สิวหัวช้างเป็นหนึ่งในสิวที่สร้างความเจ็บปวดและรำคาญมากที่สุด โดยมักจะมีลักษณะบวมแดง อักเสบรุนแรง และใช้เวลานานกว่าจะหาย ถึงหายก็มีโอกาสที่จะทิ้งรอยแผลเป็นสิว หลุมสิวไว้ได้อีกด้วย ซึ่งวิธีรักษาสิวหัวช้างนั้นจะเฉพาะเจาะจงมากกว่าสิวประเภทอื่นๆ เพื่อป้องกันการทิ้งรอยแผลเป็นและการอักเสบซ้ำครับ
สิวหัวช้างเกิดจากอะไร?
สิวหัวช้างเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่สาเหตุหลักๆ มีดังนี้ครับ
- การอักเสบ : สิวหัวช้างเกิดจากการอักเสบที่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการบวมและเจ็บปวด
- แบคทีเรีย : เชื้อ P. acnes ที่อาศัยอยู่บนผิวหนังสามารถทำให้เกิดการอักเสบรุนแรงได้
- ฮอร์โมน : การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะในวัยรุ่นหรือช่วงมีประจำเดือน สามารถกระตุ้นการเกิดสิวหัวช้างได้
- พันธุกรรม : บางคนอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวหัวช้างได้ง่ายกว่าคนอื่นเนื่องจากปัจจัยทางพันธุกรรม
- ความเครียด : ความเครียดสามารถกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนที่ทำให้เกิดสิวได้
- การใช้ยาบางชนิด : เช่น ยาคุมกำเนิด ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์
ลักษณะของสิวหัวช้าง
สิวหัวช้างมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากสิวธรรมดา ดังนี้ครับ
- มีขนาดใหญ่กว่าสิวทั่วไป (มักมีขนาดมากกว่า 5 มิลลิเมตร)
- มีอาการบวม แดง และเจ็บ
- อยู่ลึกใต้ผิวหนัง ไม่มีหัวสิว
- อาจมีหนองอยู่ภายใน
- มักเกิดบริเวณใบหน้า คอ หน้าอก และหลัง
6 วิธีรักษาสิวหัวช้าง แนะนำโดยแพทย์ผิวหนัง
การรักษาสิวหัวช้างควรทำอย่างถูกวิธีและต่อเนื่อง เพื่อให้สิวลดการอักเสบและไม่ทิ้งรอยแผลเป็น มาดูกันครับว่ามีวิธีรักษาสิวหัวช้างที่แนะนำโดยแพทย์ผิวหนังวิธีไหนบ้าง
1. ทายารักษาสิวหัวช้าง
การใช้ยาทาเฉพาะจุดเป็นวิธีรักษาสิวหัวช้างที่แพทย์แนะนำ ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของBenzoyl peroxide, Salicylic acid หรือ Retinoids จะช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แต่การทายาควรทำอย่างระมัดระวังและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวครับ
2. ฉีดยารักษาสิวหัวช้าง
สำหรับสิวหัวช้างที่มีการอักเสบมาก แพทย์อาจแนะนำการฉีดยา ซึ่งมักเป็นยาสเตียรอยด์เข้าไปในสิวเพื่อช่วยลดการอักเสบและบวม การฉีดยาจะช่วยให้สิวหัวช้างยุบเร็วขึ้นภายในไม่กี่วัน และลดความเสี่ยงของการทิ้งรอยแผลเป็นจากสิวได้
สำหรับสิวหัวช้างที่อักเสบรุนแรงและมีขนาดใหญ่ การฉีดยาคอร์ติโคสเตียรอยด์เข้าไปในสิวโดยตรง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการรักษาที่ได้ผลรวดเร็ว ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์จะช่วยลดการอักเสบและบวมของสิว ทำให้สิวยุบตัวลงอย่างรวดเร็วภายใน 2-3 วัน และลดความเสี่ยงในการเกิดรอยแดง รอยดำ และรอยแผลเป็นหลังจากสิวยุบตัวลง ที่ เอ็มวีต้าคลินิก มีบริการฉีดสิวหัวช้างโดยแพทย์ ราคาเพียง 100 บาท ต่อ เม็ด
3. กินยารักษาสิวหัวช้าง
ในกรณีที่มีสิวหัวช้างเยอะหรือสิวที่อักเสบไม่ตอบสนองต่อการทายา วิธีรักษาสิวหัวช้างแพทย์อาจแนะนำการใช้ยากิน เช่น ยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือยาลดฮอร์โมนสำหรับผู้หญิง ยากินจะช่วยลดการอักเสบจากภายในและควบคุมการเกิดสิวใหม่ได้ครับ
4. ฉายแสงลดการอักเสบ
วิธีการฉายแสงเป็นอีกหนึ่งวิธีรักษาสิวหัวช้างที่ช่วยลดการอักเสบของสิวหัวช้าง โดยแสงสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอุดตันของรูขุมขน การฉายแสงเป็นวิธีที่ไม่เจ็บปวดและมีผลข้างเคียงน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์เร็ว
5. เลเซอร์สิวหัวช้าง
การใช้เลเซอร์ในการรักษาสิวหัวช้าง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถลดการอักเสบของสิว ทำลายแบคทีเรีย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เลเซอร์ที่นิยมใช้รักษาสิวหัวช้าง ได้แก่ เลเซอร์ CO2 Fractional และเลเซอร์ Erbium Fractional ซึ่งจะช่วยลดขนาดของสิว ลดความแดง และช่วยให้รอยแผลเป็นจางลง อย่างไรก็ตาม การทำเลเซอร์อาจมีผลข้างเคียง เช่น ผิวแดง บวม หรือแสบร้อนชั่วคราว ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินสภาพผิวและเลือกชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสม
6. การผ่าตัด
ในกรณีที่สิวหัวช้างมีขนาดใหญ่และเจ็บมาก แพทย์อาจแนะนำการผ่าตัดเพื่อนำสิวและหนองออก การผ่าตัดจะช่วยลดการอักเสบและป้องกันการกระจายของเชื้อแบคทีเรีย แต่อาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ ซึ่งสามารถรักษาเพิ่มเติมได้ด้วยการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์เพื่อลดรอยแผลเป็น
H2 สรุปบทความ
สิวหัวช้างอาจเป็นปัญหาที่สร้างความกังวลใจ แต่ด้วยความเข้าใจว่าสิวหัวช้างเกิดจากอะไรและวิธีรักษาสิวหัวช้างที่ถูกต้อง เราก็จะสามารถจัดการกับปัญหาสิวหัวช้างนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการรักษาที่ดีที่สุดก็คือการปรึกษากับแพทย์ที่มีความชำนาญ เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
ที่ M VITA Clinic คลินิกรักษาสิว ใกล้ฉัน เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาสิวอย่างครบวงจร นอกจากนี้ เรายังมีคอร์สรักษาสิวที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับการรักษาสิวด้วยเทคโนโลยีล่าสุด และการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ เพื่อให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
อย่าปล่อยให้สิวหัวช้างมาทำลายความมั่นใจของคุณอีกต่อไป ติดต่อ M VITA Clinic วันนี้ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่ผิวหน้าที่เรียบเนียน สวยใสอย่างที่คุณต้องการ!
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่