สิวหินคืออะไร2.1

สิวหิน ตุ่มนูนคล้ายสิวใต้ตา คืออะไร มีวิธีรักษาอย่างไรให้หาย

สิวหิน คือตุ่มคล้ายสิวใต้ตา เป็นเม็ดแข็งๆ นูนๆ ใต้ผิว มองเห็นเป็นเม็ดสีขาว หรือเหลือง เรียงรายจำนวนมาก ไม่เจ็บ หลายท่านลองเอามือบีบหรือเอาที่กดสิวลองกดดูก็ไม่ออก แถมยิ่งปล่อยไว้ ตุ่มเหล่านี้ก็กลับเพิ่มจำนวนมากขึ้น รักษาไม่หาย และด้วยตำแหน่งที่เป็นคือรอบดวงตา ใต้ตา หน้าแก้ม จึงค่อนข้างเห็นได้ชัดจึงทำให้เสียความมั่นใจ 

หลายท่านคงสงสัยว่า แล้วเจ้าสิวชนิดนี้คืออะไร? มีที่มาที่ไปอย่างไร เป็นแล้วหายเองได้ไหม มีวิธีรักษาอย่างไร หายแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นอีกหรือไม่ ในบทความนี้ หมอจะมาตอบคำถามที่หลายท่านสงสัย รวมถึงให้รายละเอียดของปัญหาผิวหนังประเภทนี้นะครับ

เอ็มวีต้าคลินิก สิวหิน

ก่อนอื่นหมอขออนุญาตแนะนำตัว หมอชื่อหมอเอ็ม นายแพทย์มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำ เอ็มวีต้าคลินิกครับ

สิวหิน คืออะไร

สิวหิน คืออะไร2

สิวหิน (Syringoma) หลายๆ ท่านเข้าใจว่าเป็นสิว เช่นเดียวกับสิวอุดตัน แต่จริงๆ แล้วเป็นลักษณะทางผิวหนังที่เรียกว่า “สิวหิน” และเป็นเนื้องอกที่เกิดขึ้นที่ต่อมเหงื่อ (Eccrine sweat glands) ชนิดไม่ร้ายแรงหรือเนื้องอกที่ไม่ใช่มะเร็ง (Benign หรือ Non-cancerous neoplasms) ตัวเนื้องอกจะอยู่ลึกลงไปในผิวหนังชั้นหนังแท้ พบได้บ่อยในวัยรุ่นเพศหญิง โดยเฉพาะชาวเอเชียที่มีสีผิวค่อนข้างเข้ม ชาวคอเคเซียน (Caucasian) และผู้ที่มีเชื้อสายญี่ปุ่น (Japanese)

สิวหินโดยปกติจะเป็นโรคที่ไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บปวด และไม่สามารถเจริญไปเป็นโรคที่ร้ายแรงกว่าเดิมได้ เพียงแต่จะสร้างความรำคาญ หรือรู้สึกว่าไม่สวยงามเมื่อส่องกระจกเท่านั้น ทั้งนี้มีรายงานว่า สิวชนิดนี้ทำให้รู้สึกเจ็บหรือคันได้เช่นกัน โดยเฉพาะในเวลาที่เหงื่อออก แต่ก็พบกรณีดังกล่าวได้น้อยมาก

สำหรับใครที่สนใจอ่านเกี่ยวกับ สิว เพิ่มเติม คลิกได้เลยครับ หมอรวบรวมมาให้แล้ว

สิวหินมักพบบริเวณไหน

สิวหินมักปรากฏอยู่ตามใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม ใต้ตา เปลือกตา จมูก และริมฝีปาก นอกจากนี้ในบริเวณอื่นตามร่างกายยังสามารถพบได้ในบริเวณหนังศีรษะ อวัยวะเพศภายนอกของผู้หญิง (Vulva) อวัยวะเพศชาย หน้าอก และรักแร้อีกด้วย

สิวหินใต้ตาและเปลือกตา

สิวหินใต้ตาและเปลือกตา

สิวหินใต้เปลือกตาและใต้ดวงตา จะขึ้นกระจายตัวอยู่รอบๆ ดวงตา (Periorbital) เกิดขึ้นในกรณีที่ไม่ได้เป็นมากนัก ลักษณะจะเป็นตุ่มขนาดเล็กๆ สีขาว หรือสีเหลือง ไม่มีการอักเสบหรือบวมแดง แต่รักษาได้ยาก เนื่องจากเป็นเนื้อเยื่อที่อยู่ใกล้อวัยวะบอบบาง บางครั้งสามารถลามลงมาถึงบริเวณโหนกแก้มได้ด้วย

สิวหินที่จมูก

สิวหินที่จมูก

บริเวณสันจมูก ข้างสันจมูก สามารถเกิดสิวหินได้เช่นกัน ซึ่งมันสามารถสร้างความรำคาญใจ ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน บางเคสขึ้นเป็นกระจุก เห็นได้ง่ายโดยเฉพาะบริเวณจมูก

สิวหินที่หน้าอกและลำตัว

สิวหินที่หน้าอกและลำตัว

ในกรณีที่เป็นสิวหินจำนวนมาก (Eruptive Syringoma) มักจะปรากฏอยู่ที่หน้าอก ลำตัวหน้าท้อง ที่ง่ามนิ้ว และแขนขาได้ บางกรณีที่เป็นรุนแรง อาจพบเป็นตุ่มสีน้ำตาลแดงจำนวนมาก ที่ต้นขาและขาหนีบร่วมด้วยได้ แต่ก็พบได้น้อยมาก

ทั้งนี้ สิวหินในแต่ละบริเวณมีลักษณะของโรคและสาเหตุการเกิดโรคเหมือนกัน หากต้องการรักษาสิวใกล้ฉัน สามารถสอบถามที่เอ็มวีต้าคลินิกได้ที่ 0814922626

รักษาสิวกับแพทย์

ลักษณะสิวหิน

ลักษณะของสิวหินใต้ตา และในบริเวณอื่นๆ จะมีลักษณะเป็นตุ่มนูนหลายเม็ด จะรู้สึกแข็งเมื่อสัมผัส ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-3 มิลลิเมตร มีสีเดียวกับผิวหนัง สีขาวซีด หรืออาจเป็นสีเหลืองในกรณีที่ผู้ป่วยมีผิวสีเข้ม แต่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ

สิวหิน เกิดจากอะไร

สิวหิน เกิดจากอะไร2

ยังไม่ทราบสาเหตุการเกิดที่แน่ชัด แต่เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากท่อต่อมเหงื่อจับกลุ่มกัน และรวมตัวกับเนื้อเยื่อไฟบรัส (Fibrous stroma) ส่งผลให้เคราตินจับตัวจนแข็ง เกิดเป็นก้อนเนื้องอก ตุ่มแข็งใต้ผิวหนังขึ้นมา ส่วนสาเหตุกระตุ้นที่ทำให้เกิดปัญหาผิวนี้นั้นยังไม่แน่ชัด บางครั้งอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ บางครั้งเกิดจากการที่ต่อมเหงื่อทำงานมากเกินไปจนแบ่งเซลล์ผิดปกติ ภาวะทางฮอร์โมน ก็อาจเกิดจากพันธุกรรม หรือบางกรณีการสัมผัสสารเคมีบางชนิด ก็เกิดสิวหิน ได้เช่นกัน

มีรายงานว่าการเกิดสิวหินสามารถเป็นผลข้างเคียงจากโรค หรือเกิดขึ้นโดยสัมพันธ์กับโรคบางอย่างได้เช่นกัน อย่างภาวะดาวน์ซินโดรม (Down syndrome), Brooke-Spiegler syndrome, และโรคเบาหวาน (Diabetes mellitus)

สิวหินมีหลายหลายชนิด สาเหตุการเกิดแตกต่างกันออกไป ดังนี้

สิวหินในทารก

เด็กทารกแรกเกิด มักพบสิวหิน แต่ต้องปล่อยให้หายไปเอง ไม่ควรแคะ บีบ แกะเกา เพราะอาจทำให้ผิวอักเสบได้ เนื่องจากโดยปกติแล้วก้อนซีสต์เหล่านี้จะค่อยๆ จางหายไปได้เมื่อทารกโตขึ้นเพียงไม่กี่สัปดาห์ แม่ๆ ไม่ต้องกังวลนะครับ

สิวหินปฐมภูมิ

สิวหินปฐมภูมิ สิวหินปฐมภูมิเกิดจากการเจริญผิดปกติของต่อมเหงื่อ ไม่เกี่ยวข้องกับโรคอื่นๆ สามารถเกิดได้ทั้งในวัยเด็กและผู้ใหญ่ สิวปฐมภูมิมักเกิดขึ้นที่บริเวณเปลือกตา จมูก อวัยวะเพศทั้งหญิงและชาย สามารถหายไปเองได้ แต่ใช้เวลาพอสมควร

สิวหินหนุ่มสาว

สิวหินหนุ่มสาว ส่วนใหญ่เกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม บางกรณีอาจเกี่ยวข้องกับโรคทางพันธุกรรมมะเร็งผิวหนังบางชนิด เช่น กลุ่มอาการการ์ดเนอร์ (Gardner Syndrome) แต่ก็เป็นกรณีที่พบได้น้อยมาก และส่วนใหญ่แล้วสิวหินไม่ใช่สัญญาณของโรคมะเร็ง

สิวหินชนิดบาดแผล

สิวหิน กรณีที่ผิวหนังเกิดการอักเสบเป็นแผล หรือแผลพุพอง ลักษณะเป็นปื้นๆ ทำให้ผิวหนังและรูขุมขนบริเวณนั้นถูกรบกวน สิวหินชนิดบาดแผลนี้มักพบที่หลังมือ นิ้วมือ เป็นต้น

สิวหินชนิดแบนราบ

สิวหินชนิดแบนราบ มักพบได้กับทุกวัย แต่ส่วนใหญ่พบในผู้หญิงวัยกลางคน บริเวณที่พบคือ หลังหู บริเวณตา โหนกแก้ม กราม ไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด อาจเกิดจากการติดเชื้อหรือโรคผิวหนังบางชนิด

สิวหิน VS สิวข้าวสาร ต่างกันอย่างไร

สิวหิน VS สิวข้าวสาร ต่างกันอย่างไร
คุณสมบัติสิวหิน (Syringoma)สิวข้าวสาร (Millia)
ลักษณะเนื้องอกของต่อมเหงื่อซีสต์ที่มีผนังผิวหนัง
ตำแหน่งอยู่ลึกใต้ผิวหนังอาจอยู่ใกล้ผิวหนังมากกว่า
ขนาดและความนูนตุ่มนูนน้อยกว่า ไม่แข็งเท่าตุ่มนูนแข็ง
การบีบออกไม่สามารถบีบออกได้บางครั้งบีบออกได้
สาเหตุการเจริญผิดปกติของเหยื่อการอุดตันของเซลล์ผิวหนัง
การรักษาเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์, Cryotherapy, ผ่าตัด, ยาเลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์, Cryotherapy, ผ่าตัด, ยา

หลายคนเข้าใจว่าสิวหินและสิวข้าวสารใต้ตาเป็นโรคเดียวกัน เนื่องจากลักษณะของโรคที่คล้ายคลึงกันมากเมื่อมองจากภายนอก แต่ความเป็นจริงแล้ว มีข้อแตกต่างกัน ดังนี้

  • สิวหินเป็นเนื้องอก สิวข้าวสารเป็นซีสต์ที่มีผนังผิวกั้น
  • สิวหินจะอยู่ลึกใต้ผิวหนัง ทำให้ตุ่มจะนูนน้อยกว่า ไม่เป็นไตแข็งเท่าสิวข้าวสาร
  • สิวหินไม่สามารถบีบออกมาได้ เหมือนสิวข้าวสารบางครั้งตัวซีสต์สามารถบีบออกมาได้คล้ายกับสิว
  • สิวหินเกิดจากการเจริญผิดปกติของต่อมเหงื่อ ส่วนสิวข้าวสารเกิดจากการอุดตันของเซลล์ผิวหนัง
  • การรักษาสิวหินและสิวข้าวสารสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การใช้เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์, การรักษาด้วยความเย็น (Cryotherapy), การผ่าตัด และการใช้ยา การเลือกวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับขนาด จำนวน และตำแหน่งของตุ่ม

กลุ่มคนที่มีโอกาสพบสิวหินมากกว่าผู้อื่น

สิวหิน สามารถพบได้ในทุกเพศ ทุกวัย ทุกเชื้อชาติ แต่ให้บุคคลที่มีโอกาสพบสูง คือ

  • ในเพศหญิง
  • ผู้ป่วย มาร์แฟนซินโดม (marfan syndrome) ผู้ถูกวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน แต่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจน
  • วัยรุ่น ที่มีระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง นอกจากพบโรคสิว สิวอักเสบ สิวอุดตันแล้ว ยังสามารถพบสิวหินได้อีกด้วย
  • ผู้ใหญ่ในวัย 40-60 ปี เช่นเดียวกับช่วงวัยรุ่น เนื่องจากฮอร์โมนมีการเปลี่ยนที่ลดลง
  • ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้เกิดสิวหินได้
  • พันธุกรรมเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิวหิน
รักษาสิวกับแพทย์

วิธีรักษาสิวหิน

วิธีรักษาสิวหิน

สิวหิน โดยปกติคือเนื้องอกชนิดหนึ่ง อย่างที่กล่าวข้างต้น ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด และโดยส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเนื้อร้าย ส่วนการจะเกิดมากหรือน้อย ก็แตกต่างกันแล้วแต่บุคคล ขึ้นกับอายุ เชื้อชาติ และกรรมพันธุ์

เนื่องจากหลายท่านเกิดความกังวลในแง่ความสวยงาม ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาสิวประเภทนี้ มักต้องการรักษาให้ก้อนยุบลง เป้าหมายในการรักษาคือการเอาสิวออก โดยให้ไม่ให้เกิดแผลเป็น และกลับมาเป็นใหม่น้อยที่สุด แต่ไม่สามารถเอาออกได้หมดและหายขาดได้ภายในครั้งเดียว เนื่องจากต้นตอของปัญหาผิวนี้อยู่ในชั้นลึก

1. จี้สิวหินด้วยกรดทางการแพทย์

โดยปกติจะใช้เป็นกรดไตรไตรคลออะซีติก (trichloracetic acid) เริ่มต้นด้วยการใช้กรดไตรคลออะซีติก 50% ซึ่งสามารถจี้ให้ตุ่มเริ่มแบนราบได้ แต่แพทย์อาจต้องนัดมาทาบ่อยครั้ง อาจจะทุก 2-3 สัปดาห์

2. เลเซอร์สิวหิน

การจี้ด้วยเลเซอร์ โดยปกติแพทย์จะใช้เป็นตัวคาร์บอนไดออกไซด์ เลเซอร์ (CO2 Laser) เปิดหัวสิวเพื่อทำลายและตัดสิวหินออก ควรทำโดยแพทย์ที่ชำนาญ เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูง โอกาสเกิดแผลเป็นน้อยกว่าวิธีอื่น แต่ก็มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้

3. รักษาสิวหินด้วยยา

เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเลย จะใช้เป็นยากิน และยาทากลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอในการรักษา ผลการรักษาสู้วิธีการผ่าตัดไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีการใช้ยากลุ่มอื่นๆ เช่น ยาทากลุ่มอะโทรพีน (topical atropine),  และยากินชื่อ tranilast มักใช้เวลานาน และการให้ยาที่ต่อเนื่อง

4. รักษาสิวหินด้วยการผ่าตัดเล็ก

เป็นการใช้มีดผ่าตัด ตัดเอาก้อนสิวหินออก จากนั้นค่อนทำการเย็บแผล ใช้กับก้อนสิวหินที่มีขนาดใหญ่และมีจำนวนไม่มาก เป็นการรักษาที่ให้ผลดี แต่มีโอกาสเกิดแผลเป็นจากรอยเย็บแผลได้มาก บางคนพบปัญหาคีย์รอยด์

5. รักษาสิวหินด้วยความเย็น

เป็นการใช้ความเย็น จากไนโตรเจนเหลว จี้เพื่อทำลายตัวเนื้องอกสิวหิน ให้หลุดออกจากผิวหนัง ลดโอกาสการเกิดแผลเป็น

6. รักษาสิวหินด้วยการใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า

เป็นการใช้จี้ไฟฟ้า เพื่อทำลายและตัดสิวหินออก ผลข้างเคียงน้อย ควรทำโดยแพทย์ที่ชำนาญ เป็นอีกวิธีที่ให้ผลการรักษาที่ดี โดยผลการรักษาค่อนข้างใกล้เคียงกับเลเซอร์

วิธีรักษาสิวหินใต้ตา

วิธีทั้งหมดเหล่านี้ควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากมีการใช้ในเรื่องของเครื่องมือเลเซอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ด้วยเทคนิคที่แตกต่างกัน ควรได้รับคำปรึกษา แนะนำ ก่อนตัดสินใจรักษา ดีที่สุดครับ

สิวหิน รักษาที่ไหนดี

รักษาสิวหินที่ไหนดี ก่อนจะหาคลินิกรักษาสิวใกล้ฉัน สามารถพิจารณาได้ด้วย วิธีดังนี้…

1. ค้นหาข้อมูลคลินิก

ค้นหาคลินิกรักษาสิวจากช่องทางออนไลน์ หลังจากนั้น อ่านความคิดเห็นจากผู้ใช้บริการที่ผ่านมา ทั้งนี้ยังสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ของคลินิกเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ คุณสมบัติของพนักงาน และรางวัลหรือการรับรองใดๆ ที่ได้รับ

กำจัดสิวหิน

2. การนัดปรึกษา

นัดเวลาการให้คำปรึกษากับคลินิก สิ่งนี้จะทำให้คุณมีโอกาสพบแพทย์และหารือเกี่ยวกับข้อกังวลของคุณ ในระหว่างการให้คำปรึกษา ให้ถามเกี่ยวกับการรักษา ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการรักษาเหล่านั้น และผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนตัดสินใจ

สิวหินรักษา

3. ตรวจสอบข้อมูลคลินิก

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคลินิกได้รับอนุญาตและรับรองโดยหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าคลินิกได้มาตรฐานการดูแลและความปลอดภัย

รักษาสิวหิน

เอ็มวีต้า คลินิก ยืน 1 เรื่องรักษาสิวครบวงจร ดูแลอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ หมอเอ็ม นพ.มนตรี การันตีผลลัพธ์ด้วยเคสการรักษาประทับใจคนไข้เข้าสู่เคสที่ 10,000+ และติด Top No.1 เรื่องรักษาสิว จาก เว็บจัดอันดับคลินิกชื่อดัง

แนวทางป้องกันสิวหิน

วิธีกำจัดสิวหิน

การป้องกันการเกิดสิวหินอาจจะทำได้ยาก เนื่องจากสาเหตุการเกิดไม่ชัดเจน ในเบื้องต้นการป้องกันจึงเป็นการทำให้กระบวนการการผลัดเซลล์เป็นไปอย่างปกติ ทำให้อัตราการแบ่งเซลล์เป็นปกติ ลดความเสี่ยงการเกิดเนื้องอก ลดการทำงานของต่อมเหงื่อ เพื่อไม่ให้ต่อมเหงื่อทำงานมากเกินไปจนผิดปกติ ร่วมกับการลดปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ จากสิ่งแวดล้อม อย่างเช่นสารเคมี หรือรังสี UV จากแสงแดด

ซึ่งวิธีการป้องกันการเกิดสิวหิน มีดังนี้

  • ทาครีมกันแดดอยู่เสมอ
  • ทำความสะอาดผิว ให้สะอาดหมดจด 
  • ผลัดเซลล์ผิว ใช้ครีมบำรุงผิวที่เป็นกรดอ่อนร่วมด้วย เพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิว
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว เช่นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามิน A และ E
  • ลดการใช้เครื่องสำอาง
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เนื่องจากสิวหินอาจเป็นอาการแทรกซ้อนของโรคเบาหวาน
  • หลีกเลี่ยงการทำให้ผิวระคายเคืองหรือเกิดการแพ้
  • อาจจะใช้โบท็อก botox ร่วมด้วยได้ หากต่อมเหงื่อทำงานมากกว่าปกติ  เพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อ ช่วยลดโอกาสการเกิดสิวหิน
รักษาสิวกับแพทย์

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับสิวหิน ( Q & A )

Q : สิวหินเป็นกรรมพันธุ์หรือไม่

สิวหินสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ในบางกรณี หากพบว่าลูกเกิดสิวหิน มีโอกาสพบว่าคนในครอบครัวเคยเป็นสิวหินได้ บางครั้งสิวหินยังมีโอกาสเกิดมากในเชื้อชาติหนึ่งๆ ได้ด้วย ซึ่งก็เกี่ยวกับพันธุกรรมเช่นกัน

Q : สิวหิน หายเองได้ไหม

สิวหินคือสิวที่มีลักษณะเม็ดสิวแข็งคล้ายหินใต้ผิว ไม่มีรูหรือหัวขึ้นเหมือนกับสิวปกติ ดังนั้น การทิ้งไว้ให้หายเองไม่ได้ผลเท่าที่ควร และอาจใช้เวลานาน

Q : สิวหิน หายแล้วกลับมาเป็นซ้ำได้ไหม

สิวหินอาจกลับมาขึ้นใหม่ได้ ถ้าไม่ดูแลรักษาอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม การดูแลรักษาผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความเป็นไปได้ของการเกิดสิวหินซ้ำในอนาคต

Q : เป็นสิวหิน แต่งหน้าได้ไหม

เป็นสิวหิน สามารถแต่งหน้าได้ ไม่ได้มีข้อกำหนดชัดเจนว่าเป็นสิวหินห้ามแต่งหน้า แต่การแต่งหน้าเพื่อปกปิดทำให้ให้หน้าดูดียิ่งขึ้น แต่การแต่งหน้าสามารถพรางเม็ดสิวได้ระดับหนึ่ง

คลินิกดูแลผิว เลเซอร์ผิว ครบวงจร ด้วยเครื่องมือระดับโรค ให้ผิวกลับมาเรียบเนียน ใส การันตีเปิดยาวนาน 13 ปี + สามารถติดต่อนัดคิวพบหมอ หรือสอบถามโปรโมชั่น ได้ที่…

วิธีเอาสิวหินออก

สรุปเรื่องสิวหิน

สิวหิน ไม่ใช่ปัญหาผิวที่อันตราย แต่ขึ้นอยู่กับความสวยความงามเป็นหลัก รักษายากอาจต้องใช้เวลาและอาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง แต่ไม่ได้แปลว่ารักษาไม่ได้ ดังนั้น การรักษาด้วยการเลเซอร์หรือวิธีทางการแพทย์ จึงเป็นวิธีที่ได้ผลลัพธ์ที่ไวและดีที่สุดครับ 

ที่ เอ็มวีต้าคลินิก ทุกเคสที่มารักษาสิวหิน ทำหัตถการโดย หมอเอ็ม นพ.มนตรี ทั้งหมด เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ใครที่กำลังเผชิญอยู่กับสิวหิน ปรึกษาหมอเอ็มได้ครับ หมอเอ็มยินดีให้คำปรึกษาฟรี!

  • เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
  • อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
  • เอ็มวีต้า คลินิก (คลิก) ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
  • สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
  • เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
  • ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

เอกสารอ้างอิง 

วันเผยแพร่

ปรึกษาทุกปัญหาความงามกับคุณหมอโดยตรง

    ชื่อ-สกุล*:

    เบอร์ติดต่อกลับ*:

    อีเมล์สำหรับส่งข้อมูล *

    เพศ:

    ชายหญิง

    อายุ (ปี):


    ต้องการปรึกษาคุณหมอเรื่องใด*:

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษา นโยบายความเป็นส่วนตัว และจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ ตั้งค่า

    ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

    คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

    ยอมรับทั้งหมด
    จัดการความเป็นส่วนตัว
    • เปิดใช้งานตลอด

    บันทึกการตั้งค่า