โบท็อกกราม

โบท็อกกราม เห็นผลภายในกี่วัน และการเตรียมตัวก่อนฉีด

โบท็อกกราม ให้หน้าเรียว เป็นเทรนด์ที่ใครๆก็ชอบ หลายๆท่านมีโครงหน้าใหญ่ มีแก้ม ทำให้รูปหน้าดูไม่ค่อยสมส่วน ซึ่งการฉีดโบท็อก เป็นวิธีลดแก้มปรับรูปหน้าเรียวที่ได้ผลดีมากๆ ครับ ซึ่งบทความนี้หมอเขียนขึ้นเพื่อให้ความรู้อย่างละเอียดเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดกราม สำหรับท่านที่อยากหน้าเรียว เพื่อให้ทราบว่าฉีดโบลดกรามคืออะไร ทำให้หน้าเรียวได้อย่างไร กี่วันเห็นผล ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ ต่างๆ พร้อมแนะนำ โบท็อกกรามควรฉีดที่ไหนดี และรีวิวโบท็อกกรามด้วยครับ 

ก่อนอื่นหมอขอแนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อ หมอเอ็ม หรือ นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกนะครับ

ฉีดโบท็อกกราม

โบท็อก หรือ โบทูไลนุ่มท็อก

ฉีดโบท็อกกราม หรือ โบทูไลนุ่มท็อกซิน เป็นสารจำพวกโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งสัญญาณประสาทที่จะมากระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัว ผลจึงทำให้กล้ามเนื้อตึงมากขึ้น ขยับน้อยลงครับ 

ฉีดโบท็อกกราม หรือ โบทูไลนุ่มท็อกซิน เป็นสารจำพวกโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีฤทธิ์ในการยับยั้งสัญญาณประสาทที่จะมากระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัว ผลจึงทำให้กล้ามเนื้อตึงมากขึ้น ขยับน้อยลง 

ความจริง สารนี้มีชื่อว่า โบทูไลนุ่มท็อกซิน แต่ชื่อ โบท็อก ที่เราเรียกกันติดปากนั้น เป็นชื่อทางการค้าของ ผลิตภัณฑ์ตัวโบทูไลนุ่มท็อกซิน ที่ผลิตจากบริษัทที่เป็นผู้คิดค้นและถือลิขสิทธิ์ บริษัทแรกของโลก ซึ่งชื่อ โบท็อก ทั้งสั้นและเรียกง่าย ก็เลยติดปากทั้งคุณหมอและคนไข้ส่วนใหญ่มาจนปัจจุบันนั่นเองครับ

สาร โบทูไลนุ่มท็อกซิน หรือ โบท็อก เป็นสารที่ผลิตโดยแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่ชื่อว่า คลอสทริเดียม โบทูไลนุ่ม Clostridium botulinum ซึ่งอาจจัดได้ว่าเป็น “สารพิษ” (ท็อกซิน toxin) (เพราะในปริมาณที่มากๆ มันจะมีฤทธิ์บล็อกกล้ามเนื้อมัดต่างๆ ของร่างกายเรา) แต่แม้จะจัดเป็นสารพิษ แต่หากนำมาใช้ในขนาดที่น้อยๆ พอเหมาะสม ก็สามารถนำเอามาเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ให้คุณได้มหาศาลเลยทีเดียว


โบท็อกช่วยให้หน้าเรียวสวยด้วยการลดขนาดกล้ามเนื้อ

โบท็อกกราม2

ด้วยคุณสมบัติของโบทูไลนุ่มท็อกซิน ที่สามารถยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อได้นั้น มันจึงมีฤทธิ์อีกอย่างหนึ่งด้วย นั่นคือกรณีที่เราฉีดกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ผลของมันจะทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นมีขนาดเล็กลง 

โครงหน้าของเราชาวเอเชีย จะมีรูปหน้าค่อนข้างสั้นกว่าชาวตะวันตก เรามักมีโหนกแก้มที่กว้าง และมีกรามที่ค่อนข้างใหญ่ และมักจะมีกล้ามเนื้อกรามค่อนข้างเยอะ ทำให้รูปหน้าค่อนไปทางทรงสี่เหลี่ยมดังรูป

ลดขนาดกราม ด้วยการฉีด โบท็อกกราม

หากเราสามารถลดขนาดของกล้ามเนื้อกรามลงได้ ก็จะส่งผลให้กรามกว้างน้อยลง รูปหน้าจึงเรียวขึ้นได้ดังรูป

ซึ่งโบทูไลนุ่มท็อกซินเป็นตัวช่วยที่จะทำให้กล้ามเนื้อกรามของเราเล็กลงได้โดยไม่ต้องผ่าตัด เพียงแค่ฉีดแล้วรอผลให้มันทำงาน รูปหน้าเราก็จะค่อยๆ เรียวขึ้นได้แบบง่ายๆ เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้การฉีดโบลดกรามก็ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์เป็นคนฉีดให้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด


ผู้ที่ควรฉีดโบท็อกกราม

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีใบหน้าเรียวสวยได้รูปดูเป็นวีเชฟ ก็สามารถเข้ารับการฉีดโบทูไลนุ่มท็อกซินเพื่อผลลัพธ์ที่ต้องการได้

หมอมีวิธีการง่ายๆ ให้คุณสามารถตรวจกล้ามเนื้อกรามของคุณได้เองที่บ้านว่ามีมากหรือน้อยเพียงใดนะครับ 

ลองเอามือสองข้างจับบริเวณช่วงกรามของคุณ แล้วลองกัดฟันดู จะรู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อที่เด้งมาชนมือทั้งสองข้างใช่ไหมครับ…

นั่นแหละครับคือกล้ามเนื้อกราม ซึ่งถ้าหากแรงที่เด้งขึ้นมาชนมือนั้นค่อนข้างที่จะเยอะ ก็แสดงว่ากล้ามเนื้อกรามของคุณค่อนข้างที่จะมีเยอะด้วยเช่นกัน 

ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีนะครับ เพราะว่าถ้าฉีดโบท็อกแล้วคุณจะเห็นผลค่อนข้างชัดเจนนั่นเองครับ


ฉีดโบท็อกกรามเจ็บไหม

ฉีดโบท็อกกรามเจ็บไหม? โดยทั่วไปแล้วไม่เจ็บมาก อาจจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น แพทย์จะมีการใช้ยาชาเฉพาะที่หรือน้ำแข็งประคบ หรืออาจใช้การพ่นลมเย็นเพื่อลดความเจ็บปวดลง กรณีคนไข้ประสงค์อยากได้ยาชาให้แจ้งกับทางคลินิกได้ อย่างไรก็ตาม ระดับความเจ็บปวดอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความไวต่อความเจ็บปวดส่วนบุคคล 

โดยสรุป การฉีดโบท็อกกรามเป็นหัตถการที่ค่อนข้างไม่เจ็บและทนได้สำหรับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทราบรายละเอียดและเตรียมตัวให้พร้อมก่อนรับการรักษา


ความปลอดภัยในการฉีดโบท็อกกราม

สำหรับการฉีดโบลดกรามหรือโบทูลินั่มท็อกซินบริเวณกรามนั้นมีความปลอดภัยสูงมาก แทบจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เลย ส่วนใหญ่ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ก็แค่

  1. อาการช้ำตามรอยเข็มฉีดเพียงเล็กน้อยซึ่งจะหายไปได้ภายในประมาณ 3-5 วัน
  2. อาจพบอาการบวมหรือตึงตรงบริเวณกราม ในช่วง 3 วันแรก ซึ่งหายได้เอง
  3. บางท่านจะรู้สึกว่าในช่วงแรกหลังฉีด จะไม่ค่อยมีแรงในการเคี้ยวอาหาร ซึ่งเป็นผลจากการทำงานของโบท็อกและเป็นเพียงชั่วคราว ส่วนใหญ่ อาการนี้จะหายภายใน 1 – 3 อาทิตย์
  4. อาการไม่พึงประสงค์ที่อาจพบได้ หลังฉีดโบทูลินั่มท็อกซินบริเวณกราม ซึ่งนานๆ จะพบสักครั้งหนึ่ง คือ หลังฉีดไปแล้วมีอาการยิ้ม 2 ข้างไม่เท่ากัน ซึ่งเกิดจากตัวยาอาจมีการออกฤทธิ์ที่กล้ามเนื้อที่ใช้ในการยิ้มด้วย ซึ่งตรงนี้เราจึงควรฉีดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ก็จะมีเทคนิคในการป้องกันอาการนี้

ข้อควรปฏิบัติ ก่อนการฉีดโบท็อก

ข้อควรปฏิบัติ ก่อนการฉีดโบท็อก
  1. หากเป็นไปได้ ควรหยุดการใช้ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDS ได้แก่ ibuprofen naproxen วิตามินอีน้ำมันปลา ใบแปะก๊วย เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อลดการเกิดรอยฟกช้ำ
  2. หากเป็นไปได้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนการรักษา
  3. ถ้ามีประวัติของโรคเริมบริเวณริมฝีปากควรแจ้งแพทย์ก่อนรับการรักษา เพราะคุณหมออาจจะพิจารณาให้ยาป้องกันการกำเริบของโรคเริมหลังฉีดได้ในบางท่าน

ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีดโบท็อก

ข้อห้าม ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีดโบท็อก
  1. พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ชั่วโมงแรก หลังฉีด เพื่อให้ยากระจายเข้ากล้ามเนื้อได้มากขึ้น
  2. หลังการฉีด 4 ชั่วโมงแรกควรหลีกเลี่ยงการก้มหน้าหรือนอนราบ
  3. อย่านวด กด หรือกระทำการอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษาเป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังการรักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อค หรือนวดหน้า
  4. งดการอยู่ในที่ร้อนเช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อน หรือการออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ ในช่วง 1 สัปดาห์ หลังฉีด
  5. สามารถใช้เครื่องสำอางได้หลังการรักษาด้วยความนุ่มนวล หลีกเลี่ยงการกดถูรุนแรง
  6. สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้ โดยรอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 1-7 วัน
  7. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ต่อไปอย่างน้อย 3-7 วัน
  8. หากมีข้อสงสัยหรือสิ่งผิดปกติใดๆ ให้ติดต่อทางคลินิกหรือกลับมาพบคุณหมอ

ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อก

สำหรับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อกรามหรือบริเวณน่อง จะใช้เวลาในการเห็นผลพอสมควร โดยส่วนใหญ่หลังฉีดคนไข้จะเริ่มสังเกตเห็นผลที่ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด และเห็นผลลัพธ์ได้สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 2 เดือน


การฉีดโบท็อกกรามเห็นผลนานหลายเดือน

ผลลัพธ์จากการฉีดโบทูไลนุ่มท็อกซินบริเวณกล้ามเนื้อกราม จะคงอยู่ได้ประมาณ 4-8 เดือน ขึ้นกับหลายปัจจัยครับ ได้แก่แบรนด์ของโบทูไลนุ่มท็อกซินที่เลือกใช้ โดสที่ฉีด ความเข้มข้นของตัวยา(ใส่น้ำเกลือมากหรือน้อย) เป็นต้น


ผลการรักษาหลังหยุดฉีดโบท็อก

หลังจากหมดฤทธิ์ของโบทูไลนุ่มท็อกซินแล้ว กล้ามเนื้อกรามก็จะค่อยๆ กลับมา แต่ขนาดของกล้ามเนื้อที่กลับมาในท้ายสุด จะมีขนาดเล็กกว่าก่อนฉีดนิดหน่อย (ไม่ใหญ่กว่าเดิมแน่นอนครับ) เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่ากล้ามเนื้อของเรานั้น โดยธรรมชาติถ้าเราใช้งานมันบ่อย มันก็มักจะมีขนาดใหญ่ขึ้น (เหมือนคนที่เล่นกล้ามเพาะกายประมาณนั้น) ในทางตรงกันข้าม หากเราใช้มันน้อยมันก็จะมีขนาดเล็กลง (เหมือนคนที่บาดเจ็บที่ขา ไม่ได้เดินนานๆ ก็จะมีอาการ ขาไม่มีแรงกล้ามเนื้อลีบเล็ก ต้องทำกายภาพบำบัด) การที่เราฉีดโบทูไลนุ่มท็อกซินเข้าไปที่กล้ามเนื้อกราม ก็เปรียบเสมือนการทำให้กล้ามเนื้อขยับน้อยลง เหมือนไม่ได้ใช้งานมันไปประมาณ 6 เดือน ดังนั้น กล้ามเนื้อที่กลับมาจึงมีขนาดลีบเล็กลงกว่าก่อนฉีดนั่นเอง


ข้อดีของการใช้ โบท็อกของแท้

ใบรางวัล

โบทูไลนุ่มท็อกซินจัดเป็นยาประเภทฉีด ซึ่งต้องมีการรับรองถึงประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ตัวยา โดยองค์การอาหารและยา (อย.) ดังนั้นเราจึงควรเลือกฉีดตัวยาของแท้ที่ผ่านการรับรองจากอย. เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง

เพื่อความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เราใช้จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย. จริงๆ ก่อนอื่น เราควรทราบก่อนว่า โบทูไลนุ่มท็อกซินในประเทศไทยมีแบรนด์ไหนบ้างที่ผ่าน อย. แล้ว 

แต่ยังไม่พอนะครับ เพราะบางคลินิกอาจจะบอกว่าใช้แบรนด์เหล่านี้ แต่ในความเป็นจริงกลับใช้ยาปลอมที่มีขายกันค่อนข้างเกลื่อนในอินเทอร์เน็ต หรือบางคลินิกอาจใช้ยาหิ้ว คือ นำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งกรณีนี้เราจะเช็คได้ยากครับว่าเป็นของแท้จริงหรือไม่ เพราะยาบางแบรนด์ไม่ได้ใช้ชื่อเดียวกันในทุกประเทศ (ยกตัวอย่าง นิวโรน็อค ใช้ชื่อ เมดิท็อกซิน ในบางประเทศ เป็นต้น)

ดังนั้นเราจึงควรทราบวิธีดูยาของแท้โดยสังเขป เพื่อที่จะเช็คได้ว่ายาที่เราใช้นั้นเป็นของแท้หรือไม่ ดังที่หมอจะได้กล่าวต่อไปครับ


ยี่ห้อโบท็อก หรือ โบทูไลนุ่มท็อกซินที่ผ่าน อย.

โบท็อกยี่ห้อไหนดี?  ปัจจุบันนี้ มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารโบทูไลนุ่มท็อกซิน หลายแบรนด์มากๆ ที่ผ่าน อย. ในท้องตลาด ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด ก็คือ โบทูไลนุ่มท็อกซินจากประเทศสหรัฐอเมริกา ตัวดั้งเดิมเก๋าสุด ก็คือ โบท็อก อัลเลอร์แกน (Botox allergan) ขวดสีม่วงนั่นเอง รองลงมา ก็จะเป็น โบทูไลนุ่มท็อกซินสายยุโรป ที่ดังๆ ในบ้านเราจะมี ซีโอมิน (Xeomin) หรือ โบเยอรมัน กับดิสพอร์ต (Dysport) ต่อมาก็จะเป็นโบทูไลนุ่มท็อกซินสายเกาหลี ซึ่งมีเยอะหลายแบรนด์มากๆ ที่ดังๆ ก็จะมี นิวโรน็อค (Neuronox),  โบทูแลค (Botulax), นาโบตะ (Nabota), ฮูเจล (Hugel), และ เอสท็อค (Aestox) และสุดท้ายก็จะเป็นโบท็อคสายฮ่องกงคือ บีทีเอ็กซ์เอ (BTXA) และอาจจะมีแบรนด์อื่นที่ไม่ได้กล่าวไว้ในที่นี้ด้วย

ณ ปี 2019 แบรนด์ที่หมอกล่าวมาทั้งนี้ ได้ผ่านการรับรองจาก อย. แล้ว ส่วนแบรนด์อื่นๆ หากคนไข้สงสัยก็สามารถเช็คผ่านเว็บของทาง อย. ได้ที่ https://porta.fda.moph.go.th/FDA_SEARCH_ALL/MAIN/SEARCH_CENTER_MAIN.aspx     


วิธีดูโบท็อกของแท้

สำหรับโบท็อกกราม และรูปแบบของ โบท็อกจากอเมริกา Allergan มีวิธีดูว่าเป็นของแท้ได้ง่ายๆ หลายวิธีด้วยกันครับ

หมอเอ็ม :ได้ทำการสรุปเป็นแผนภาพดังนี้ครับ

Allergan โบท็อกกราม แท้ ดูยังไง

โบบริสุทธิ์ (Xeomin) คือ โบท็อกจากประเทศเยอรมัน มีวิธีดูง่ายๆเช่นเดียวกันดังนี้ ครับ

วิธีดู XEOMIN Botox แท้

โบท็อกฮูเจล (Hugel) คือ โบท็อกจากประเทศเกาหลีใต้ มีวิธีดูง่ายๆเช่นเดียวกันดังนี้ ครับ

โบท็อกอีกชนิด (Neuronox) คือ โบท็อกจากประเทศเกาหลีใต้ นิยมใช้เป็นโบท็อกริ้วรอย มีวิธีดูง่ายๆเช่นเดียวกันดังนี้ ครับ

Neuronox จากการโบท็อกกรามแท้ ดูได้ง่ายๆ

รีวิว โบท็อกลดกราม หน้าเรียว ของเอ็มวีต้าคลินิก

รีวิว โบท็อกกราม ด้วย Xeomin Botox โบบริสุทธิ์ จาก คุณอุ้ม กศิญา ครับผม

xeomin botoxx Xeomin Review คุณอุ้ม กศิญา
Xeomin Review คุณอุ้ม
Xeomin Review คุณอุ้ม กศิญา
Xeomin รีวิว คุณ อุ้ม
Xeomin รีวิว คุณอุ้ม

รีวิว โบท็อกกราม และ Lifting ด้วย Xeomin Botox โบบริสุทธิ์ จาก คุณมิ้นท์

Xeomin รีวิว คุณมิ้น

รีวิว โบท็อกกราม ด้วย Xeomin Botox โบบริสุทธิ์ จาก คุณกิ้ก

Xeomin รีวิว คุณกิ้ก

รีวิวคุณแชมป์ ธนพล นักแสดง พิธีกร วีเจหนุ่มหล่อ ปรับรูปหน้าให้คม เป๊ะสไตล์แมนๆ ด้วย โบท็อก Allergan จากประเทศสหรัฐอเมริกา

รีวิวคุณสมาร์ท เทียบก่อน-หลัง ฉีดกราม ปรับรูปหน้าเรียวด้วยโบท็อก Neuronox

รีวิวลูกค้า โบท็อกกราม หล่อใส เกาหลี

รีวิวคุณเป้ ฉีดกราม ปรับรูปหน้าเรียวด้วยโบท็อก Allergan

โบท็อกกราม ให้หน้าเรียว
โบท็อกกราม หน้าเรียว
โบกรามหน้าเรียว

รีวิวโบท็อกกราม ดาราหนุ่มหน้าใหม่ไฟแรง น้องเคน ด้วย Neuronox โดยคุณหมอเอ็มครับ

รีวิวหนุ่มหล่อจากประเทศเกาหลีใต้ โบท็อกลดกราม ด้วยโบเกาหลี Neuronox โดยคุณหมอเอ็ม

Neuronox หน้าเรียว ผู้ชาย

รีวิวลดกราม หน้าเรียว คนไข้ของเอ็มวีต้าคลินิก เทียบก่อนและหลังฉีด 1 เดือน

รีวิว โบท็อกกราม ลดขนาดกราม ให้เล็กลง

รีวิว โบท็อกกราม ด้วย Hugel Toxin จาก คุณมังกร

โบท็อก

คุณหมอเอ็ม รับรางวัลจากบริษัท  Allergan , Medyceles (ตัวแทนจำหน่าย Neuronox) , Merz Aesthetics ( ตัวแทนจำหน่าย Xeomin )

ปี 2561

Allergan : งาน The Professionista

Allergan
Allergan Botox
Allergan
Allergan Botox

ปี 2561

Medyceles : คุณหมอเอ็มได้รับเกียรติจากผู้แทนเชิญรางวัลมอบให้โดยตรงที่เอ็มวีต้าคลินิกครับ

ปี 2562

Allergan : งาน Beauty decoded

ปี 2563

Neuronox : งาน Sharing your Happiness

รับประกันคุณภาพ จาก Mvitaclinic

ปี 2563

Aesthetics Master Class

Mers Aesthetic : MASJ Treatment Program

Mers Aesthetic : START PURE START RIGHT by Merz

ปี 2564

งาน 6th Merz Gala Thai Night 2564

6th Merz Gala Thai Night 2564-05
6th Merz Gala Thai Night 2564-01
6th Merz Gala Thai Night 2564-02
6th Merz Gala Thai Night 2564-03
6th Merz Gala Thai Night 2564-04

ปี 2564

Allergan : Allergan Aesthetics Guide 2021 ใบรับรองและการันตีคุณภาพจากบริษัท Allergan Aesthetics

Allergan Guide 2021

Galderma : Top100 Exclusive Clinic จากบริษัท Galderma (Thailand) ซึ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมความงามระดับโลก Restylane, Dysport ซึ่งรางวัลนี้จะมอบให้กับคลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้จากสวีเดน และเป็นคลินิก 100 อันดับแรกเท่านั้นในปี 2020


คำถามที่พบบ่อย

โบท็อก หรือ โบทูไลนุ่มท็อกซิน มีส่วนช่วยในการสามารถยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อได้ หากฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ จะทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นมีขนาดเล็ก ช่วยปรับโครงหน้าของผู้ที่มีโหนกแก้มกว้าง กรามใหญ่ แก้ปัญหาใบหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยม เมื่อลดกรามด้วยการฉีดโบท็อกแล้ว ใบหน้าจะเรียวเล็กลง ได้รูปวีเชฟสวยงาม

การฉีดโบท็อกกรามมีความปลอดภัยสูงมาก แทบไม่มีผลข้างเคียงอะไรเลย อาการที่พบได้บ้างหลังจากฉีดโบท็อก คือ ร่องรอยช้ำของเข็มฉีดโบท็อก อาการบวมหรือตึงบริเวณฉีด รู้สึกอ่อนแรงเมื่อเคี้ยวอาหาร อาการเหล่านี้จะหายไปเองได้ในระยะเวลาประมาณ 3 – 7 วัน

หลังฉีดโบลดกรามแล้วสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ขอแนะนำให้แต่งหน้าอย่างระมัดระวัง สัมผัสใบหน้าอย่างเบามือ งดการบีบ กด หรือถูหน้าอย่างรุนแรง

บริเวณกรามเป็นบริเวณที่ใช้เวลานานมากในการปรับขนาดกล้ามเนื้อ โบท็อกกรามจะใช้เวลานานกว่าจะเห็นผลชัดเจน ปกติแล้วจะใช้เวลานานประมาณ 2 สัปดาห์ ถึงจะเริ่มเห็นผลการรักษา สำหรับผลที่ชัดเจนที่สุดจะเห็นได้เมื่อผ่านไปประมาณ 2 เดือน

ผลการรักษามักจะอยู่ได้นานประมาณคือ 4 – 8 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบรนด์โบท็อกที่ใช้และปัจจัยต่างๆ แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ได้นานหลายเดือน กรณีฉีดอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มระยะเวลาของผลการรักษาในครั้งต่อไปให้ยาวนานขึ้นได้


ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*:

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษา นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า