่อมีเหงื่อออกแล้วเกิดการอับชื้น หรือการโดนแดดก็ทำให้เกิดสิวชนิดนี้ได้เช่นกัน

สิวผดที่หลัง และ ต้นแขน

มักพบได้บ่อยจากการที่เหงื่อออกและทำให้เกิดการอับชื้นใต้ร่มผ้า หรือเกิดจากการที่เสื้อผ้าเสียดสีผิวหนังทำให้เกิดการระคายเคือง รวมไปถึงการทำความสะอาดที่ทำได้ไม่ดีก็อาจทำให้เกิดสิวประเภทนี้ขึ้นที่หลังได้

สิวผด ที่หลัง

วิธีการดูแลเมื่อเป็นสิวผดด้วยตนเอง

วิธีดูแลผิว เมื่อเป็นสิวผด

ในช่วงของการรักษาสิวผดอยู่ แนะนำให้ดูแลตัวเองเพิ่มเติมด้วย โดยหมอขอแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง ดังนี้ครับ

  • งดสัมผัสผิวหน้าบ่อยๆ และงดแกะ เกาสิวผด เพราะจะทำให้สิวเห่อจากการไปกระตุ้นสิวให้ลุกลามกว่าเดิม
  • งดใช้ครีมหรือยาที่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง
  • พยายามหลบแดดให้มากที่สุด เพื่อลดการสัมผัสรังสี UVA อาจทำให้สิวผดดีขึ้นโดยไม่ต้องใช้ยาเลยครับ
  • พยายามหลบร้อน งดสตีม ซาวน่า อยู่ในที่อากาศเย็นๆ ก็ช่วยให้สิวผดดีขึ้นได้เช่นกัน
  • ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ (ควรล้างเพียง 2 ครั้งต่อวัน) งดขัดหรือถูแรงๆ
  • ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้ผิว
  • ล้างหน้าให้สะอาด ด้วยการ double cleansing
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมผิวให้แข็งแรง โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ก็ควรปราศจากสารกันเสีย พาราเบน พาราฟิน สี น้ำหอม แอลกอฮอล์ และซิลิโคนที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย

ป้องกันการเกิดสิวผดได้ด้วยวิธีใดบ้าง

  1. หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดเพื่อลดการสัมผัสรังสี UVA หรือทำการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
  2. ทำความสะอาดใบหน้าให้ดีทุกครั้ง หากแต่งหน้าก็ควรเช็ดเครื่องสำอางให้สะอาด รวมถึงล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และควรล้างหน้าด้วยโฟมที่อ่อนโยนต่อผิว เช่น เลือกโฟมที่ไม่มีส่วนผสมของ Sodium Lauryl Sulfate (SLS) เป็นต้น
  3. เลือกสกินแคร์หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนกับผิวหน้า โดยเน้นการให้ความชุ่มชื้นกับผิว อย่าปล่อยให้ผิวแห้งกร้าน 
  4. นอนหลับให้เพียงพอ
  5. ทำจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียด
รักษาสิวผด

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวผด ( Q & A )

Q : สิวผดอันตรายไหม ?

สิวผดไม่ได้เป็นอันตรายใดๆ แต่มักสร้างความรู้สึกกังวลและความรำคาญใจอยู่ไม่น้อย เพราะอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกแสบและคันได้ในช่วงเวลาที่เกิดอาการสิวเห่อ 

ซึ่งเรื่องนี้สามารถแก้ไขได้ตามวิธีที่หมอแนะนำไป รวมถึงการป้องกันไว้ก่อน จะช่วยลดการเกิดสิวได้ด้วยเช่นกันครับ

Q : สิวผดเป็นกี่วันหาย ?

สิวผดเป็นประเภทสิวที่เกิดขึ้นได้ง่าย เพราะอากาศประเทศไทยค่อนข้างร้อน และมีอากาศที่อับชื้นจึงเกิดสิวได้บ่อย 

สิวชนิดนี้บางทีก็หายได้เองในเวลาอันสั้น เช่น 1-2 อาทิตย์ แต่บางทีหายแล้วก็เป็นขึ้นมาอีก เห่อๆ ยุบๆ อยู่เรื่อยๆ กรณีแบบนี้อาจต้องพึ่งการรักษาที่เข้มข้นขึ้น ซึ่งการรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการและสาเหตุของแต่ละคนว่าเป็นมากหรือน้อย แต่ส่วนใหญ่จะหายได้ใน 1-2 เดือนหากทำการรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้อง รวมถึงหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ ในการเกิดสิวผดได้ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นอย่างชัดเจนครับ

Q : สิวผดบีบได้ไหม ?

สิวแบบผดเป็นประเภทสิวที่มักไม่มีหัว ส่วนใหญ่ไม่สามารถบีบออกได้ จึงไม่ควรแกะหรือบีบเพราะจะทำให้สิวเห่อมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสร้างรอยแผลดำให้เกิดขึ้นได้ง่ายด้วย

สรุป สิวผด

สรุปแล้ว สิวผด เป็นประเภทสิวที่ไม่ได้เป็นอันตรายหรือสร้างความเจ็บปวด แต่มักสร้างความรำคาญและความกังวลใจให้กับคนไข้ได้ โดยเฉพาะเรื่องความสวยความงาม เนื่องจากเป็นสิวที่มักเป็นๆ หายๆ ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน และถ้ายิ่งแต่งหน้าเป็นประจำหรือออกแดดบ่อยๆ สิวผดจะยิ่งเห่อทำให้หมดความมั่นใจได้ 

ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือการรู้ว่า ทำไมสิวผดถึงขึ้น เกิดจากอะไร และจะรักษาอย่างไรให้หายไป ซึ่งหมอเอ็ม ยินดีที่จะให้คำปรึกษากับคนไข้ สามารถเข้ามาปรึกษาและสอบถามได้ที่ Mvita Clinic ฟรี! ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มใดๆ เพื่อการรักษาสิวอย่างตรงจุด สามารถติดต่อมาได้ครับที่…

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*:

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษา นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า