สิวเม็ดข้าวสาร เป็นปัญหาผิวที่พบได้บ่อย มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็กสีขาวคล้ายเม็ดข้าวสาร มักพบบริเวณเปลือกตา หน้าผาก จมูก และแก้ม สร้างความรำคาญใจ สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาสิวชนิดนี้ หมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล แพทย์ประจำ เอ็มวีต้าคลินิก (M Vita Clinic) จะเขียนอธิบายให้เข้าใจเกี่ยวกับสิวเม็ดข้าวสาร ว่าใช่สิวจริงๆ หรือไม่ สาเหตุการเกิดคืออะไร และวิธีรักษาที่ได้ผลลัพธ์ดี รับรองว่าอ่านจบแล้วคุณจะหายสงสัย และสามารถรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน
สิวเม็ดข้าวสาร คืออะไร
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าว่าสิวเม็ดข้าวสารเป็นสิว แต่จริงๆ แล้วคือ ตุ่มซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังชั้นนอก และมีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างจากสิว
สิวเม็ดข้าวสาร เกิดจาก
สิวเม็ดข้าวสารเกิดจากการอุดตันของเคราติน (Keratin) ที่ใต้ผิวหนังชั้นนอก แม้ว่าการสะสมของเคราตินจะเป็นสาเหตุหลัก แต่ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การผลัดเซลล์ผิวผิดปกติ, การอุดตันของต่อมไขมัน, การใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิด, โรคทางพันธุกรรม และการบาดเจ็บของผิวหนัง ก็อาจทำให้เกิดสิวชนิดนี้ได้
สิวเม็ดข้าวสาร มีลักษณะอย่างไร ?
สิวเม็ดข้าวสาร มีลักษณะตุ่มเป็นสีขาวหรือเหลือง นูนแข็ง เหมือนเม็ดข้าวสาร เส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร และไม่อันตรายต่อผิวหนัง สิวชนิดนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่สามารถอักเสบหรือติดเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม อาจทำให้รู้สึกคันหรือระคายเคืองได้
สิวเม็ดข้าวสารเกิดบริเวณไหนได้บ้าง ?
สิวเม็ดข้าวสารสามารถเกิดขึ้นได้บริเวณใดของร่างกายที่มีรูขุมขน แต่มักพบบริเวณต่อไปนี้มากที่สุด
- บริเวณใบหน้า เช่น เปลือกตา หน้าผาก จมูก และแก้ม
- บริเวณลำคอ
- บริเวณหน้าอก
- บริเวณหลัง
- บริเวณอวัยวะเพศ
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวเม็ดข้าวสาร
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวเม็ดข้าวสาร มีดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาดเป็นประจำ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินที่อาจอุดตันรูขุมขน
- หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิวเม็ดข้าวสาร เพราะอาจทำให้สิวอักเสบและเกิดรอยแผลเป็นได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน และไม่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
- ทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดสิวเม็ดข้าวสารได้
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่แพ้ ใช้เครื่องสำอางที่อ่อนโยนและไม่อุดตันรูขุมขน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารระคายเคือง เช่น สารเคมีหรือสารซักฟอก
- รับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีวิตามิน A C E และสังกะสี ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวและรักษาสิว
รู้หรือไม่? สิวเม็ดข้าวสารสามารถรักษาให้หายได้โดยไม่ต้องบีบหรือแกะ แถมยังมีวิธีรักษาที่หลากหลาย
สิวเม็ดข้าวสารรักษาด้วยวิธีไหนบ้าง
วิธีการรักษาสิวชนิดนี้มีหลายวิธีด้วยกัน ดังนี้
1. การผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิวจะช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วที่อุดตันรูขุมขน สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ BHA หรือสครับผิวหน้าสัปดาห์ละครั้ง
*AHA (Alpha Hydroxy Acids) และ BHA (Beta Hydroxy Acids) เป็นกรดที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวมีหลายความเข้มข้น หากใช้ไม่ถูกวิธี อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวได้ครับ*
2. การใช้ยา
แพทย์อาจจ่ายยารักษาสิว เช่น ยาทาเรติโนอิด์ ยาทากรดซาลิไซลิก หรือยาทากรดไกลโคลิค เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตันรูขุมขน
- ยาทาเรตินอยด์ (Topical retinoids) เช่น tretinoin, adapalene เป็นต้น ยากลุ่มนี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้รูขุมขนสะอาดขึ้น และลดการอุดตัน
- ยาทากรดซาลิไซลิก เช่น เบนซิล เพอร์ออกไซด์ (Benzyl Peroxide) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) จะช่วยละลายไขมันและเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วที่ช่วยลดการอุดตันในรูขุมขน
- ยาทากรดไกลโคลิค เช่น ไกลโคลิค แอซิด (Glycolic Acid) หรือแลคติก แอซิด (Lactic Acid) จะช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
3. กดสิว
การกดสิวเม็ดข้าวสารด้วยตัวเองอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือติดเชื้อได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการกดเอง เนื่องจากหัวสิวแข็ง ลึก และออกยาก หากต้องการกดสิวชนิดนี้ ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คลินิกรักษาสิวใกล้ฉัน
4. เลเซอร์สิวเม็ดข้าวสาร
หากเป็นสิวเม็ดกระจุกตัวจำนวนมาก หรือเม็ดใหญ่ การเลเซอร์เป็นวิธีรักษาสิวที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เพราะเลเซอร์จะช่วยทำลายก้อนไขมัน หรือเซลล์ผิวหนังที่อุดตันรูขุมขน เลเซอร์ที่ใช้รักษาสิวเม็ดข้าวสารมีหลายชนิดที่นิยมใช้ ได้แก่
- CO2 Laser เป็นเลเซอร์ที่มีพลังงานสูง สามารถใช้ทำลายก้อนไขมันหรือเซลล์ผิวหนังที่อุดตันรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- Erbium YAG Laser เป็นเลเซอร์ที่มีพลังงานต่ำ เหมาะสำหรับการรักษาสิวที่บริเวณผิวบอบบาง เช่น รอบดวงตา
- IPL (Intense Pulsed Light) เป็นเลเซอร์แบบผสมผสาน สามารถใช้ทำลายก้อนไขมันหรือเซลล์ผิวหนังที่อุดตันรูขุมขน พร้อมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
วิธีรักษาสิวเม็ดข้าวสารด้วยตัวเอง
- ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด สิวเม็ดข้าวสารเกิดจากไขมันหรือเซลล์ผิวหนังที่อุดตันรูขุมขน การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากผิว ซึ่งช่วยลดโอกาสในการอุดตันรูขุมขนได้
- การสครับผิวหน้า จะช่วยขัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกอย่างมีประสิทธิภาพ ควรใช้สครับผิวหน้าที่มีส่วนผสมของเม็ดขัดขนาดเล็ก ควรสครับผิวหน้าสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- ใช้ยา หรือพบแพทย์เพื่อกำจัดสิว
- เลือกรับประทาน อาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วนช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง
- ควรหลีกเลี่ยงการกดสิวด้วยตัวเอง เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือติดเชื้อได้
- ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา หากรักษาด้วยตัวเองแล้วไม่ดีขึ้นหรือมีจำนวนเพิ่มขึ้น การรักษาสิวเม็ดข้าวสารด้วยตัวเองนั้นควรทำด้วยความระมัดระวัง และควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหากอาการไม่ดีขึ้น
สิวเม็ดข้าวสาร อันตรายไหม
สิวเม็ดข้าวสารปล่อยทิ้งไว้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายครับ ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเหมือนสิวทั่วไป เป็นเพียงก้อนเล็กๆ สีขาวหรือสีเหลืองที่มีลักษณะคล้ายเม็ดข้าวสาร แต่หากไปสัมผัส แคะ แกะ เกา อาจทำให้เกิดแผล และสัมผัสสิ่งสกปรก ก่อให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบได้ครับ
รักษาสิวที่ เอ็มวีต้าคลินิก (M Vita Clinic)
เอ็มวีต้าคลินิก สร้างความประทับใจให้กับคนไข้กว่า 10,000+ เคส การันตีผลลัพธ์การรักษาสิว รอบสิว หลุมสิวที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน ลูกค้าบอกต่อกันมาอย่างยาวนาน
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับสิวเม็ดข้าวสาร ( Q & A )
Q : สิวเม็ดข้าวสารรักษากี่วันถึงจะหาย
สิวเม็ดข้าวสารสามารถหายได้เองภายในไม่กี่สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวน สิวเม็ดข้าวสาร ขนาด สิวเม็ดข้าวสาร และสภาพผิว
- หากสิวเม็ดข้าวสารมีจำนวนน้อยหรือมีขนาดเล็ก อาจหายได้เองภายใน 1-2 สัปดาห์
- หากสิวเม็ดข้าวสารมีจำนวนมากหรือมีขนาดใหญ่ อาจใช้เวลานานขึ้น 3-6 เดือน หรืออาจต้องรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ เช่น การกดสิว การจี้ด้วยเลเซอร์ หรือการใช้ยา
- ในกรณีที่รักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ เช่น การกดสิว การจี้ด้วยเลเซอร์ หรือการใช้ยา จะเห็นผลการรักษาภายใน 1-2 สัปดาห์
Q : สิวเม็ดข้าวสาร หายแล้วจะกลับมาเป็นอีกหรือไม่
สิวเม็ดข้าวสารสามารถกลับมาเป็นได้อีก แม้ว่าจะรักษาไปแล้วก็ตาม ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพผิว การดูแลผิวหน้า และสภาพแวดล้อม เช่น
- หากมีผิวมันหรือผิวแห้งเกินไป อาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่าย ส่งผลให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารได้
- หากไม่ดูแลผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่ายเช่นกัน
- หากอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีมลภาวะหรือมีฝุ่นละอองเยอะ อาจทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่ายเช่นกัน
สรุปเรื่อง สิวเม็ดข้าวสาร
สิวเม็ดข้าวสาร มีลักษณะเป็นก้อนเล็กๆ สีขาวหรือเหลือง มักพบบริเวณรอบดวงตา แก้ม หน้าผาก หรือจมูก เกิดจากไขมันหรือเซลล์ผิวหนังที่อุดตันรูขุมขน ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเหมือนสิวทั่วไป สิวชนิดนี้ไม่เป็นอันตราย แต่หากรักษาเองไม่ถูกวิธี อาจทำให้ผิวระคายเคืองหรือติดเชื้อได้ ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสม
ใครที่กำลังมองหาการรักษาสิวใกล้ฉัน สามารถปรึกษาเอ็มวีต้าคลินิกได้ เพราะที่เอ็มวีต้าคลินิก เราเชี่ยวชาญเรื่องรักษาสิวทุกประเภท ด้วยวิธีที่ปลอดภัย ได้ผลรวดเร็ว และอยู่ในการดูแลของแพทย์ หากคุณกำลังเป็นสิวอยู่ แล้วอยากปรึกษากับหมอ สามารถติดต่อนัดคิวพบหมอ หรือสอบถามโปรโมชั่น ได้ที่…
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่