สิวประจำเดือน หรือสิวเมนส์ (Period Acne) เป็นหนึ่งในประเภทของสิวฮอร์โมนที่เกิดจากการแปรปรวนของฮอร์โมนในช่วงที่มีรอบเดือน ทำให้ผิวหน้ามีการผลิตน้ำมันส่วนเกินและเกิดการอักเสบในรูขุมขน สิวเหล่านี้อาจเกิดขึ้นทุกเดือนก่อนช่วงมีประจำเดือน โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการผลิตน้ำมันมาก ทำให้ผู้หญิงหลายคนต้องเผชิญกับปัญหานี้ทุกเดือน
แล้วเรามีวิธีรักษาสิวประเภทนี้อย่างไร? ในบทความนี้จะพาไปหาคำตอบ ทั้งอาการ ลักษณะของสิวที่มักจะเกิดในช่วงนี้ และวิธีการดูแลรักษาที่ได้ผล!
อาการของสิวประจำเดือน
- มักเกิดสิวบริเวณทีโซน (T-Zone), รอบปาก, คาง, และกราม
- มักจะเกิดสิวขึ้นก่อนมีประจำเดือนประมาณ 1 สัปดาห์
- อาจรู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองบริเวณที่มีสิว
H2 สิวที่มักจะเกิดช่วงประจำเดือน
- สิวผด : เป็นตุ่มเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง มักเกิดพร้อมอาการคัน และอาจมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
- สิวหัวดำ : เกิดจากไขมันที่อุดตันในรูขุมขนสัมผัสกับอากาศ ทำให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้หัวสิวมีสีดำ
- สิวหัวขาว : ไขมันที่อุดตันในรูขุมขนแต่ไม่ได้สัมผัสกับอากาศ จึงเป็นสีขาว
- สิวหัวหนอง : สิวที่อักเสบ มีหนองอยู่ภายในและอาจเจ็บเมื่อสัมผัส
- สิวหัวช้าง : สิวอักเสบขนาดใหญ่ที่เจ็บมาก มักมีหนองหรือเลือดปะปนอยู่
การดูแลรักษาสิวประจำเดือน
- ทำความสะอาดผิวหน้าวันละ 2 ครั้ง
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยควบคุมความมัน
- หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนาและใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน
- ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอในช่วงมีประจำเดือน
- รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผักและผลไม้
Line @ : @mvitaclinic
การใช้ยารักษาสิวประจำเดือน
การใช้ยาสำหรับสิวประจำเดือนขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสิว หากสิวไม่รุนแรงมาก อาจใช้ยาทาภายนอก เช่น เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide) หรือกรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) เพื่อช่วยลดการอักเสบและควบคุมน้ำมัน แต่หากสิวมีความรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยารับประทาน เช่น ยาปฏิชีวนะ หรือยาที่ช่วยควบคุมฮอร์โมน
การปรับฮอร์โมนให้สมดุล
การปรับฮอร์โมนสามารถทำได้ด้วยการรับประทานยาคุมกำเนิด จะช่วยควบคุมฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายมีความสมดุลมากขึ้น ส่งผลให้สิวที่เกิดจากฮอร์โมนลดลง อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานยาคุมกำเนิด เพราะการรับประทานยาคุมมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ตามมา
การดูแลตัวเองแบบไม่ใช้ยา
การดูแลตัวเองในช่วงมีประจำเดือนสามารถช่วยลดปัญหาสิวประจำเดือนได้ เช่น
- การรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยระบบขับถ่าย
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลีกเลี่ยงความเครียดที่อาจทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน
- ปรึกษาแพทย์ รักษาด้วยการเลเซอร์สิว เป็นต้น
นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันหรือมีเนื้อหนาหนักในช่วงนี้จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดสิว
ปัญหารอยสิวที่ตามมา รักษาอย่างไร?
สิวประจำเดือน เมื่อสิวหายไปแล้ว อาจมีรอยสิวที่หลงเหลืออยู่ เช่น รอยแดง รอยดำ การรักษารอยสิวสามารถทำได้โดยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารช่วยลดเลือนรอย เช่น กรดอะซีลาอิก หรือการทำเลเซอร์เพื่อลดเลือนรอยดำและรอยแดง
อย่างไรก็ตาม ที่ M Vita Clinic เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลปัญหาสิวอย่างครบวงจร นอกจากนี้ เรายังมีคอร์สรักษาสิวและเลเซอร์รอยสิวที่ออกแบบมาเฉพาะ ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด และการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ เพื่อให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
- โปรแกรม Medi-Aclear เป็นโปรแกรมรักษาสิวอย่างล้ำลึก ตั้งแต่ทรีตเมนต์รักษาสิวไปจนถึงกระบวนการเลเซอร์รอยสิวเป็นขั้นตอนสุดท้ายครับ มีด้วยกันถึง 8 ขั้นตอน ซึ่งทำให้สิวลดลง รอยสิวจางลง 80-90% รักษาได้ทั้งสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวผด และสิวมีหัว แถมยังช่วยกระชับรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าครบจบในโปรแกรมเดียว รายครั้ง 3,500.- / 5 ครั้ง 10,500.- / 10 ครั้ง 17,000.-
- Ultima–Clear ของ M VITA CLINIC โปรแกรมรักษาสิวอักเสบและสิวทุกชนิด โดยไม่ต้องทานยาที่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ระดับฮอร์โมนในร่างกายยังไม่คงดี ไม่สามารถทานยารักษาสิวได้หรือสตรีมีครรภ์ โดยโปรแกรมรักษาสิวดังกล่าว เน้นการทำทรีตเมนต์รักษาสิว ให้สิวอักเสบและสิวชนิดอื่น ๆ หายเร็วขึ้น พร้อมเลเซอร์รอยสิว รอยสิวจางลง 80-90%
อย่าปล่อยให้สิวและรอยสิวมาทำลายความมั่นใจของคุณอีกต่อไป ติดต่อ M Vita Clinic วันนี้ เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่ผิวหน้าที่เรียบเนียน สวยใสอย่างที่คุณต้องการ!
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่