ฝุ่น pm 2.5 เป็นมลพิษที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน ทำให้ฝุ่นละอองนี้สามารถผ่านเข้าผิวหนังได้ง่าย ถึงแม้ว่าจะพยายามใส่หน้ากากอนามัยปกป้องผิวแล้วก็ตาม ซึ่งการที่ผิวหนังสัมผัสกับฝุ่นนี้บ่อย ๆ จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวหน้า ทำให้ผิวแพ้ง่าย แถมแก่กว่าวัยอีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลใจไปครับ วันนี้หมอจะพาทุกท่านมาเจาะลึกรายละเอียดของฝุ่น pm 2.5 กันว่ามีวิธีไหนบ้าง? ที่จะช่วยปกป้องผิวจากสภาวะนี้ได้ ตามมาดูกันเลย
ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อผิวหน้าอย่างไรบ้าง
หากผิวหน้าต้องเผชิญกับฝุ่น pm 2.5 อยู่ทุกวัน ย่อมส่งผลกระทบต่อผิวหน้าได้หลายอย่างเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น
- เกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน : หากคนไข้พบว่าเกิดผื่นแพ้ผิวหนังอักเสบขึ้น ทั้งใบหน้าหรือตามร่างกาย ก็อาจเกิดจากการสัมผัสกับฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้ได้ โดยเฉพาะในผู้ที่มีสภาพผิวหน้าบอบบาง เป็นสิวง่ายนั่นเองครับ
- เกิดขึ้นแบบเรื้อรัง : ส่งผลทำให้เซลล์ผิวเสื่อมและเกิดริ้วรอยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฝ้า กระ จุดด่างดำ หรือเม็ดสี เพราะฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้ล้วนมีสารอนุมูลอิสระที่จะเข้าไปทำร้ายผิว และก่อให้เกิดความเสื่อมสภาพของผิวได้นั่นเองครับ
ลักษณะอาการหน้าแพ้ฝุ่น PM 2.5
คนไข้หลาย ๆ ท่านอาจสงสัยกันว่า ลักษณะอาการของหน้าแพ้ฝุ่น pm2.5 เป็นอย่างไรบ้าง? เพื่อเป็นแนวทางในการสังเกตและรู้เท่าทัน เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้มักปนอยู่ในอากาศมากมาย หากเกิดอาการแพ้ขึ้น จะได้รักษาได้ทัน ซึ่งมักพบอาการต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้
- ผื่นแดงและคัน: ผิวหน้าจะแดงขึ้น เกิดผื่นคัน อาจมีตุ่มเล็ก ๆ หรือรอยแดง
- ผิวแห้งลอก: เมื่อต้องเผชิญกับฝุ่น pm 2.5 อยู่เป็นประจำทุกวัน ก็อาจทำให้ผิวแห้งตึง มีขุยลอกได้ โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง และหน้าผาก
- ผิวอักเสบ: ผิวจะบวมแดง รู้สึกแสบร้อน และอาจมีตุ่มน้ำใส
- สิวเห่อ: ฝุ่น PM 2.5 สามารถกระตุ้นให้สิวเห่อได้มากขึ้น โดยเฉพาะในท่านที่เป็นสิวง่าย
- รอยแดงและรอยดำ: หลังจากที่สิวยุบลง อาจทิ้งรอยแดงหรือรอยดำเอาไว้
- ผิวหมองคล้ำ: เนื่องจากฝุ่น pm 2.5 ร่วมมือกันกับแสงแดด จึงทำร้ายผิวให้คล้ำเสียได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
- รูขุมขนกว้าง: ผิวอาจดูขรุขระ และมีรูขุมขนกว้างขึ้น
ฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกิดสิวแบบไหนบ้าง
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าฝุ่น pm 2.5 เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว และมีคนไข้หลายท่านที่กำลังเผชิญกับปัญหาสิวแพ้ฝุ่นนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นสิวบริเวณหน้า หรือสิวขึ้นเฉพาะจุด เช่น หน้าผาก คาง และแก้ม เป็นต้น แต่จะเกิดเป็นสิวลักษณะแบบไหนได้บ้างนั้น มาติดตามกันต่อเลย
- สิวอุดตัน : ส่วนหนึ่งแล้วเป็นผลมาจากฝุ่น pm 2.5 ที่เข้าไปอุดตันรูขุมขน รวมกับน้ำมันบนใบหน้า จนก่อให้เกิดสิวอุดตันและสิวเห่อขึ้น สังเกตได้จากสิวที่มีลักษณะหัวเม็ดนูน เป็นตุ่มกลมเล็ก ๆ ตามรูขุมขน หากคนไข้คลำดูจะเป็นก้อนแข็งเล็ก ๆ ใต้ผิวหนังครับ หากไม่รักษา การอุดตันก็จะเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้สิวมีขนาดใหญ่กว่าเดิมได้ครับ
- สิวอักเสบ : ฝุ่น pm 2.5 ตัวร้ายทำลายผิวทำให้สิวเห่อไปทั่วหน้า เนื่องจากสามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังที่มีความบอบบางได้ ส่งผลให้เกิดสิวอักเสบเรื้อรัง สิวหัวหนอง และสิวหัวแดงได้
- ผื่นแพ้ : สังเกตได้จากลักษณะผิวหนังที่จะมีผื่นแดง มีความคัน และแสบ ๆ เนื่องจากเกิดการระคายเคืองของผิวหนังจากฝุ่น pm 2.5 ทั้งนี้หากมีผื่นขึ้นแล้ว ควรงดการลูบหรือเกา เพราะจะทำให้ผิวหนังระคายเคืองมากกว่าเดิม และควรไปพบแพทย์เพื่อรับแนวทางการรักษาที่เหมาะสมครับ
ดูแลผิวหน้าอย่างไรเมื่อต้องเผชิญฝุ่น PM 2.5
ในช่วงนี้ฝุ่นละออง pm 2.5 มีปริมาณสูงในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้คนไข้หลายท่านต้องเผชิญกับปัญหาหน้าแพ้ฝุ่น จนเกิดเป็นสิวอักเสบเรื้อรังขึ้น จึงต่างกำลังหาวิธีรักษาสิวอักเสบและวิธีดูแลผิวหน้ากันอยู่ ซึ่งหมอก็มีเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลผิวหน้าเมื่อต้องเผชิญกับฝุ่น pm 2.5 มาฝากกันครับ
- ล้างหน้าทำความสะอาดผิว ทั้งเช้าและเย็น ด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสูตรอ่อนโยน ที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้า
- หมั่นทาครีมกันแดดทุกวันอย่างสม่ำเสมอ ด้วยค่า SPF 50 pa+++
- ไม่แกะ เกา และลูบหน้า เพราะอาจทำให้สิวเห่อขึ้นได้
- พยายามหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนัก ๆ เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันที่รูขุมขนได้
- ทาสกินแคร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอย่างสม่ำเสมอ
- ลดหรือหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารเคมีที่ก่อให้เกิดการแพ้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง
- หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางอากาศ ที่มีค่าฝุ่นละออง pm 2.5 สูง
- สวมหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่นขนาดเล็กได้
- ใช้เครื่องฟอกอากาศที่ได้มาตรฐาน ที่สามารถกรองฝุ่นละอองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปิดประตูและหน้าต่าง เมื่อสภาพอากาศมีค่าฝุ่น pm 2.5 สูง
- สวมเสื้อแขนยาว กางเกงยาว แต่งเสื้อผ้าให้มิดชิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กซึมเข้าสู่ผิวหนัง
หากคนไข้กำลังมีปัญหาสิวบนใบหน้าอยู่ อันเนื่องมาจากปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะหน้าแพ้ฝุ่น pm2.5 ไม่ควรปล่อยละเลย โดยไม่ทำการรักษา หรือไม่ดูแลผิวหน้าให้ดีเท่าที่ควร เพราะจะทำให้เกิดปัญหาผิวหน้าเรื้อรัง ที่ยากต่อการรักษาได้
หากคุณไม่มั่นใจในวิธีรับมือกับปัญหาสิวดังกล่าว ก็สามารถมาปรึกษากับที่ M Vita Clinic เพื่อการแก้ปัญหาผิวที่ตรงจุดและเห็นผลที่ชัดเจนยิ่งขึ้นได้ครับ ทั้งนี้หมอขอแนะนำ 2 โปรแกรม ที่ตอบโจทย์ในการรักษาสิว ดังนี้
- โปรแกรม Ultima-Clear เป็นโปรแกรมรักษาสิวแบบไม่ทานยา มาพร้อมเทคโนโลยีนวัตกรรมเลเซอร์ Long Pulse Diode 1450nm ชนิดพิเศษ ช่วยรักษารอยจากสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง แบบครบสูตร เหมาะสำหรับคนไข้ที่ไม่ต้องการทานยารักษาสิว แต่ยังคงให้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีเช่นกัน ราคารายครั้ง 1,500.- / 10 ครั้ง 10,000.-
- โปรแกรม Medi-Aclear เป็นโปรแกรมรักษาสิวอย่างล้ำลึก และเลเซอร์รักษารักษารอยสิว ซึ่งมีด้วยกันถึง 8 ขั้นตอน ช่วยเคลียร์สิว รักษาทั้งรอยแดงสิว สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวผด และสิวมีหัวแบบคูณสอง ไม่พอเท่านั้นยังเสริมเลเซอร์รักษาริ้วรอยจากสิวด้วย ซึ่งทำให้สิวลดลงและรอยสิวจางลงมากถึง 80-90%
M Vita Clinic ยินดีให้คำปรึกษา ประเมินการรักษา ฟรี!
- เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
- อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
- ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
- สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
- เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
- ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ
วันเผยแพร่