สิวเสี้ยนเป็นปัญหาผิวที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวมันหรือรูขุมขนกว้าง โดยสิวเสี้ยนมักปรากฏให้เห็นบนจมูกและบริเวณข้างแก้ม ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียนและกวนใจไม่น้อย
การหาวิธีจัดการกับสิวเสี้ยนเพื่อให้ผิวหน้าดูสะอาดและเรียบเนียนจึงเป็นสิ่งที่หลายคนสนใจ วันนี้หมอจะมาแชร์วิธีลดสิวเสี้ยน ให้ได้ผลและทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้น พร้อมเคล็ดลับการดูแลผิวทั้งที่สามารถทำได้เองง่ายๆ ที่บ้าน และพึ่งหัตถการทางการแพทย์ครับ
Line @ : @mvitaclinic
สิวเสี้ยนคืออะไร? เกิดจากอะไร?
ก่อนที่เราจะไปดูวิธีลดสิวเสี้ยน มาทำความเข้าใจกันก่อนว่าสิวเสี้ยนคืออะไร และเกิดขึ้นได้อย่างไรครับ
สิวเสี้ยน เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่แตกต่างจากสิวหัวดำ โดยสิวเสี้ยนจะมีเส้นขนเล็กๆ อุดตันอยู่ภายใน ทำให้มีลักษณะเป็นจุดดำเล็กๆ หรือหนามแหลมยื่นออกมา ซึ่งเกิดจากการสะสมของความมันและสิ่งสกปรกภายในรูขุมขน มักพบเห็นได้ชัดเจนบริเวณจมูกและคาง สาเหตุหลักมาจากการผลิตน้ำมันส่วนเกิน การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อุดตันรูขุมขน
สาเหตุหลักของการเกิดสิวเสี้ยน ได้แก่
- การผลิตน้ำมันบนผิวหน้ามากเกินไป: ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาในปริมาณมาก ทำให้รูขุมขนอุดตัน
- การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว: เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะหลุดลอกออกมาและอุดตันรูขุมขน
- แบคทีเรีย: แบคทีเรียชนิดหนึ่งชื่อ P.acnes อาศัยอยู่ในรูขุมขนและทำให้เกิดการอักเสบ
- ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงวัยรุ่น หรือช่วงมีประจำเดือน ทำให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
- พันธุกรรม: บางคนมีแนวโน้มที่จะเป็นสิวเสี้ยนมากกว่าคนอื่นๆ เนื่องจากพันธุกรรม
- สภาพแวดล้อม: มลภาวะ ฝุ่นละออง และความชื้นสูง อาจทำให้ผิวอุดตันและเกิดสิวเสี้ยนได้ง่ายขึ้น
- การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม: ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อุดตันรูขุมขน หรือเครื่องสำอางที่หนักเกินไป อาจเป็นสาเหตุของสิวเสี้ยน
- การขัดผิวแรงเกินไป: การขัดผิวแรงๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองและกระตุ้นให้เกิดการผลิตน้ำมันมากขึ้น
- การสัมผัสใบหน้าบ่อยครั้ง: การสัมผัสใบหน้าบ่อยครั้งจะทำให้แบคทีเรียและสิ่งสกปรกมาเกาะที่ผิวหน้า และอุดตันรูขุมขน
วิธีลดสิวเสี้ยนด้วยตัวเอง
วิธีลดสิวเสี้ยน สามารถทำได้หลายวิธี โดยเริ่มจากการดูแลผิวหน้าด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งจะช่วยทำให้สิวเสี้ยนลดลงและรูขุมขนดูกระชับมากขึ้น เช่น
1. กดสิวเสี้ยนด้วยเครื่องมือกดสิว
เครื่องมือกดสิวเป็นวิธีลดสิวเสี้ยนที่ดี แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง โดยเริ่มจากการทำความสะอาดผิวหน้าและเครื่องมือให้สะอาด จากนั้นใช้เครื่องมือกดรอบๆ สิวเสี้ยนเบาๆ เพื่อดันสิ่งอุดตันออกมา
ข้อดี ของการกดสิวเสี้ยนด้วยเครื่องมือกดสิว
- เห็นผลเร็ว : สามารถกำจัดสิวเสี้ยนออกได้ทันที
- ราคาถูก : เครื่องมือกดสิวหาซื้อง่ายและราคาไม่แพง
ข้อเสีย ของการกดสิวเสี้ยนด้วยเครื่องมือกดสิว
- เสี่ยงต่อการติดเชื้อ : หากเครื่องมือกดสิวไม่สะอาด หรือการกดไม่ถูกวิธี อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- เกิดรอยแดง รอยดำ : การกดสิวแรงเกินไป อาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเป็นรอยแดง รอยดำ หรือเกิดรอยแผลเป็นได้
- รูขุมขนกว้าง : การกดสิวบ่อยๆ อาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น
- สิวอักเสบมากขึ้น : หากกดสิวที่ยังไม่พร้อม อาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้น
2. ถอนสิวเสี้ยนด้วยแหนบ
อีกหนึ่งวิธีลดสิวเสี้ยนที่ได้รับความนิยม คือการใช้แหนบถอนสิวเสี้ยน การใช้แหนบช่วยดึงสิวเสี้ยนออกจากรูขุมขนได้อย่างตรงจุด แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรใช้แรงมากเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายผิวครับ
ข้อดี ของการถอนสิวเสี้ยนด้วยแหนบ
- เห็นผลทันที : สิวเสี้ยนจะหลุดออกไปทันทีที่ถอน
- ราคาประหยัด : เครื่องมือราคาไม่แพง หาซื้อง่าย
ข้อเสียและความเสี่ยง ของการถอนสิวเสี้ยนด้วยแหนบ
- ติดเชื้อ : หากแหนบไม่สะอาด หรือถอนสิวในบริเวณที่ไม่สะอาด อาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- รอยแดง รอยดำ : การถอนแรงเกินไป อาจทำให้เกิดรอยแดง รอยดำ หรือรอยแผลเป็นได้
- รูขุมขนกว้าง : การถอนบ่อยๆ อาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้น
- สิวอักเสบมากขึ้น : หากถอนสิวที่ยังไม่สุก อาจทำให้สิวอักเสบมากขึ้น
- สิวเสี้ยนกลับมาใหม่ : การถอนสิวไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สิวเสี้ยนอาจกลับมาเกิดใหม่ได้
3. ใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน
การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก แค่แปะแผ่นลอกไว้บนจมูกหรือบริเวณที่มีสิวเสี้ยน ทิ้งไว้สักครู่แล้วดึงออก สิวเสี้ยนจะติดออกมากับแผ่นลอก วิธีนี้ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนได้อย่างรวดเร็ว แต่ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้น
ข้อดี ของการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน
- เห็นผลรวดเร็ว : สามารถกำจัดสิวเสี้ยนได้อย่างรวดเร็วหลังจากลอกแผ่นออก
- ใช้งานง่าย : เพียงแค่แปะแผ่นลงบนจมูกแล้วรอตามเวลาที่กำหนด
- หาซื้อง่าย : มีวางจำหน่ายทั่วไปตามร้านขายยาหรือร้านเครื่องสำอาง
ข้อเสียและข้อควรระวัง
- รูขุมขนกว้าง : การใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยนบ่อยครั้งอาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นได้ เนื่องจากการดึงรุนแรง
- ผิวระคายเคือง : สารเคมีในแผ่นลอกอาจทำให้ผิวระคายเคือง แดง หรือเกิดอาการแพ้ได้
- สิวเสี้ยนกลับมาใหม่ : การลอกสิวเสี้ยนไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สิวเสี้ยนอาจกลับมาเกิดใหม่ได้
- ไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว : ผิวที่บอบบางหรือแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการใช้แผ่นลอกสิวเสี้ยน
4. สครับผิว
การสครับผิวช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน การสครับสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งจะช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น และช่วยลดสิวเสี้ยน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่ควรระวัง
- อย่าสครับแรงเกินไป : อาจทำให้ผิวระคายเคือง
- อย่าสครับบ่อยเกินไป : สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีแผล : อาจทำให้แผลอักเสบ
- ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย : ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนใช้
5. ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ BHA และ AHA
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BHA (Beta Hydroxy Acid) และ AHA (Alpha Hydroxy Acid) เป็นวิธีลดสิวเสี้ยนที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและทำความสะอาดรูขุมขน ลดการอุดตันที่ทำให้เกิดสิวเสี้ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวัง
- ระคายเคือง: อาจทำให้ผิวระคายเคือง แดง หรือลอกได้ในช่วงแรก
- แสงแดด: ผิวที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี BHA และ AHA จะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง
- การแพ้: หากมีอาการแพ้ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์
Line @ : @mvitaclinic
วิธีลดสิวเสี้ยนด้วยวิธีทางการแพทย์
หากการลดสิวเสี้ยน ด้วยวิธีที่ทำเองที่บ้านไม่เพียงพอ เราสามารถเลือกวิธีลดสิวเสี้ยนโดยใช้บริการคลินิกรักษาสิวได้ครับ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี โดยมีวิธีการทางการแพทย์หลายแบบที่ช่วยจัดการกับปัญหาสิวเสี้ยนอย่างได้ผล
1. รักษาสิวเสี้ยนด้วยเลเซอร์
การใช้เลเซอร์ในการรักษาสิวเสี้ยนเป็นวิธีลดสิวเสี้ยนที่ได้ผลเร็ว เลเซอร์จะเข้าไปทำลายเซลล์รากขนซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวเสี้ยน ทำให้รูขุมขนเล็กลง กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น รูขุมขนกระชับ และผิวเรียบเนียนขึ้น ซึ่งมีเลเซอร์อยู่มากมายหลายแบบที่ช่วยในการรักษาสิวเสี้ยนได้ เช่น CO2 Laser, V beam, Pico Laser, Long Pulse Nd Yag รวมถึงการฉายแสง IPL ก็สามารถรักษาสิวเสี้ยนได้เช่นกันครับ
2. รักษาสิวเสี้ยนด้วยการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี (Chemical Peel)
เป็นขั้นตอนการรักษาผิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการแก้ปัญหาสิวเสี้ยนและปัญหาผิวอื่นๆ โดยหลักการทำงานคือการใช้สารเคมีที่มีความเข้มข้นต่างกันไป เพื่อผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่ตายแล้วออกไป ทำให้ผิวชั้นในที่อ่อนนุ่มและสดใสเผยออกมา ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดการเกิดสิวเสี้ยน และทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ดังนั้น ควรทำโดยแพทย์เท่านั้น
3. รักษาสิวเสี้ยนด้วยยาเฉพาะทาง
ยาเฉพาะทางที่ใช้รักษาสิวเสี้ยนมักมีส่วนผสมของสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอักเสบ และฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เช่น เบนโซอิลเปอร์ออกไซด์, เรตินอยด์ เป็นต้น ยาเหล่านี้จะช่วยให้รูขุมขนสะอาดขึ้น ลดการอุดตัน และป้องกันการเกิดสิวซ้ำ ยาบางชนิดอาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้ ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
4. การใช้แสง (Light Therapy)
แสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะ จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ลดการอักเสบ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้รูขุมขนกระชับขึ้น
5. การลอกสิวเสี้ยนโดยแพทย์
การลอกสิวเสี้ยนโดยแพทย์เป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาสิวเสี้ยนได้ตรงจุดและเห็นผลได้รวดเร็วกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั่วไป แพทย์ผิวหนังจะมีเครื่องมือและความรู้เฉพาะทางในการทำความสะอาดรูขุมขนและกำจัดสิวเสี้ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. การฉีดโบท็อกซ์
โบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อใบหน้า ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง ช่วยลดการผลิตน้ำมัน และลดโอกาสการเกิดสิวเสี้ยน ผลของโบท็อกซ์จะอยู่ได้ประมาณ 3-6 เดือน ต้องทำซ้ำเป็นระยะ และอาจมีผลข้างเคียง เช่น กล้ามเนื้ออ่อนแรงชั่วคราว
Line @ : @mvitaclinic
สรุปบทความ
สิวเสี้ยนอาจเป็นปัญหาผิวที่ทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน แต่ก็มีวิธีลดสิวเสี้ยนที่สามารถจัดการได้ด้วยการดูแลผิวที่เหมาะสม ทั้งจากวิธีทำเองที่บ้านและการรักษาทางการแพทย์ และที่สำคัญอย่าลืมดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการเกิด สิวเสี้ยน และทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นครับหากกำลังมองหาคลินิกรักษาสิว สิวเสี้ยน หรือปัญหาผิวด้านอื่น ๆ M Vita Clinic ดูแลรักษาใบหน้าแบบครบวงจร รักษาสิวและสุขภาพผิว มีบริการรักษาสิวให้เลือกหลากหลาย หรือหากต้องการคำแนะนำในการดูแลผิว อย่าลังเลที่จะติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรี เพราะผิวสวยสุขภาพดีเริ่มต้นได้ที่ M VITA Clinic
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่