สิวเป็นปัญหาผิวที่มักจะทิ้งร่องรอยไว้บนใบหน้าของคนเรา หลายครั้งปัญหาสิวที่รุนแรงมากก็ยังทำให้ผิวหน้าเกิดเป็นรอยแผลลึกที่เรียกกันว่าหลุมสิวได้อีกด้วย ซึ่งไม่ว่าจะทาครีมหรือรับประทานยาอะไรเข้าไปก็ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูผิวที่ถูกทำร้ายนี้ไปได้ ถือเป็นปัญหาผิวที่แก้ไขได้ยากทีเดียว
แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้เรามีนวัตกรรมความงามที่ช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ให้หายไปได้อย่างง่ายดาย
หนึ่งในวิธีการรักษาหลุมสิวที่มาแรง คือการรักษาหลุมสิวด้วย การฉีดหลุมสิว ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว หรือการฉีดหลุมสิวด้วยตัวยากลุ่ม PDRN หรือ PN (เช่น rejuran s) ซึ่งเป็นตัวยาจากประเทศเกาหลี
ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็มีข้อดีที่น่าสนใจจนหลายคนอาจตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกตัวไหนดี และอาจสงสัยว่า ฉีดหลุมสิว ถาวรไหม ราคาเท่าไหร่ รวมถึงรีวิวเป็นอย่างไร วันนี้บทความของหมอจึงมาแนะนำการรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดเติมเต็มหลุมสิว พร้อมข้อดีของแต่ละแบบให้ทุกคนได้ทราบกันครับ
ก่อนอื่นหมอขออนุญาตแนะนำตัวเองก่อนนะครับ หมอชื่อ หมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกครับ
- ฉีดหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร
- กลไกการทำงานของการฉีดหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิว
- เปรียบเทียบข้อดี – ข้อจำกัดของการฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิว
- ผู้ที่เหมาะกับการฉีดหลุมสิว หรือฟิลเลอร์หลุมสิว
- การเตรียมตัวก่อนฉีดหลุมสิว หรือฟิลเลอร์หลุมสิว
- ขั้นตอนการฉีดหลุมสิว ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
- การดูแลหลังฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิว
- เปรียบเทียบการฉีดหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิวกับการรักษาหลุมสิวแบบอื่น
- การฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิว Vs เลเซอร์หลุมสิว แบบไหนดีกว่ากัน?
- การฉีดหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิวร่วมกับการทำเลเซอร์หลุมสิว และ คลื่นวิทยุแบบแฟรคชันนอล
- ฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิวที่ไหนดี
- ฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิวราคาเท่าไหร่
- คำถามที่พบบ่อย
- ข้อสรุป
- เอ็มวีต้าคลินิก คลินิกรักษาสิว เลเซอร์รอยสิว
- ช่องทางติดต่อ
ฉีดหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิว คืออะไร
การฉีดหลุมสิว คือการรักษาหลุมสิวด้วยการฉีดสารที่ได้มีงานวิจัยรับรองแล้วว่าสามารถช่วยให้หลุมสิวฟูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งสารที่นิยมใช้ฉีดได้แก่ ฟิลเลอร์ ซึ่งเป็นสาร hyaluronic acid หรือที่รู้จักกันในชื่อ ไฮยาลูรอน และสารอีกกลุ่มคือสารในกลุ่ม PDRN และ PN เช่น rejuran s ซึ่งเป็นสารที่ไม่ใช่ฟิลเลอร์ แต่เป็นสาร DNA ที่สกัดได้จากปลาแซลม่อนครับ
กลไกการทำงานของการฉีดหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิว
สำหรับกลไกการทำงานของการฉีดรักษาหลุมสิวนี้หมอขออธิบายแยกกลไกตามตัวยาที่ใช้ในการรักษา ดังนี้นะครับ
กลไกการทำงานของการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม คือสารที่เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวแล้วจะช่วยเติมให้ผิวดูเต็มขึ้น จึงสามารถใช้ฉีดรักษาร่อง หรือหลุมต่างๆ ให้กลับดูเรียบเนียนไปกับผิวโดยรอบได้
สารฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย ได้รับการรับรองจาก อย. ในประเทศไทยทั้งหมดล้วนเป็นฟิลเลอร์ที่ใช้สาร Hyaluronic acid หรือไฮยาลูรอน เป็นสารหลักครับ
ซึ่งสารนี้มีความปลอดภัยสูงมาก เนื่องจากไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้(เพราะเป็นสารที่มีอยู่ในผิวอยู่แล้ว และเป็นตัวที่ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น) และไม่ตกค้างในร่างกายหลังฉีดจะค่อยๆสลายตัวไปได้เอง นอกจากนี้หากต้องการเอาออกก็สามารถฉีดยาเข้าไปเพื่อสลายได้ 100% โดยไม่จำเป็นต้องผ่าออกครับ
ด้วยคุณสมบัติของ Hyaluronic Acid ที่มีความคงตัวอยู่ในผิวได้ดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมาก ทำให้เมื่อฉีดไฮยาลูรอนเติมเข้าไปใต้ผิวบริเวณที่เป็นหลุมสิวแล้วหลุมสิวก็ถูกยกให้ฟูเต็มขึ้น ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดครับ และหลังจากฉีด ช่วงประมาณ 2-3 สัปดาห์ เมื่อฟิลเลอร์มีการอุ้มน้ำเข้ามาก็จะยิ่งฟูเต็มขึ้นได้มากขึ้นอีกครับ
กลไกการทำงานของการฉีดหลุมสิวด้วย PDRN และ PN จากเกาหลี
สาร PDRN ( PolyDeoxyRiboNucleotide) และสาร PN (PolyNucleotide) เป็นสาร DNA ที่สกัดได้จากปลาแซลม่อน โดย PN เป็นสารที่พัฒนาต่อมาจาก PDRN อีกที สารทั้งสองนี้ถูกพัฒนา วิจัยและผลิตจากประเทศเกาหลีใต้ครับ
กลไกการทำงานของ PDRN และ PN นี้จะไม่ได้เติมเต็มผิวแบบ filler หลุมสิว นะครับ แต่จะเป็นการกระตุ้นการซ่อมแซมผิว ด้วย 4 กลไกดังนี้
- ฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวถึงระดับ DNA
- มีฤทธิ์ลดปฏิกิริยาการอักเสบของเซลล์ผิว
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
- ช่วยให้ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่น และชุ่มชื้น
ตัวอย่างของสารในกลุ่มนี้ได้แก่ รีจูรัน เอส ( rejuran s ) ผลิตภัณฑ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับฉีดหลุมสิวโดยเฉพาะ ตัวนี้มีสารประกอบหลักคือ PN ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย. แล้ว และมีความปลอดภัยสูง เมื่อฉีดเข้าสู่ผิวไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ และไม่ตกค้างครับ
เนื่องจากการทำงานของ PDRN และ PN เน้นการฟื้นฟูผิว ดังนั้นหลังฉีดทันทีอาจยังไม่ค่อยเห็นผลลัพธ์เท่าไหร่ ส่วนใหญ่แนะนำให้รอประมาณ 2-4 สัปดาห์จึงจะเริ่มเห็นผลครับ
ซึ่งที่ เอ็มวีต้าคลินิกของเรา เปิดให้บริการการฉีดฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว, ฟิลลอร์ใต้ตา, ฟิลเลอร์ปาก โดยทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์
รีวิว การรักษาหลุมสิว จาก คุณเมย์ ที่เอ็มวีต้าคลินิก
รีวิว รักษาหลุมสิว ที่ไหนดี จากคุณพรีม ครับผม
ระยะเวลารักษาด้วยการฉีดหลุมสิว หรือฟิลเลอร์หลุมสิว
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว หลังทำหลุมสิวจะเต็มขึ้นเห็นได้ทันที จากนั้นในช่วงประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังฉีดจะเต็มขึ้นได้อีกเล็กน้อยจากการที่โมเลกุลของ hyaluronic acid ในฟิลเลอร์มีการอุ้มน้ำเข้ามา ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวจะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือนครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับยี่ห้อหรือขนาดโมเลกุลของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ในการฉีดด้วยครับ
ส่วนการฉีดหลุมสิวด้วยสาร PDRN และ PN หลังฉีดทันทีอาจจะยังไม่เห็นผลชัดเจนเท่าไหร่นักแต่จะค่อยๆเริ่มเห็นผลลัพธ์ว่าหลุมสิวตื้นขึ้นหลังจากที่ทำไปประมาณ 2-4 สัปดาห์ และผลลัพธ์ที่ได้จะคงอยู่อย่างถาวรครับ เนื่องจากการเต็มขึ้นของหลุมสิวในท่านที่ฉีด PDRN หรือ PN เป็นการเต็มจากการซ่อมแซมของผิวตนเอง รักษารอยแผลเป็นจากสิว ไม่ได้เป็นการเติมเต็มด้วยสารเข้ามาครับ
เปรียบเทียบข้อดี – ข้อจำกัดของการฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิว
ข้อดีของฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
- เห็นผลได้ทันทีหลังฉีดว่าหลุมสิวดูตื้นขึ้นชัดเจน
- แทบไม่ต้องพักฟื้นใดๆ หลังทำผิวอาจดูแดงขึ้นเล็กน้อยเพียงไม่นาน ไม่ค่อยพบรอยช้ำมากนัก
- ฟิลเลอร์ หรือสาร hyaluronic acid ยังช่วยให้ผิวโดยรวมชุ่มชื้นขึ้น และมีคุณภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย
- ไม่จำเป็นต้องทำหลายครั้งแบบการทำเลเซอร์หลุมสิว หลุมสิวบางชนิดฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มหลุมสิวเพียงครั้งเดียวก็เห็นผลเรียบเนียนทันที
ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ส่วนใหญ่ผลคงอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ตามรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้
- สำหรับหลุมสิวบางชนิด โดยเฉพาะหลุมที่ค่อนข้างลึก อาจต้องฉีดหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่สูงสุดมักจะไม่เกิน 3 ครั้งจึงจะเรียบเนียน
- สำหรับหลุมสิวบางชนิดอาจไม่สามารถรักษาด้วยเติมฟิลเลอร์หลุมสิวได้ เช่นหลุมสิวแบบรูเจาะ เป็นต้น
ข้อดีของการฉีดหลุมสิวด้วย PDRN และ PN
- ผลลัพธ์ที่ได้อยู่ถาวร เนื่องจากการเต็มขึ้นของหลุมเกิดจากการซ่อมแซมและการสร้างคอลลาเจนอีลาสตินใหม่ของผิวเราเอง ไม่ได้เต็มขึ้นจากสารเติมเต็มที่ถูกฉีดเข้าไปใต้ผิว
- ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่นานมากนัก อาจจะอยู่ที่ประมาณราว 2-3 วัน ที่อาจมีรอยเข็มหรือรอยบวมเล็กน้อยซึ่งจะหายไปได้เอง
- หลังฉีดจะได้ในเรื่องของความเนียนใสฉ่ำวาวของผิวด้วยและผิวโดยรวมจะมีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน
- หลังทำเมื่อสัมผัสดูจะไม่รู้สึกถึงสารใดๆ ในชั้นผิว
ข้อจำกัดของการฉีดหลุมสิวด้วย PDRN และ PN
- หลังฉีดอาจจะยังไม่เห็นผลในทันที ต้องรอประมาณ 2-4 สัปดาห์จึงจะเริ่มเห็นผลครับ
- ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ฉีดต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณ 3-4 ครั้ง จึงจะเห็นผลว่าหลุมสิวเรียบเนียนเสมอผิว
- หลุมสิวบางชนิดเช่น หลุมสิวแบบรูเจาะ อาจไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้ครับ
ผู้ที่เหมาะกับการฉีดหลุมสิว หรือฟิลเลอร์หลุมสิว
การฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิว สามารถทำได้ในคนไข้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เหมาะสำหรับท่านที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันที และมีหลุมสิวส่วนใหญ่เป็นหลุมสิวประเภทที่สามารถรักษาด้วยการฉีดหลุมสิวที่จะได้กล่าวต่อไปครับ
ส่วนการฉีดหลุมสิวด้วย PDRN และ PN ก็สามารถทำได้ในคนไข้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปเช่นกันครับตัวนี้จะเหมาะสำหรับท่านที่ต้องการผลลัพธ์ถาวรและสะดวกที่จะมาฉีดซ้ำต่อเนื่องได้อย่างน้อยประมาณ 3 หรือ 4 ครั้งครับ นอกจากนี้หลุมสิวที่มีคุณเป็นหลุมสิวประเภทที่สามารถรักษาด้วยการฉีดหลุมสิวที่จะได้กล่าวต่อไปเช่นกันครับ
ประเภทหลุมสิวที่สามารถรักษาด้วยการฉีดหลุมสิว หรือฟิลเลอร์หลุมสิว
หลุมสิวประเภทที่สามารถรักษาด้วยการฉีดได้นั้น ถ้าเป็นหลุมประเภทที่ตอบสนองการรักษาได้ดีที่สุดก็จะเป็นหลุมประเภทที่มีพังผืดเกาะน้อย ได้แก่ หลุมสิวประเภทคลื่น Rolling scar หลุมสิวประเภทนี้หากรักษาด้วยการฉีดไม่ว่าจะด้วยฟิลเลอร์หรือ PDRN และ PN ก็จะเห็นผลได้ค่อนข้างดีและค่อนข้างเร็วครับ
ส่วนหลุมสิวอีกประเภท ที่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยการฉีดหลุมสิวเช่นกัน แต่ได้ผลรองลงมา คือหลุมสิวประเภทบล็อก Boxcar scar หลุมสิวประเภทนี้จะมีพังผืดเกาะมากขึ้นดังนั้นหากรักษาด้วยวิธีการฉีดหลุมสิวไม่ว่าจะด้วยฟิลเลอร์หรือ PDRN PN ก็ควรทำร่วมกับการซับซิชั่น Subcision คือการใช้เข็มเลาะพังผืดที่เกาะอยู่ออก แล้วทำการฉีดสารเข้าไปแบบนี้จะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้อย่างชัดเจนมากกว่าครับ
ส่วนหลุมสิวอีกประเภทที่มักไม่ค่อยตอบสนองการรักษาด้วยการฉีดหลุมสิว คือหลุมสิวแบบรูเจาะ Icepick scar เนื่องจากหลุมสิวประเภทนี้มีขนาดเล็กและลึกจึงเหมาะสำหรับการรักษาด้วยวิธีอื่นมากกว่าการฉีดหลุมสิวครับ
การเตรียมตัวก่อนฉีดหลุมสิว หรือฟิลเลอร์หลุมสิว
สำหรับการเตรียมตัวก่อนฉีดหลุมสิว ไม่ว่าจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิว หรือการฉีดสาร PDRN และ PN การเตรียมตัวก็เหมือนกันครับได้แก่
- ควรหยุดการทานยากลุ่มต้านการอักเสบ NSAIDS ได้แก่ พวกยาแก้ปวด, ยาแก้อักเสบ, Ibruprofen, Naproxen อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องการอาการฟกช้ำ
- งดทานวิตามินและอาหารเสริมที่มีฤทธิ์ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น วิตามินอี วิตามินเค น้ำมันตับปลา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส (evening primrose oil) สารสกัดจากใบแปะก๊วย โสม กระเทียม เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเกิดรอยฟกช้ำเช่นกันครับ
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนการฉีด
- ตรวจเช็คให้มั่นใจว่าสุขภาพร่างกายแข็งแรงปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง และไม่ได้อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
ขั้นตอนการฉีดหลุมสิว ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ขั้นตอนที่ 1 พบแพทย์ ตรวจเช็ค ปัญหาสิว หลุมสิว ประเมินผิว เพื่อแนะนำคอร์สการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้แต่ละบุคคลโดยตรง
ขั้นตอนที่ 2 คลีนหน้าทำความสะอาดผิว 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนที่ 3 กดสิวสิวอุดตัน
ขั้นตอนที่ 4 ลงยาชาไว้ 40 นาที
ขั้นตอนที่ 5 เช็ดยาชา เตรียมผิวและฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว
ขั้นตอนที่ 6 แนะนำการดูแลผิวหลังการรักษา
ขั้นตอนที่ 7 ทำความสะอาดผิวหลังทำหัตถการ และทายา
ขั้นตอนที่ 8 รับยา และนัดอัพเดทผลลัพธ์ หรือเข้ารักษาครั้งถัดไป
การดูแลหลังฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิว
- งดการออกกำลังกายหนักๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรง เช่น การเข้าสตีมซาวน่า, แช่น้ำอุ่น, การล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น รวมทั้งการนวดหน้าด้วยความร้อน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งดการถูนวดหรือกดใบหน้าแรงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ฉีดหลุมสิวไป เพราะกรณีที่เป็นการฉีด Filler จะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปจากจุดที่ฉีด ทำให้ผลลัพธ์ของหลุมสิวที่เต็มขึ้นมาแล้วลดลงได้ ส่วนท่านที่ฉีดหลุมสิวด้วย PDRN และ PN การถูนวดแรงๆอาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อได้ โดยเฉพาะในกรณีที่มือไม่สะอาดครับ
- ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่ เป็นเวลา 3-7 วันหลังฉีดครับ
- ท่านที่ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ แนะนำให้ดื่มวันละ 2-2.5 ลิตร จะช่วยให้ฟิลเลอร์อุ้ม
เปรียบเทียบการฉีดหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิวกับการรักษาหลุมสิวแบบอื่น
การฉีดหลุมสิวหากเทียบกับการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีอื่น จะเด่นในเรื่องการเห็นผลที่รวดเร็วครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฉีดฟิลเลอร์เติมหลุมสิว หลังฉีดหลุมก็จะดูเต็มขึ้นทันที หรือหากเป็นการฉีด PDRN หรือ PN หลังทำประมาณ 2-4 สัปดาห์ก็เริ่มเห็นผลครับ
วิธีรักษาอีกชนิดที่ให้ผลเร็วคือ การทำซับซิชั่น Subcision ซึ่งเป็นการใช้เข็มที่มีลักษณะเฉพาะทำการสอดเข้าใต้หลุมสิวและตัดพังผืดที่เกาะยึดอยู่ด้านล่างให้คลายออก หลังทำหลุมสิวจึงเรียบเนียนขึ้นทันทีในระดับนึงเช่นกันครับ
ส่วนวิธีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การแต้มกรด TCA CROSS เลเซอร์หลุมสิว ซึ่ง ปกติต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งและมักจะมีสะเก็ดหลังทำประมาณ 4-7 วัน
การฉีดหลุมสิวจะได้ผลดีกับหลุมสิวแบบคลื่น Rolling Scar มากที่สุด ส่วนรองลงมาคือหลุมสิวแบบบล๊อก Boxcar scar และสำหรับหลุมสิวแบบรูเจาะ Icepick scar จะได้ผลน้อยมากครับ ซึ่งหลุมสิวแบบรูเจาะนี้ควรใช้วิธีรักษาแบบอื่น เช่น TCA CROSS หรือเลเซอร์หลุมสิวแบบการรักษาหลักแทนครับ
การฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิว Vs เลเซอร์หลุมสิว แบบไหนดีกว่ากัน?
ระยะเวลาการเห็นผล และการพักฟื้นหลังทำ : การฉีดหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์จะเป็นวิธีที่ค่อนข้างเห็นผลเร็วมาก และรองลงมาก็คือการฉีดด้วย PDRN และ PN ซึ่งการฉีดหลุมสิวเพียงครั้งแรกก็เห็นว่าตื้นขึ้นชัดเจน อีกทั้งการพักฟื้นก็ไม่นานครับ
หากเทียบกับการรักษาหลุมสิวด้วยวิธีเลเซอร์หลุมสิว ซึ่ง ปกติต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งและมักจะมีสะเก็ดหลังทำประมาณ 4-7 วัน การรักษาด้วยการฉีดหลุมสิวก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
ความทั่วถึงในการทำ : สำหรับการฉีดหลุมสิว ทั้งด้วยฟิลเลอร์และ PDRN PN ล้วนเป็นการฉีดด้วยมือแพทย์ทีละจุดๆ จึงอาจครอบคลุมรักษาหลุมสิวทั่วหน้าได้ในระดับนึง อาจมีจุดเล็กจุดน้อยที่ไม่ได้รับการเน้นบ้าง ในขณะที่เลเซอร์หลุมสิวจะเน้นทั่วถึงทุกบริเวณได้ดีมากกว่าครับ
หลุมสิวที่ตอบสนองการรักษา : อย่างไรก็ตามการฉีดหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์หรือสาร PDRN, PN นั้น ก็มีข้อจำกัดเช่นกันสำหรับหลุมบางชนิด ยิ่งถ้าเป็นหลุมสิวที่มีพังผืดมากๆอย่างเช่นหลุมสิวแบบรูเจาะ Icepick scar อาจรักษาด้วยวิธีการฉีดหลุมสิวไม่ได้ผลครับ
การฉีดหลุมสิว ฟิลเลอร์หลุมสิวร่วมกับการทำเลเซอร์หลุมสิว และ คลื่นวิทยุแบบแฟรคชันนอล
สำหรับหมอแนะนำว่าการฉีดหลุมสิวเป็นการรักษาหลุมสิวที่ดี และควรทำควบคู่กับการรักษาด้วยวิธีอื่นๆ เช่นการทำเลเซอร์หลุมสิว และรักษาด้วยคลื่นวิทยุแบบแฟรคชันนอล เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ เพราะการรักษาหลุมสิวแต่ละวิธีมีข้อดีข้อจำกัดที่ต่างกัน แต่ละวิธีจะเหมาะกับหลุมสิวคนละแบบ หากทำควบคู่กันจะเป็นการเสริมจุดดีให้กันและกัน ทำให้หลุมสิวทุกประเภทที่มีดีขึ้นทั้งหมดครับ
ฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิวที่ไหนดี
ฉีดหลุมสิว และ ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ในการเลือกคลินิก มีความสำคัญมากๆเลยครับ จะหาคลินิกที่มีความปลอดภัย เห็นผล และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และคลินิกที่ให้บริการนั้นก็มีมากมาย ในการที่คนไข้จะตัดสินใจเลือกรับบริการฉีดหลุมสิว และ ฟิลเลอร์หลุมสิวที่ไหนดี นั้น มาดูกันครับว่าควรเลือกจากอะไร
- แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และเฉพาะทาง
ตรวจสอบข้อมูลคุณหมอควรเป็นแพทย์เฉพาะทางในการรักษา เลือกคุณหมอที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะเท่านั้น เพื่อให้การรักษาย่างตรงจุด และมีความรู้เรื่องการรักษาด้วยการฉีดหลุมสิวแบบจริงๆ และอีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรลืมดูคือ ใบเซอร์ หรือ Certificated การันตีต่างๆครับ
- ความน่าเชื่อถือของคลินิก
สิ่งแรกคือการดูความน่าเชื่อถือของคลินิก ต้องมีการเปิดเผยชื่อคุณหมออย่างชัดเจน เพื่อนำมาตรวจสอบใบอนุญาติของคุณหมอ และการเปิดคลินิกนั้นต้องมีเลขที่ใบอนุญาติ 11 หลัก โดยเช็คได้จาก https://checkmd.tmc.or.th/ ครับ *ปลอดภัยไว้ก่อนนะครับ*
- ตรวจสอบรีวิวการรักษาและการให้บริการ
รีวิวการรักษาฉีดหลุมสิว และ ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ฉีด hyaluronic หลุมสิว สามารถดูรีวิวการรักษาหลุมสิวของทางคลินิก ดูรีวิวจากผู้รักษาจริงควบคู่กับรีวิวจากทางคลินิก และจาก Google รีวิวใน Google Map นอกจากนั้นเราจึงไปตามดูรีวิวจากที่อื่นๆ เช่น Youtube และ Facebook รวมถึงหน้า Website หรือทาง Pantip ครับผม
- อุปกรณ์ทันสมัย และสะอาดปลอดภัย
เครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องเลเซอร์ ที่ทันสมัย ตัวยาฟิลเลอร์แท้ รับยาจากบริษัทนำเข้าโดยตรง ควบคู่กับความเชี่ยวชาญของคุณหมอในเทคนิคการใช้ฉีดหลุมสิวด้วยนะครับ ความสะอาดของสถานที่ และเครื่องมือ อุปกรณ์
- การบริการที่ดี
การบริการเป็นอับดับแรกๆของการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นการบริการจากคุณหมอ หรือตัวพนักงาน แน่นอนต้องไม่ยัดเยียดคอร์สให้ เริ่มต้นจากการโทรเข้าไปสอบถามทางโทรศัพท์เป็นอันดับแรก การพูดคุย การบริการขั้นต้นผ่าน ขั้นตอการดูถัดไปคือการบริการหน้าคลินิก และการบริการหลังการรักษา มีพนักงานโทรมาสอบถามหรือไม่
- สถานที่ และเวลาทำการ
สถานที่กว้างขวาง สะอาด สะดวกสะบาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น มีที่จอดรถไหม MRT BTS ล่ะ เดินทางง่าย มีที่จอดรถหรือไม่ รวมถึงวันเวลา เปิด – ปิด ที่ตรงกับที่เราสะดวก
ฉีดหลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิวราคาเท่าไหร่
ฉีดหลุมสิวและฟิลเลอร์หลุมสิวที่เอ็มวีต้าคลินิก มีทั้ง 2 แบบการรักษาครับผม รายละเอียดราคา โปรโมชั่น มีดังนี้
- ฉีดหลุมสิวใช้เป็นตัวยา PDRN จะทำการรักษาร่วมกับการเลเซอร์และคลื่นวิทยุแบบแฟรคชันนอลครับ หัตถการทั้งหมดในการฉีดหลุมสิว เลเซอร์ คลื่นวิทยุแบบแฟรคชันนอล ที่โดยคุณหมอเอ็ม นพ.มนตรี ครับ โดยโปรแกรมการรักษานี้คือ โปรแกรม Fractora Angel Touch ครับผม
โปรแกรม Fractora Angel Touch
ฟิลเลอร์หลุมสิว ( filler หลุมสิว ) ราคา อยูที่ 12,500 / 1 cc ครับ
คำถามที่พบบ่อย
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว อันตรายไหม
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ควรทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นครับผม ฉีดฟิลเลอร์ไม่อันตรายหากใช้ฟิลเลอร์แท้อย่าง ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid : HA) ก็ปลอดภัยหากห่วงครับ แต่ ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ หรือหมอกระเป๋า หากฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องอาจฉีดพลาดเข้าสู่เส้นเลือด ได้ครับผม
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว อยู่ได้นานแค่ไหน
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว อยู่ได้นานสูงสุดประมาณ 18-24 เดือน แต่ไม่สามารถอยู่ได้ตลอด หากฟิลเลอร์สลายออกไปหมด ก็สามารถมาเติมใหม่ได้เรื่อยๆ ไม่เป็นอันตราย
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ต้องทำกี่ครั้ง
ฉีดฟิลเลอร์หลายครั้งไม่อันตรายครับผม หากฉีดฟิลเลอร์แท้ ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid : HA) ก็ปลอดภัย สามารถเติมใหม่ได้เรื่อยๆ สามารถสลายเองได้ครับ
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวใช้กี่ CC
ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวใช้ 1-2 cc ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนหลุมสิวที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็ม หากมีไม่เยอะ จุดน้อย 1 ซีซี ก็เพียงพอครับ จะเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงทันทีหลังทำเลยครับ
ข้อสรุป
การรักษาหลุมสิวด้วยการ ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ฉีดหลุมสิว สามารถช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนได้เป็นอย่างดี ซึ่งผลลัพธ์ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามแต่สภาพผิว เอ็มวีต้าเราเป็นคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ โดยตรง หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามแพทย์เพิ่มเติมได้จากช่องทางด้านล่างหรือแอดไลน์เพื่อการปรึกษาโดยตรงกับทางเรา ได้ที่…
- Line@ : @mvitaclinic
- Facebook : M Vita Clinic เอ็มวีต้าคลินิก
- โทร : 0814922626 นะครับ
คุณหมอเอ็มให้กำลังใจคนมีปัญหาหลุมสิว ที่ขาดความมั่นใจเรื่องผิวทุกท่านนะครับ ว่ารักษาหายได้ อย่างตรงจุด ดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ กลับมาผิวสวย หน้าใส อีกครั้งครับ หมอเอ็ม ยินดีให้คำปรึกษาฟรี!! ครับ
ข้อมูลของ เอ็มวีต้า คลินิก (Mvita Clinic)
- เปิด 11:00 – 20:00 วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
เอกสารอ้างอิง
Squadrito F, Bitto A, Irrera N, et al. Pharmacological activity and clinical use of PDRN. Front Pharmacol. 2017;8:224. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/28491036/
Galeano M, Bitto A, Altavilla D, et al. Polydeoxyribonucleotide stimulates angiogenesis and wound healing in the genetically diabetic mouse. Wound Repair Regen. 2008;16(2):208‐217. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18318806/
Bitto A, Galeano M, Squadrito F, et al. Polydeoxyribonucleotide improves angiogenesis and wound healing in experimental thermal injury. Crit Care Med. 2008;36(5):1594‐1602. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18434887/
Valdatta L, Thione A, Mortarino C, Buoro M, Tuinder S. Evaluation of the efficacy of polydeoxyribonucleotides in the healing process of autologous skin graft donor sites: a pilot study. Curr Med Res Opin. 2004;20(3):403‐408. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/15025849/
Hasson A, Romero WA. Treatment of facial atrophic scars with Esthélis, a hyaluronic acid filler with polydense cohesive matrix (CPM). J Drugs Dermatol. 2010;9(12):1507–1509.