หลุมสิวเป็นปัญหาผิวหน้าที่เกิดจากการเป็นสิวอย่างหนัก เราอาจจะเผลอไปจับ แคะ แกะ หรือเการะหว่างที่สิวยังไม่หาย ส่งผลให้สิวมีอาการอักเสบขึ้น จนกระทั่งเซลล์ผิวหนังบริเวณที่เป็นสิวถูกทำลายอย่างรุนแรง และไม่สามารถฟื้นฟูผิวส่วนนั้นให้กลับมาเรียบเนียนดังเดิมได้อีก
ปัญหานี้จะต้องใช้เวลาในการรักษาเป็นอย่างมาก การรักษาแบบทั่วไปอย่างการทาครีมบำรุงผิวหรือแต่งหน้าปกปิดรอยสิวก็ไม่เพียงพอ ปัจจุบันมีนวัตกรรมเสริมความงามมากมายที่ช่วยรักษารอยสิว หนึ่งในนั้นก็คือ การทำเลเซอร์หลุมสิวและการใช้คลื่นวิทยุ RF ในการรักษาหลุมสิว เรามาทำความรู้จักทั้ง 2 นวัตกรรมกันได้ในบทความนี้
ก่อนอื่นหมอขออนุญาตแนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อหมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกนะครับ
เลเซอร์หลุมสิว คืออะไร
เลเซอร์หลุมสิว คือ นวัตกรรมการรักษาแผลสิวที่กลายเป็นหลุม บริเวณผิวหน้า โดยการใช้เลเซอร์กระตุ้นให้เซลล์ผิวชั้นหนังแท้ซ่อมแซมตัวเอง โดยไม่ทำลายผิวบริเวณอื่นที่ไม่มีปัญหา พร้อมด้วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวที่เสียหาย ซึ่งเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ทำให้ผิวที่เป็นหลุมสิว กลับมาตื้นและเรียบเนียนขึ้นได้
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เลเซอร์รอยสิว ได้ที่นี่
RF หลุมสิว คืออะไร
ส่วนการใช้คลื่นวิทยุ RF ในการรักษาหลุมสิว ก็คล้ายเลเซอร์รักษาหลุมสิว เพียงแต่ต่างกันที่พลังงานที่ใช้จะเป็นคลื่นวิทยุความถี่สูง Radiofrequency แทน ซึ่งจะลงลึกสู่ใต้ผิวได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม การรักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ และคลื่นวิทยุ ก็เหมือนกับการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีอื่นๆ คือจะค่อยๆ ให้ผลการรักษาที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ครั้ง จึงแนะนำให้ทำต่อเนื่องอย่างน้อย 5-6 ครั้งเพื่อให้ได้ผลที่ดี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและสภาพหลุมสิวของแต่ละคน อาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลุมสิวที่เป็น แต่ผลลัพธ์จะดีขึ้นตามลำดับ และถาวรอย่างแน่นอน
มาทำความรู้จัก “หลุมสิว” กันก่อน
ก่อนอื่นที่เราจะเข้าสู่เนื้อหาเกี่ยวกับการเลเซอร์หลุมสิว เรามาทำความรู้จักหลุมสิวให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่าครับ
หลุมสิวเกิดจากอะไร
หลุมสิว เกิดจาก สิว สิวอักเสบ โดยเฉพาะสิวอักเสบเม็ดใหญ่ เช่น สิวหัวช้าง เป็นต้น เนื่องจากเมื่อมีปฏิกิริยาการอักเสบจะทำลายโครงสร้างผิวและทำให้เกิดแผลขึ้น หลังเกิดแผลผิวก็จะพยายามซ่อมแซม จึงเกิดพังผืดที่ดึงรั้งไม่ให้ผิวกลับมาเรียบดังเดิม จึงทำให้เกิดหลุมสิวขึ้นมา
การเกิดหลุมสิว มีสาเหตุจากหลายๆปัจจัยครับ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลให้หลุมสิวเป็นมากน้อยต่างกันด้วย
- สิวอักเสบ ถ้ารุนแรงหรืออักเสบลึกมากก็จะเกิดเป็นแผลกินเนื้อลึกครับ ทำให้เกิดเป็นหลุมสิวได้ง่ายนั่นเองครับ
- ลักษณะทางกรรมพันธุ์ หากคนไข้ที่มีคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นหลุมสิวง่าย ก็มีโอกาสจะเป็นหลุมสิวได้ง่ายเช่นกันครับ
- การบีบ แกะ เค้นสิว สาเหตุของการเป็นแผลสิว อาจจะทำให้เสี่ยงที่จะเกิดแผลเป็นหลุมสิวได้มากขึ้นครับ
หลุมสิวมีกี่ประเภท
- หลุมสิวแบบรูเจาะ “Ice pick”
เป็นหลุมสิวที่อยู่ในกลุ่มที่ลึกที่สุด รักษาได้ยากที่สุด จะมีลักษณะเป็นรูแคบๆก้นหลุมลึก ลึกลงไปในชั้นหนังแท้เลยทีเดียว หลุมสิวประเภทนี้มักอยู่เป็นกลุ่มๆ พบบริเวณแก้ม จมูก ลักษณะดูคล้ายรูน้ำแข็งที่โดนที่เจาะ
- หลุมสิวแบบกล่อง “Boxcar”
หลุมสิวชนิดนี้ พบได้ค่อนข้างบ่อย มักเป็นที่ขมับและแก้ม ลักษณะของหลุมความกว้างจะกว้างกว่า แต่มักจะตื้นกว่าแบบแรก (แต่ก็มีในบางเคสที่หลุมแบบนี้จะลึกมากๆลงไปถึงชั้นใต้ผิวเลยก็มี) ลักษณะของหลุมจะมีขอบและฐานหลุมกว้างพอๆกัน ลักษณะคล้ายล้อรถทับ และขอบหลุมจะคมชัดและแข็ง มีพังผืดเกาะค่อนข้างมาก
- หลุมสิวแบบคลื่น “Rolling”
หลุมชนิดเกิดจากมีพังผืดเกิดขึ้นใต้ผิว ลักษณะเป็นหลุมกว้าง มีลักษณะฐานตื้นโค้งคล้ายก้นกระทะ ขอบไม่ค่อยชัด และไม่แข็ง เวลาดึงผิวตึงแล้วหลุมจะดูเรียบขึ้นได้ จัดได้ว่าเป็นหลุมสิวที่รักษาได้ง่ายที่สุด
วิธีรักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง
- รักษาหลุมสิวด้วยครีมหรือการทายา
ครีมหรือการทายา มีผลช่วยให้หลุมเต็มขึ้นได้น้อยมาก ปัจจุบันยาในกลุ่มทาเพียงชนิดเดียวที่มีงานวิจัยรับรอง ว่าพอจะช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้บ้างคือ กรดวิตามินเอ หรืออนุพันธ์อื่นของวิตามินเอ แต่ได้ผลน้อยมาก และยังมีข้อจำกัดในการใช้ยา เนื่องจากอาจระคายเคืองผิวได้หากใช้ไม่ถูกต้อง ส่วนครีมชนิดอื่น งานวิจัยยังไม่ได้สรุปจึงยังไม่สามารถรับรองผลได้ว่าจะช่วยหลุมสิวได้มากน้อยจริงแค่ไหน
- รักษาหลุมสิวด้วยการทานยา
การทานยา ยังไม่มีงานวิจัยใดพบว่า มียารับประทานหรือวิตามินตัวไหนที่จะช่วยในเรื่องของการรักษาหลุมสิวได้ หมอขอแนะนำห้ามหลงเชื่อและซื้อยารับประทาน หรือวิตามินใดๆ ที่วางขายทางอินเทอร์เน็ตเด็ดขาดครับ
- รักษาหลุมสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical peeling) เป็นการใช้กรดทางการแพทย์ชนิดต่างๆ ในการลอกเซลล์ผิวออกเพื่อรักษาปัญหาผิวพรรณ ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น ไม่สนับสนุนคนไข้ซื้อมาแต้มเองเด็ดขาด เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงหรือผิวไหม้ได้
- รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์รักษาหลุมสิว
- รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์หลุมสิวเพื่อปรับสภาพผิวเป็นส่วนๆ Fractional Laser
- รักษาหลุมสิวด้วยคลื่นวิทยุ Fractional RF
หมอจะให้รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนของเลเซอร์, Fractional Laser และ Fractional RF ในหัวข้อถัดไปนะครับ
- รักษาหลุมสิวด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดหลุมสิว ได้แก่ วิธี Subcision ซับซิชั่น เป็นการใช้เข็มเข้าไปตัดเซาะพังผืดใต้ผิวหนัง ให้ผลลัพธ์ค่อนข้างดีและเห็นผลลัพธ์แตกต่างตั้งแต่ครั้งแรกครับ และ วิธี Punch excision เป็นการใช้เครื่องมือพิเศษตัดผิวหนังส่วนที่เป็นหลุมออก เย็บแผลทำการเย็บผิวหนังปิด
- รักษาหลุมสิวด้วยการฉีด
การฉีดเพื่อเติมเต็มด้วย Dermal Filler (สารเติมเต็มผิวหนัง) จะให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ แต่จะไม่ถาวร และอีกหนึ่งเทคนิคคือการฉีด PN : PolyNucleotide และ PDRN : PolyDeoxyRiboNucleotide ที่ช่วยปรับโครงผิวให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวอีกด้วย
เลเซอร์รักษาหลุมสิวได้อย่างไร
เลเซอร์รักษาหลุมสิว และคลื่นวิทยุรักษาหลุมสิว ใช้หลักการอาศัยการสร้างผิวใหม่ด้วยการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ซึ่งมีชื่อเรียกการทำเลเซอร์นี้ว่า Resurfacing Laser เลเซอร์ปรับสภาพผิว ซึ่งจะแบ่งประเภทการรักษาเป็น 4 แบบ
เลเซอร์รักษาหลุมสิว และการใช้คลื่นวิทยุในการรักษาหลุมสิว มีกี่แบบ
เลเซอร์หลุมสิว ปรับสภาพผิว ซึ่งจะแบ่งประเภทการรักษาเป็น 4 แบบ คือ
1. เลเซอร์รักษาหลุมสิวแบบมีแผล
เลเซอร์รักษาหลุมสิวแบบมีแผล (Ablative Laser Resurfacing) แต่แรกเดิมเป็นการเลเซอร์เพื่อกรอผิวหน้าด้วยความร้อนผลัดผิวชั้นหนังกำพร้าออกไปให้เกิดแผล เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้มีการสร้างผิวใหม่ขึ้นมาทำให้หลุมสิวดีขึ้น
ข้อเสียของเลเซอร์แบบมีแผล แม้ผลลัพธ์จะดี แต่มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน เทคนิคนี้จึงไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทยนัก เนื่องจากหลังการลอกอาจเกิดแผลนูน รอยดำ รอยแดงเรื้อรัง หรืออาจจะเกิดแผลติดเชื้อเนื่องจากการมีบาดแผลบริเวณกว้างทำให้ดูแลรักษายาก
จากเลเซอร์ประเภทนี้ จึงทำให้มีการพัฒนาเลเซอร์รุ่นอื่นเพื่อนำมารักษาหลุมสิวและรูขุมขน ในข้อที่ 3 ที่มีผลข้างเคียงน้อย แผลน้อย แต่ยังลงลึกได้เพียงพอ
2. เลเซอร์หลุมสิวแบบไม่มีแผล
เลเซอร์ปรับสภาพผิวชนิดไม่มีแผล (Non – Ablative Laser Resurfacing) เป็นการเลเซอร์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนโดยพลังงานจะไม่ทำให้เกิดการกรอผิวชั้นบนให้เกิดแผล แต่จะส่งผ่านไปที่ชั้นหนังแท้ และทำให้คอลลาเจนที่ผิวมีการหดตัว เกิดการจัดเรียงโครงสร้างผิวขึ้นใหม่โดยไม่เกิดสะเก็ดหรือแผลใดๆ
ดูเหมือนจะดีใช่ไหมครับ แต่ข้อเสียของเลเซอร์แบบไม่มีแผล คือ ผลลัพธ์หลังการทำน้อยมาก เนื่องจากไม่ได้มีการกรอผิวชั้นบนออกไป ซึ่งไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกับการใช้รักษาหลุมสิว ริ้วรอย หรือรูขุมขน แต่จะให้ผลลัพธ์ในการปรับผิวให้ดูใสขึ้นมากกว่า
ในเมื่อ 2 แบบด้านบนดูไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ ต่อมาจึงได้เกิดการวิจัยคิดค้นรูปแบบเลเซอร์อีกแบบนึงที่น่าสนใจ และเลเซอร์นี้หมอได้เลือกไว้ในโปรแกรมการรักษาหลุมสิวของทาง เอ็มวีต้า คลินิก ที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี ประทับใจคนไข้ และแนะนำบอกต่อครับ นั่นก็คือ…
3. เลเซอร์หลุมสิว แบบแฟรคชันนอล (Fractional Laser)
เลเซอร์แบบแฟรคชันนอล (Fractional Laser) หรือเลเซอร์ปรับสภาพผิวแบบยิงเป็นส่วนๆ เป็นการรักษาโดยการยิงเลเซอร์เป็นจุดๆ ลงลึก เป็นส่วนๆ เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในส่วนที่มีปัญหา มีแผลเพียงบริเวณที่ยิงเลเซอร์ แต่ในบริเวณไม่โดยเลเซอร์จะได้รับการกระตุ้นคอลลาเจนไปด้วย
โดยเลเซอร์ตัวนี้เมื่อเกิดการวิจัยค้นคว้าพบว่าเป็น ประเภทการรักษาที่ให้ผลลัพธ์การรักษาหลุมสิวที่ดี มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน แผลหายเร็ว จึงช่วยให้หลุมสิวกลับมาเรียบเนียนสวยได้ดี มีข้อเสียบ้างตรงที่ผิวหน้าควรได้รับการพักฟื้นระยะหนึ่ง หลังการรักษาควรหลีกเลี่ยงแสงแดด และงดการขัดถูผิวหน้าชั่วคราว
เลเซอร์แบบแฟรคชันนอล (Fractional Laser) เลเซอร์ยิงเป็นส่วนๆ ไม่ได้โดนทั้งบริเวณที่ยิงเลเซอร์ ซึ่งยังสามารถเลเซอร์ทั้งหน้าได้ แต่จะมีส่วนที่ถูกยิงเลเซอร์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะแบ่งได้อีกเป็น
- เลเซอร์แบบแฟรคชันนอลที่มีแผล
- เลเซอร์แบบแฟรคชันนอลที่ไม่มีแผล
4. การรักษาหลุมสิว ด้วยคลื่นวิทยุแบบแฟรคชันนอล (Fractional RF)
ในกลุ่มนี้ใช้หลักการเดียว กับเลเซอร์แบบแฟรคชันนอล จะแตกต่างกันที่พลังงานที่ใช้ในกลุ่มนี้จะเป็นคลื่นวิทยุความถี่สูง Radiofrequency ซึ่งพลังงานจะลงได้ลึกกว่าเลเซอร์จึงใช้รักษาปัญหาหลุมสิวได้ดีกว่า
Fractional RF Radiofrequency แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- Fractional RF Non-Needle แบบไม่มีเข็ม
- Fractional RF with Microneedle แบบมีเข็ม
ซึ่งในโปรแกรมการรักษาหลุมสิวของ เอ็มวีต้า คลินิก ก็มีใช้ Fractional RF ด้วยครับผม ที่คลินิกใช้เป็นเครื่อง Fractora ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (USFDA) ทำให้เครื่องมีความปลอดภัยสูงและทรงประสิทธิภาพในการรักษา
Fractora มีหลักการทำงานของเครื่อง โดยการปล่อยความร้อนจากพลังงานความถี่วิทยุ ส่งพลังงานผ่านเข็มขนาดเล็กลงไปใต้ชั้นผิวหนังแท้แทนการยิงแสงเลเซอร์ ที่สามารถปรับระดับ คลื่นความแรง ให้เหมาะสมกับผิวของบุคคลนั้นๆ ได้ ช่วยรักษาหลุมสิว ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน เนื่องจากมีการเร่งการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่และการจัดเรียงตัวคอลลาเจนเดิมดีให้ขึ้น
ข้อดีของการเลเซอร์หลุมสิวด้วย Fractora คือ ไม่ยิงโดยการจับเม็ดสีเหมือน Laser ทำให้ลดโอกาสการเกิดรอยดำทำให้สามารถใช้พลังงานได้สูง แต่ผิวด้านบนเสียหายน้อย แต่ผิวชั้นล่างได้รับการกระตุ้นจากพลังงานได้มากกว่า และเหมาะสมกับผิวของคนไทย
เลเซอร์หลุมสิวแบบไหนดีที่สุด?
ถ้าหากพูดถึงการเลเซอร์หลุมสิวเพื่อรักษาใบหน้าให้กลับมาเรียบเนียน ไม่ว่าใครก็คงอยากจะรักษาให้หายไวๆ ไม่ต้องกลับมารักษาใหม่หลายครั้ง แต่ว่าการรักษาหลุมสิวเป็นวิธีที่ต้องใช้ความอดทนกับการรักษามากๆ ถ้าหากรักษาให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและมีช่วงพักฟื้นใบหน้าที่ไม่นานจนเกินไปแล้วล่ะก็ ขอแนะนำคลื่นวิทยุแบบแฟรคชันนอล (Fractional RF)
หนึ่งในเครื่องมือคลื่นวิทยุรักษาหลุมสิวที่ให้ผลการรักษาที่ดี และหมอก็เลือกใช้คือ Fractora เพราะสามารถช่วยจัดการกับเซลล์ผิวเก่าบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี เมื่อยิงคลื่นวิทยุลงบนผิวหน้า แล้วกระตุ้นให้เกิดการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ ผิวจึงกลับมาดูเรียบเนียน
หลังการรักษาแรกๆ อาจรู้สึกร้อนผิว มีสะเก็ดบ้าง แต่ผิวจะค่อยๆ ดีขึ้น ใช้เวลาฟื้นผิวไม่นาน ผลข้างเคียงน้อย และให้ผลลัพธ์ที่ดีเลยครับ
ข้อดีและข้อเสียของการทำเลเซอร์หลุมสิว
อย่างที่ทุกคนทราบกันดี การทำหัตถการใดๆ ล้วนมีทั้งข้อดีและข้อจำกัด สำหรับข้อดีและข้อจำกัดของการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว มีดังนี้ครับ
ข้อดีของการทำเลเซอร์หลุมสิว
- ทำให้ผิวที่เป็นหลุมสิว ดูเรียบขึ้น
- ช่วยกระชับรูขุมขน
- ช่วยให้สีผิวกระจ่างขึ้น เผยผิวใหม่
- ช่วยลดรอยด่างดำ เนื่องจากการกรอผิวชั้นบน
- สามารถช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้
- ช่วยลดรอยแผลจากสิวและแผลเป็น
ข้อจำกัดของการทำเลเซอร์หลุมสิว
- ผิวค่อนข้างไวต่อแดด ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ หรือหลบแดดในช่วงของการรักษา
- ผิวอาจแพ้ง่ายขึ้นในช่วงของการรักษา ควรดูแลผิวหน้าให้มากขึ้น และควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
- ราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ สมเหตุสมผล
ใครที่ไม่เหมาะกับการทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว
การทำเลเซอร์รักษาหลุมสิว และคลื่นวิทยุรักษาหลุมสิว จำเป็นต้องงดทำในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อผลลัพธ์การรักษา ดังนี้
- สตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร
- ผู้ที่เคยมีประวัติเกิดแผลเป็นคีลอยด์
- ผู้ป่วยเบาหวาน
- ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือโรคภูมิแพ้ตัวเอง
- ผู้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
- ผู้ที่เคยมีประวัติรับการรักษาด้วยการฉายรังสีที่ใบหน้า ผู้ที่ผ่านการฉายแสงเพื่อรักษาโรค เช่น มะเร็งผิวหนังบริเวณใบหน้า
- ผู้ที่มีผิวสีเข้ม
- ผู้ที่มีแผลบริเวณใบหน้า เพราะอาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย
ขั้นตอนการเลเซอร์หลุมสิว
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังเลเซอร์หลุมสิว
- ผิวบริเวณที่ทำการ Subcision จะมีแผลใต้ผิว เนื่องจากกระตุ้นการสร้างผิวด้วยการเซาะพังผืดให้ผิว แผลจะดีขึ้น ในช่วงวันที่ 3 – 5 ตามลำดับ ทั้งนี้การเกิดแผลมากน้อยขึ้นอยู่กับความลึกและจำนวนหลุมสิว
- ผิวหลังทำการเลเซอร์ Fractora จะมีการแดงเล็กน้อย อาการแดงจะค่อยดีขึ้นใน 3 – 5 วัน หลังทำสะเก็ดแผลจะเป็นลักษณะตาราง ซึ่งจะหลุดโดยธรรมชาติ 5 – 7 วัน หากรักษาสะเก็ดให้อยู่บนผิวนานยิ่งดี และงดการแกะแผล
- ผิวหลังทำการเลเซอร์ Fotona จะมีลักษณะเป็นสะเก็ดตารางบางๆคลุมผิว อาจมีการแดงเล็กน้อย อาการแดงจะค่อยดีขึ้นใน 3 – 5 วัน หลังทำสะเก็ดแผลบางๆ จะหลุดโดยธรรมชาติ 5 – 7 วัน และงดการแกะแผล
แนวทางดูแลผิวหลังทำเลเซอร์หลุมสิว
หลังการรักษา ควรดูแลผิวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด การดูแลผิว มีผลต่อผลลัพธ์การรักษาครับผม ในส่วนนี้ คนไข้ต้องให้ความร่วมมือ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยมีวิธีดังนี้ครับ
- หลังการรักษาการเลเซอร์หลุมสิว ควรงดโดนน้ำ 24 ชั่วโมง
- หลัง 24 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าได้แล้ว โดยต้องเบามือที่สุด
- หลังล้างหน้าให้ลงขี้ผึ้งที่คลินิกให้ไปจนกว่าสะเก็ดแผลจะหลุด
- งดครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของ AHA และ BHA และแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- ห้าม แกะ เกา สะเก็ดแผลเด็ดขาด เพราะจะส่งผลต่อผลลัพธ์การรักษา
- หลังทำเลเซอร์หลุมสิว คนไข้ควรหลบเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำสม่ำเสมอ
- หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผิวเพิ่มเติม ให้สอบถามทางคลินิกได้ครับ ห้ามหาวิธีทางอินเทอร์เน็ตเพื่อแก้ปัญหาครับ
เลเซอร์หลุมสิว ราคาเท่าไหร่
โปรแกรมเลเซอร์หลุมสิว ของที่ เอ็มวีต้า คลินิก จะชื่อว่า โปรแกรม Fractora Angel Touch หลุมสิว คือปัญหาผิวที่พบได้บ่อยในทุกๆ คน แต่เมื่อเป็นแล้ว ก็สามารถรักษาให้หายได้ ด้วยเทคนิคการรักษาเฉพาะ ที่เอ็มวีต้า คลินิก กับ คุณหมอเอ็ม คนไข้ประทับใจในผลลัพธ์และแนะนำบอกต่อกว่า 10,000+ เคสแล้วครับ
คอร์สรักษาหลุมสิว Fractora ราคา
- รายครั้ง: 4,500 บาท
- คอร์ส 5 ครั้ง ฟรี 5 ครั้ง: 20,000 บาท
เลเซอร์หลุมสิวที่ไหนดี
เลเซอร์หลุมสิวที่ไหนดี ในการเลือกคลินิก มีความสำคัญมากๆ เลยครับ จะหาคลินิกที่มีความปลอดภัย เห็นผล และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และคลินิกที่ให้บริการนั้นก็มีมากมาย ในการที่คนไข้จะตัดสินใจเลือกรับบริการเลเซอร์รักษาหลุมสิว
ความน่าเชื่อถือของคลินิก
สิ่งแรกคือการดูความน่าเชื่อถือของคลินิก ต้องมีการเปิดเผยชื่อคุณหมออย่างชัดเจน เพื่อนำมาตรวจสอบใบอนุญาตของคุณหมอ และการเปิดคลินิกนั้นต้องมีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก โดยเช็คได้จาก https://checkmd.tmc.or.th/ ครับ *ปลอดภัยไว้ก่อนนะครับ*
แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเฉพาะทาง
ตรวจสอบข้อมูลคุณหมอควรเป็นแพทย์เฉพาะทางในการรักษา เลือกคุณหมอที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเท่านั้น เพื่อให้การรักษาย่างตรงจุด และมีความรู้เรื่องการรักษาแบบจริงๆ และอีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรลืมดูคือ ใบเซอร์ หรือ Certificated การันตีต่างๆครับ
ตรวจสอบรีวิวการรักษาและการให้บริการ
รีวิวการรักษาดูรีวิวการรักษาหลุมสิวของทางคลินิก ดูรีวิวจากผู้รักษาจริงควบคู่กับรีวิวจากทางคลินิก สามารถดูได้จาก Google รีวิวใน Google Map นอกจากนั้นเราจึงไปตามดูรีวิวจากที่อื่นๆ เช่น Youtube และ Facebook รวมถึงหน้า Website หรือทาง Pantip ครับผม
อุปกรณ์ทันสมัย และสะอาดปลอดภัย
เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องเลเซอร์ ที่ทันสมัย ควบคู่กับความเชี่ยวชาญของคุณหมอในเทคนิคการใช้เครื่องเลเซอร์ด้วยนะครับ ความสะอาดของสถานที่ และเครื่องมือ อุปกรณ์
การบริการที่ดี
การบริการเป็นอับดับแรกๆ ของการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการบริการจากคุณหมอ หรือตัวพนักงาน แน่นอนต้องไม่ยัดเยียดคอร์สให้ เริ่มต้นจากการโทรเข้าไปสอบถามทางโทรศัพท์เป็นอันดับแรก การพูดคุย การบริการขั้นต้นผ่าน ขั้นตอนการดูถัดไปคือการบริการหน้าคลินิก และการบริการหลังการรักษา มีพนักงานโทรมาสอบถามหรือไม่
สถานที่และเวลาทำการ
สถานที่กว้างขวาง สะอาด สะดวกสบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น มีที่จอดรถไหม MRT BTS ล่ะ เดินทางง่าย มีที่จอดรถหรือไม่ รวมถึงวันเวลา เปิด – ปิด ที่ตรงกับที่เราสะดวก
ทำไมต้อง เลเซอร์หลุมสิว RF หลุมสิว ที่ Mvita Clinic
เลเซอร์หลุมสิว ที่ เอ็มวีต้าคลินิก จะทำการหัตถการ โดย คุณหมอเอ็ม นพ.มนตรี อุดมประเสริฐกุล ทุกเคสครับ ด้วย
ประสบการณ์การรักษาหลุมสิวมาอย่างยาวนานถึง 15 ปี และการันตีด้วยรีวิวผลลัพธ์มากมาย จึงมั่นใจได้ว่าหลุมสิวของคนไข้จะดีขึ้นตั้งแต่การรักษาครั้งแรก และจะได้ผลลัพธ์ที่เรียบเนียนมากขึ้นในทุกครั้งที่รักษาครับ
หมอจะใช้เลเซอร์รักษาหลุมสิวผสมผสานการรักษาร่วมกับเทคนิคอื่นๆ เช่น การกระตุ้นหลุมสิว ด้วยกรดทางการแพทย์ และการทำ Subcision กระตุ้นหลุมสิว เพื่อครอบคลุมการรักษาหลุมสิวทุกประเภทให้ดีขึ้นอย่างชัดเจน
สำหรับที่เอ็มวีต้าคลินิก หมอเลือกใช้เครื่องมือ 3 ตัวเป็นเครื่องหลักในการรักษาหลุมสิวครับ ตัวแรกคือ Fractora ซึ่งเป็น การใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงช่วยปรับสภาพผิวแบบมีแผล Fractional Ablative RF Resurfacing
ด้วยคุณสมบัติของ RF ที่สามารถกรอผิวชั้นลึก ได้เป็นอย่างดีจึงเหมาะสำหรับการรักษาหลุมที่ค่อนข้างลึก พังผืดแน่น หรือหลุมที่มีการสูญเสียคอลลาเจนค่อนข้างมากครับ
เครื่องที่สองที่หมอเลือกใช้คือ Fotona SP Spectro เป็นการใช้เลเซอร์ปรับสภาพผิวเป็นส่วนๆ ชนิดมีแผล ซึ่งใช้เออร์เบียมแย๊ก Er:YAG เป็นแหล่งกำเนิดพลังงาน ซึ่งด้วยคุณสมบัติของเลเซอร์ชนิดนี้จะ กรอผิวชั้นตื้น ได้เป็นอย่างดีและสามารถปรับแต่งพลังงานได้หลากหลายตัวนี้จึงเหมาะที่จะใช้เสริมการรักษาหลุมสิวด้วย RF ในการเกลี่ยปรับพื้นผิวให้เรียบเนียน แก้ปัญหารอยสิวเป็นคลื่นครับ
และเครื่องที่สาม เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ทางเอ็มวีต้าคลินิกได้นำเข้ามาเพื่อการรักษาหลุมสิวนั้น ก็คือ Picolo Picosecond Laser ที่ให้พลังงานแสงที่ความยาวคลื่น 1064 nm ซึ่งจะถูกปล่อยออกมาด้วยความเร็วสูงมากๆ ในระดับพิโควินาที (1 picosecond = 1 ส่วนล้านล้านวินาที) ตัวนี้จะได้เรื่องของหลุมสิว และยังช่วยให้ผิวกระจ่างใส เนียนขึ้น และยังช่วยเรื่องของรูขุมขนอีกด้วยครับ
รีวิวเลเซอร์รักษาหลุมสิวที่ Mvita Clinic
คลิป รีวิว การรักษาหลุมสิว กับ คุณหมอเอ็ม ที่ เอ็มวีต้าคลินิก
- วิธีรักษาหลุมสิว ให้หายขาด หน้ากลับมาเนียน ขาว รวมจาก – Pantip
- รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์ VS ฉีดฟิลเลอร์ แบบไหนดีกว่ากัน
- สิวขึ้นคาง สิวใต้คาง หรือสิวที่พบในผู้หญิงวัยทำงาน เกิดจากอะไร ? รักษาได้ ง่ายมาก !!
คำถามที่พบบ่อย เลเซอร์หลุมสิว
เลเซอร์หลุมสิว กี่วันหาย
เลเซอร์รักษาหลุมสิว แน่นอนครับหลุมสิวไม่สามารถตื้นขึ้นได้ด้วยการรักษาเพียงครั้งเดียว ในส่วนที่ลึกมากๆ อาจใช้เวลาสร้างผิวใต้ชั้นผิวหนังนานกว่า
ที่ เอ็มวีต้า คลินิก ใช้ระยะเวลาการรักษาประมาณ 5 เดือนครับ ควรทำต่อเนื่อง 2 สัปดาห์/ครั้ง เป็นระยะเวลา 10 ครั้ง ตามคอร์สครับ จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน หลุมสิวบางหลุมสามารถตื้นและผิวเรียบได้เลยครับ
เลเซอร์รักษาหลุมสิว RF หลุมสิว เจ็บไหม
เลเซอร์หลุมสิว ที่ เอ็มวีต้า คลินิก จะมีการลงยาชาให้ทุกเคส 30-60 นาที ก่อนทำการรักษา โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ จะแทบไม่รู้สึกเจ็บที่ผิวเลยครับผม
เลเซอร์หลุมสิว RF หลุมสิว หายถาวรไหม
การรักษาหลุมสิว ที่ เอ็มวีต้า คลินิก หายถาวรครับ เป็นเทคนิคการรักษาพิเศษ ที่ไม่เพียงแค่เลเซอร์ แต่เสริมการ Subcision เพื่อให้เกิดการสร้างผิวเติมเต็ม หากผิวบริเวณนั้นตื้นขึ้นมา จะเป็นการหายถาวรครับ
ข้อสรุป เลเซอร์หลุมสิว
อย่างไรก็ตาม การรักษาหลุมสิว ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือคลินิกเสริมความงามที่มาตรฐานก่อน เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจสอบสภาพผิวหน้าว่าเหมาะกับการรักษาด้วยเลเซอร์หรือไม่ หรือเหมาะกับการรักษาแบบใดบ้าง
เพราะผิวหน้าของแต่ละคนย่อมมีความแตกต่างกันออกไป ผลการรักษาจึงสามารถออกมาแตกต่างกันได้แม้จะใช้วิธีการรักษาแบบเดียวกัน แต่อยากให้อยู่ในการดูแลของแพทย์มากกว่านะครับ บางท่านอาจมีการแพ้ยา แพทย์ก็จะหลีกเลี่ยงยา และจ่ายยาตามอาการ หรือประเภทของหลุมสิวนั้นๆ ครับ
คุณหมอเอ็มให้กำลังใจคนมีปัญหาหลุมสิว ที่ขาดความมั่นใจเรื่องผิวทุกท่านนะครับ ว่ารักษาหายได้อย่างตรงจุด ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ กลับมาผิวสวย หน้าใส อีกครั้งครับ หมอเอ็ม ยินดีให้คำปรึกษาฟรี!! ครับ
เอ็มวีต้าเราเป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ โดยตรง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามแพทย์เพิ่มเติมได้จากช่องทางด้านล่างหรือแอดไลน์เพื่อการปรึกษาโดยตรงกับทางเรา ได้ที่…
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
เอกสารอ้างอิง
- An Assessment of the Efficacy and Safety of CROSS Technique with 100% TCA in the Management of Ice Pick Acne Scars. Deepali Bhardwaj and Niti Khunger. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC2956965/
- Subcision in acne scarring: A review of clinical trials. Najmeh Ahramiyanpour MD, Fatemeh Rastaghi MD, Seyed Yasamin Parvar MS, Ali Karimi Sisakht MS, Seyed Ali Hosseini MD, Maliheh Amani MD. First published: 31 October 2022 https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/jocd.15480
- Pharmacological Activity and Clinical Use of PDRN. Francesco Squadrito, Alessandra Bitto, and Domenica Altavilla. https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC5405115/
- Preliminary Prospective and Randomized Study of Highly Purified Polynucleotide vs Placebo in Treatment of Moderate to Severe Acne Scars. Antonino Araco et al. Aesthet Surg J. 2021. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/33755110/
วันเผยแพร่