ผิวหน้าแห้งใช้อะไรดี? หลายคนคงเคยกังวลเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาผิวหน้าแห้งกร้าน ที่ไม่เพียงทำให้แต่งหน้าไม่ติด แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจอีกด้วย บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าปล่อยไว้อาจนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้ วันนี้ หมอเอ็ม จาก M VITA Clinic จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับสาเหตุและวิธีดูแลรักษาผิวหน้าแห้งอย่างถูกวิธีกันครับ
ผิวแห้งคืออะไร
ผิวหน้าแห้ง (Dry Skin) คือภาวะที่ผิวมีการผลิตน้ำมันหรือ Sebum น้อยกว่าปกติ ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเกราะป้องกันตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดอาการผิวแห้งตึง หยาบกร้าน หน้าลอกเป็นขุย และอาจเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่าย บางรายอาจมีอาการแสบหรือคันร่วมด้วย หากปล่อยไว้โดยไม่ดูแลรักษา อาจทำให้ผิวอ่อนแอ แพ้ง่าย และเกิดปัญหาผิวอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น การอักเสบหรือลอกเป็นขุยเรื้อรัง
ลักษณะผิวหน้าแห้ง

- ผิวหน้ารู้สึกตึงและไม่สบายผิวหลังล้างหน้า
- ผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน
- มีอาการลอกเป็นขุย โดยเฉพาะเวลาแต่งหน้า
- อาจมีอาการคันหรือระคายเคืองร่วมด้วย
- ผิวดูหมองคล้ำ ไม่สดใส
- เห็นริ้วรอยชัดเจนขึ้น
- ผิวไวต่อสิ่งกระตุ้นภายนอกมากขึ้น
สาเหตุของผิวแห้ง

- อายุที่เพิ่มมากขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น ผิวจะผลิตน้ำมันน้อยลง ประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวและการกักเก็บความชุ่มชื้นจะลดลง ส่งผลให้ผิวแห้งง่ายขึ้น
- สภาพอากาศ: อากาศที่แห้งหรือหนาวเย็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว จะทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย รวมถึงการอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน
- การขาดน้ำในร่างกาย: การดื่มน้ำไม่เพียงพอส่งผลให้ผิวขาดความชุ่มชื้นจากภายใน
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม: เช่น สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่มีฤทธิ์รุนแรง มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง
- พฤติกรรมการดูแลผิว: การอาบน้ำร้อน การขัดผิวแรงเกินไป หรือการไม่ทาครีมบำรุงหลังทำความสะอาดผิว
- การขาดสารอาหาร: โดยเฉพาะวิตามินที่จำเป็นต่อผิว เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี และซิงค์
- โรคบางชนิด: เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคผิวหนังอักเสบ หรือโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน
วิธีดูแลรักษาผิวแห้ง
การดูแลรักษาผิวหน้าแห้งนั้น ต้องเริ่มจากการเข้าใจสาเหตุและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม ทั้งการดูแลจากภายนอกและภายใน เพื่อให้ผิวกลับมาแข็งแรงและชุ่มชื้นอย่างยั่งยืน ซึ่งการดูแลรักษาผิวแห้ง มีดังนี้
1. ทากันแดดเมื่อต้องออกแดดจัด

การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันผิวแห้งกร้าน เพราะรังสี UV ไม่เพียงทำให้ผิวคล้ำเท่านั้น แต่ยังทำลายเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติ ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30 และทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเมื่อต้องอยู่กลางแจ้ง โดยเฉพาะสูตรที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
2. รับประทานอาหารที่มีวิตามินและโอเมก้า

การดูแลผิวหน้าแห้งต้องเริ่มจากภายในสู่ภายนอก การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จึงสำคัญมาก โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินอี วิตามินซี และโอเมก้า 3 เช่น ปลาทู ปลาแซลมอน ผักและผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ถั่วต่าง ๆ สารอาหารเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิว ทำให้ผิวแข็งแรง เก็บกักความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น และลดการอักเสบของผิว
3. ใช้ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดตัวที่ไม่ระคายเคืองผิว

การเลือกใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือผ้าเช็ดตัวที่นุ่มและสะอาดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผิวแห้ง ควรเลือกผ้าที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย 100% และซับเบา ๆ อย่างนุ่มนวล ไม่ถูแรง เพราะการเสียดสีมากเกินไปจะยิ่งทำให้ผิวระคายเคืองและแห้งมากขึ้น ที่สำคัญควรเปลี่ยนผ้าเช็ดหน้าทุกวันเพื่อป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย
4. ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ (Moisturizer) ทุกครั้งหลังล้างหน้าหรืออาบน้ำ

สำหรับคำถามที่ว่า “ผิวหน้าแห้งใช้อะไรดี?” มอยส์เจอไรเซอร์คือคำตอบแรกที่แนะนำ ควรทาทันทีหลังล้างหน้าหรืออาบน้ำขณะที่ผิวยังหมาด ๆ เพื่อให้ผิวดูดซึมได้ดีที่สุด เลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เช่น Hyaluronic Acid, Ceramides หรือ Glycerin และควรทาซ้ำระหว่างวันเมื่อรู้สึกว่าผิวแห้งตึง
5. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างอ่อนโยนและเหมาะสม

นอกจากมอยส์เจอไรเซอร์แล้ว การเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรใช้คลีนเซอร์สูตรอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของสารที่ทำให้ระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารกันเสีย เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับผิว (ประมาณ 5.5) เพื่อไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นระหว่างการทำความสะอาด
6. ไม่ควรใช้น้ำร้อนจัดในการล้างหน้า

การล้างหน้าด้วยน้ำร้อนจัดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวแห้ง เพราะความร้อนจะชะล้างน้ำมันตามธรรมชาติของผิวออกไป ควรใช้น้ำอุ่นอุณหภูมิปานกลางในการล้างหน้า และล้างด้วยน้ำเย็นในตอนท้ายเพื่อปิดรูขุมขน ไม่ควรล้างหน้านานเกินไป และควรซับหน้าเบา ๆ ให้แห้งทันทีหลังล้างหน้าเสร็จ
7. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
หากผิวแห้งไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้ครีมบำรุงเฉพาะทางหรือทรีตเมนต์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

วิธีป้องกันผิวแห้ง
- ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน
- หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งเป็นเวลานาน เช่น ห้องแอร์ ควรใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ
- ทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน แม้จะอยู่ในร่ม
- ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารที่ทำให้ผิวระคายเคือง
- เลี่ยงการอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำร้อนจัด
- ไม่ขัดหรือถูผิวแรงเกินไป โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า
- ทาครีมบำรุงผิวทันทีหลังอาบน้ำหรือล้างหน้า
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อผิว
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับผิวแห้ง
ปัญหาผิวหน้าแห้งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและมีคำถามมากมายที่คนส่วนใหญ่สงสัย ทีมแพทย์ M VITA Clinic ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยมาตอบเพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น
สรุปบทความ ผิวหน้าแห้ง
ปัญหาผิวหน้าแห้งเป็นปัญหาที่สามารถพบได้บ่อยและส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของหลายคน แต่สามารถดูแลรักษาได้ด้วยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและการดูแลสุขภาพผิวอย่างถูกวิธี อย่างไรก็ตาม หากมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรัง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ M VITA Clinic ซึ่งเป็นคลินิกรักษาสิวที่มีประสบการณ์ในการดูแลปัญหาผิวมากกว่า 15 ปี เรามีคอร์สรักษาสิวและปัญหาผิวต่าง ๆ ครบวงจร พร้อมด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทันสมัย ถ้าท่านกำลังมองหาคลินิกรักษาสิว ใกล้ฉัน M VITA Clinic พร้อมดูแลปัญหาผิวของท่านด้วยความใส่ใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือปรึกษาหมอฟรี! ได้ที่นี่ครับ…
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
เอกสารอ้างอิง
- Khoo L. Carbon dioxide laser treatment of Benign skin lesions. National Skin Centre Experience 2001;12:2. https://scholar.google.com/scholar?hl=en&as_sdt=0%2C5&q=Khoo%20L.%20Carbon%20dioxide%20laser%20treatment%20of%20Benign%20skin%20lesions.%20National%20Skin%20Centre%20Experience%202001;12:2.
- Vaοsse V, Clerici T, Fusade T. Bowen disease treated with scanned pulsed high energy CO 2 laser. Follow-up of 6 cases.Ann Dermatol Venereol 2001;128:1220-4 https://scholar.google.com/scholar?hl=en&as_sdt=0%2C5&q=Va%CE%BFsse%20V,%20Clerici%20T,%20Fusade%20T.%20Bowen%20disease%20treated%20with%20scanned%20pulsed%20high%20energy%20CO%3Csub%3E%202%3C/sub%3E%20laser.%20Follow-up%20of%206%20cases.Ann%20Dermatol%20Venereol%202001;128:1220-4.
- Nouri K, Villafradez-Diaz LM. Light-Laser therapy in the treatment of acne vulgaris. J Cosmet Dermatol 2005;4:318-20.https://scholar.google.com/scholar?hl=en&as_sdt=0%2C5&q=Nouri%20K,%20Villafradez-Diaz%20LM.%20Light-Laser%20therapy%20in%20the%20treatment%20of%20acne%20vulgaris.%20J%20Cosmet%20Dermatol%202005;4:318-20.
วันเผยแพร่