การเป็นสิวที่หลัง เป็นปัญหาผิวที่หลายคนพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ สิวที่หลังสามารถทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเมื่อต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่โชว์ผิวบริเวณหลัง
ซึ่งการหาสาเหตุและวิธีรักษาสิวที่หลังที่ถูกต้อง จะช่วยให้เรามีผิวที่เรียบเนียนและสุขภาพดี ดังนั้นในบทความนี้หมอจะพาทุกคนไปไขข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นสิวที่หลัง พร้อมแนะวิธีรักษาสิวที่หลังเพื่อให้สามารถกลับมามั่นใจในผิวหลังที่เรียบเนียนอีกครั้ง!
เป็นสิวที่หลังเกิดจากอะไร?
สิวที่หลังสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ตั้งแต่พันธุกรรม ฮอร์โมน การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม ไปจนถึงการสะสมของเหงื่อและสิ่งสกปรก มาดูกันว่าเหตุใดจึงเป็นสิวที่หลัง และสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้จะมีอะไรบ้าง
– พันธุกรรม
สำหรับบางคน การเป็นสิวที่หลังอาจเกิดจากพันธุกรรม หากมีประวัติครอบครัวที่มีสิวอย่างรุนแรง ก็มีโอกาสที่จะเกิดสิวที่หลังมากขึ้น เนื่องจากการทำงานของต่อมไขมันในผิวที่ผลิตน้ำมันมากเกินไป ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ครับ
– การเสียดสีของเสื้อผ้า
เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือทำจากวัสดุที่ไม่ระบายอากาศ สามารถทำให้เกิดการเสียดสีที่หลัง ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนและสิวได้ ควรเลือกสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีเพื่อลดความเสี่ยงของการเป็นสิวที่หลัง
– ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงมีประจำเดือน ทำให้ร่างกายผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เป็นสิวที่หลังได้
– การใช้ยาบางชนิด
ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์หรือยาเคมีบำบัด สามารถกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้เป็นสิวที่หลัง หากใครกำลังใช้ยาประเภทนี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีควบคุมสิวที่เหมาะสมครับ
– ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวบางชนิด
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือสารที่อุดตันรูขุมขนอาจทำให้เป็นสิวที่หลังได้ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า “non-comedogenic” หรือ “oil-free” ครับ
– เหงื่อและสิ่งสกปรก
การออกกำลังกายหรือการทำงานที่ทำให้เหงื่อออกมาก อาจทำให้เหงื่อและสิ่งสกปรกสะสมอยู่บนผิวหนัง หากไม่อาบน้ำหรือทำความสะอาดผิวหลังจากที่เหงื่อออก สิ่งสกปรกเหล่านี้จะอุดตันรูขุมขน ทำให้เป็นสิวที่หลังได้ง่ายขึ้น
วิธีรักษาสิวที่หลังฉบับหมอผิวหนังแนะนำ
การรักษาสิวที่หลังอย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง จะช่วยให้ผิวของเรากลับมาเรียบเนียนได้เร็วขึ้น หมอมีวิธีรักษาสิวที่หลัง ที่แนะนำโดยหมอผิวหนังมาให้ลองทำตามกันดูครับ
1. การใช้ยารักษาสิวที่หลัง
ยาทาสามารถช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้ แต่ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
- ยาปฏิชีวนะ : ใช้เพื่อกำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
- เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ : ช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- เรตินอยด์ : ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตันของรูขุมขน และลดการผลิตน้ำมัน
- ยาคุมกำเนิด : สำหรับผู้หญิง อาจช่วยลดการผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดสิว
- H3 2. การใช้เลเซอร์รักษาสิว
สำหรับคนที่เป็นสิวที่หลังรุนแรงหรือเรื้อรัง การทำเลเซอร์อาจเป็นวิธีรักษาสิวที่หลังที่มีประสิทธิภาพครับ โดยเลเซอร์จะช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น ลดการผลิตน้ำมันและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิว ซึ่งสามารถทำให้สิวลดลงได้อย่างรวดเร็วและช่วยฟื้นฟูผิวที่เสียหายจากสิว
ซึ่งที่ เอ็มวีต้า คลินิก คลินิกรักษาสิว ใกล้ฉัน เรามีคอร์สรักษาสิว ด้วยโปรแกรมที่ออกแบบมารักษาสิวจากต้นตอ ซึ่งไม่เพียงรักษาสิวเท่านั้น แต่ยังรักษารอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิว รักษาผิวแพ้ระคายเคืองที่อาจทำให้เกิดสิวผด และยังมีอีกหนึ่งโปรแกรม คือโปรแกรมรักษาหลุมสิว
ทั้งหมดนี้ ทุกขั้นตอนการรักษาล้วนอ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้ผิวบาง ไม่เกิดการระคายเคือง ไม่เป็นการขัดลอกผิวจนสูญเสียโครงสร้างผิว แต่ตรงกันข้าม การรักษานั้นต้องเป็นการฟื้นฟูชั้นผิว ทำให้ผิวปราศจากสิวที่เกิดขึ้นใหม่ ช่วยให้ผิวแข็งแรง และมีสุขภาพดีอีกด้วยครับ
3. การกดสิวที่หลังโดยผู้เชี่ยวชาญ
การกดสิวที่หลังโดยผู้เชี่ยวชาญเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาสิวที่หลัง โดยเฉพาะสิวหัวหนองและสิวอุดตัน
ข้อดีของการกดสิวโดยผู้เชี่ยวชาญ
- สิวยุบเร็วขึ้น: การกดสิวโดยตรงจะช่วยให้สิวยุบตัวลงเร็วขึ้น
- ลดการอักเสบ: การกำจัดหัวสิวออกไปจะช่วยลดการอักเสบและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย
- เหมาะกับสิวหัวหนอง: การกดสิวเหมาะสำหรับสิวหัวหนองที่พร้อมจะแตกออกมากที่สุด
4. ฉีดสิวที่หลัง
การฉีดสิวที่หลังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาสิวอักเสบขนาดใหญ่ หรือสิวที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาภายนอก โดยเฉพาะสิวหัวช้าง หรือสิวที่มีหนองอยู่ภายใน ซึ่งการฉีดยาจะช่วยลดการอักเสบและทำให้สิวยุบตัวลงเร็วขึ้น
5. อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เร็วที่สุดเมื่อเหงื่อออก
หลังจากออกกำลังกายหรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก ควรรีบอาบน้ำทันทีเพื่อล้างเหงื่อและสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนผิว นอกจากนี้ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นประจำเพื่อลดโอกาสการเป็นสิวที่หลัง
6. ทำความสะอาดผิวอย่างอ่อนโยน
การทำความสะอาดผิวเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสิวที่หลัง ควรใช้สบู่หรือเจลทำความสะอาดที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อไม่ให้ผิวแห้งเกินไปและหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีแรงๆ
7. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและปราศจากน้ำมัน
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมอ่อนโยนและปราศจากน้ำมันจะช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำให้ผิวระคายเคืองหรือกระตุ้นให้เกิดสิวครับ
8. หลีกเลี่ยงการสะพายกระเป๋าเป้
การสะพายกระเป๋าเป้ที่หลังอาจทำให้เกิดการเสียดสีและความชื้นที่หลัง ซึ่งเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการเกิดเป็นสิวที่หลัง ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสะพายกระเป๋าหนักๆ หรือหากจำเป็นควรสลับการสะพายไปที่ไหล่เพื่อไม่ให้หลังต้องรับแรงเสียดสีตลอดเวลาครับ
สรุปบทความ
การเป็นสิวที่หลังเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ แต่ไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ สำคัญที่สุดคือ การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีอย่างที่หมอได้แนะนำไปครับ
อย่างไรก็ตามหากปัญหายังคงอยู่ การปรึกษาแพทย์ผิวหนังภายใต้การรักษาของ M Vita Clinic ผู้เชี่ยวชาญการปรึกษาสิวทุกชนิดจะดีที่สุดครับ ด้วยการบำบัดเลเซอร์ให้ใบหน้าของคุณเกลี้ยงเกลา กระจ่างใส แอดไลน์เพื่อการปรึกษาได้เลย เพื่อเพิ่มความมั่นใจ กลับมาผิวสวย หน้าใสอีกครั้งครับ หมอเอ็ม ยินดีให้คำปรึกษาฟรี!! ครับ
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่