หลุมสิว เกิดจากอะไร มีกี่แบบ รักษาวิธีไหนดี ป้องกันอย่างไร พร้อมคำแนะนำ

หลุมสิว เป็นปัญหาที่เป็นผลพวงมาจากสิว ซึ่งส่งผลต่อสภาพจิตใจ หากเป็นรุนแรงมากอาจทำให้เสียความมั่นใจด้วยครับ หลุมสิวเป็นปัญหาที่รักษาค่อนข้างยาก วิธีรักษาหลุมสิวที่เห็นผลดีนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นหัตถการที่ต้องทำในคลินิกโดยแพทย์เท่านั้นครับ

สำหรับบทความนี้หมอจะชวนทุกท่านมาทำความรู้จักกับหลุมสิว ในแง่มุมต่างๆ รวมถึงการรักษาหลุมสิว ที่ได้ผลตามหลักการแพทย์ เพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่กำลังกังวลเรื่องหลุมสิวจะได้เลือกการรักษาที่ถูกต้องนะครับ

แนะนำตัวก่อนนะครับ หมอชื่อ หมอเอ็ม นพ.มนตรี อุดมประเสริฐกุล เป็นแพทย์ประจำเอ็มวีต้าคลินิกนะครับ

หลุมสิว

ในเบื้องต้นก่อนจะพูดถึงการรักษาหลุมสิว เรามาทำความรู้จักกับหลุมสิวให้มากขึ้นกันก่อนนะครับ ว่าลักษณะแบบไหนที่เรียกว่าเป็นหลุมสิว  และเราจะแบ่งหลุมสิวออกได้เป็นกี่ประเภทบ้างนะครับ มาดูกันเลยครับ

หลุมสิว คืออะไร ?

หลุมสิว คือ รอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นตามหลังจากการหายของสิวอักเสบ โดยจะเป็นรอยที่บุ๋มลงไปเป็นหลุมจากผิวโดยรอบ ซึ่งหลุมสิวส่วนใหญ่นั้น จะมองเห็นได้ชัดด้วยตาเปล่าว่าบุ๋มลงไปจากผิวโดยรอบอย่างชัดเจน 

แต่ก็มีหลุมสิวบางชนิดที่บุ๋มลงไม่มาก วิธีการดูคืออาจจะต้องใช้ไฟที่มีความสว่างพอสมควรส่องจากด้านข้างของผิวก็จะเห็นการยุบตัวลงของหลุมสิวได้ชัดเจนมากขึ้นครับ

หลุมสิวเกิดจากอะไร ?

อย่างที่หมอได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วนะครับว่าหลุมสิวนั้นก็ตามชื่อเลยคือเกิดจากสิวอยู่แล้ว แต่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า แล้วทำไมบางท่านพอสิวหายกลับไม่เกิดหลุมสิว ในขณะที่บางท่าน เป็นสิวทีไรเวลาหายก็เกิดหลุมใหม่ขึ้นทุกที 

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้สิวกลายเป็นหลุมสิวขึ้นมา ในหัวข้อนี้เรามาลองวิเคราะห์เจาะลึกลงไปอีกดูนะครับ 

ปกติเวลาที่เรามีสิวอักเสบ ด้านในของสิวจะมีหนองเกิดขึ้น หนองเหล่านี้ร่างกายเราสร้างขึ้นเพื่อสู้ทำลายเชื้อสิว แต่ขณะเดียวกันมันก็ทำลายคอลลาเจนใต้ผิวเราไปด้วย ทีนี้พอสิวหายอักเสบ บริเวณนั้นก็กลายเป็นแผล ก็จะเกิดการซ่อมแซมผิว เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่มาทดแทนที่ถูกทำลายไป 

ซึ่งถ้าผิวที่สร้างใหม่ = ผิวที่ถูกทำลาย ก็ไม่เกิดแผลเป็นใช่ไหมครับ แต่ถ้าผิวที่สร้างขึ้นใหม่น้อยกว่าผิวที่ถูกทำลายไปก็จะเกิดเป็นหลุมสิวนั่นเองครับ

ดังนั้นหมอขอสรุปสาเหตุที่มีผลทำให้สิวกลายเป็นหลุมสิว ดังต่อไปนี้ครับ

1. การอักเสบของสิว สิวที่อักเสบมากก็จะทำลายผิวเรามาก ยากที่ผิวซ่อมแซมกลับมาเท่าเดิม จึงเกิดหลุมสิวได้ง่ายขึ้นครับ ทุกท่านสามารถคลิ๊กเพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิวอักเสบได้นะครับ ว่าสิวอักเสบมีกี่ชนิด ชนิดไหนที่เรียกว่ารุนแรงบ้างครับ

2. กรรมพันธุ์ ผิวแต่ละท่านเมื่อเกิดแผลจะสามารถซ่อมแซมได้ไม่เท่ากัน จากกรรมพันธุ์ ดังนั้นท่านที่มีคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นหลุมสิวง่าย ก็มีโอกาสจะเป็นหลุมสิวได้ง่ายเช่นกันครับ

3. พฤติกรรมการบีบ แกะ เค้นสิว การบีบ แกะ เค้นสิว เป็นการเพิ่มการอักเสบในสิว และทำให้เกิดการทำลายชั้นผิวมากขึ้น จึงทำให้เกิดหลุมสิวได้ง่ายขึ้นแน่นอนครับ

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว

เพราะหลุมสิวเกิดจากสิว ดังนั้นหัวใจสำคัญที่สุดก็คือการป้องกันไม่ให้เกิดสิวเพิ่มนั่นเองครับ

1. หากมีสิวอักเสบอยู่ ควรรีบรักษาอย่างถูกหลักโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแต่เนิ่นๆ ให้สิวหายเร็วและเกิดแผลเป็นน้อยที่สุด ยิ่งถ้าเป็นสิวอักเสบรุนแรง หากปล่อยไว้หรือรักษาไม่ถูกต้องจะยิ่งกลายเป็นหลุมสิวได้ง่ายครับ

2. หากมีสิวอุดตันอยู่ควรป้องกันไม่ให้กลายเป็นสิวอักเสบโดยการ

• ห้ามกดสิวออกด้วยตัวเองควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกดออกให้จะดีที่สุด
• งดจับสิวอุดตันบ่อยๆ

3. ห้ามบีบแคะ แกะเกาสิวเอง  การที่คนไข้บีบสิวเอง อาจทำให้เกิดผล 2 อย่าง ดังนี้  

• สิวเม็ดนั้นอาจจะอักเสบขึ้นมา เกิดเป็นหลุมสิวได้ครับ  
• อาจทำให้เกิดเป็นแผลรอยแกะสิว ซึ่งกลายเป็นหลุมสิวได้เช่นกันครับ

หากปฏิบัติตามนี้แล้ว ก็จะไม่เกิดหลุมสิวขึ้นมาอย่างแน่นอนครับ 

อย่างไรก็ตามสำหรับท่านที่มีหลุมสิวเกิดขึ้นแล้ว อาจสงสัยว่า หลุมสิวที่คุณมีเป็นชนิดไหน อันดับต่อไปเรามาดูกันครับว่าหลุมสิวมีกี่ประเภท และ มีลักษณะยังไงบ้าง

หลุมสิวมีกี่ประเภท ?

ในทางการแพทย์ จะแบ่งหลุมสิวออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน คือ หลุมสิวแบบคลื่น (Rolling Scar) หลุมสิวแบบบล๊อก (Boxcar scar) และหลุมสิวแบบรูเจาะ (Icepick scar) ครับ

มาดูกันครับว่าหลุมสิวแต่ละแบบมีลักษณะยังไง

1. หลุมสิวแบบคลื่น “Rolling” atrophic scars

หลุมสิวประภทนี้ จะเป็นหลุมตื้นมีลักษณะเป็นเส้นๆคล้ายคลื่นบนผิว หลุมแบบนี้จะฐานตื้นโค้งคล้ายก้นกระทะ ขอบหลุมไม่ชัดและไม่แข็ง จุดสังเกตของหลุมสิวแบบคลื่นคือถ้าดึงผิวให้ตึงแล้วหลุมจะดูเรียบขึ้นครับ ซึ่งการรักษาหลุมสิวประเภทนี้จะง่ายที่สุดและเห็นผลเร็วที่สุดครับ

2. หลุมสิวแบบบล็อก “Boxcar” atrophic scars

หลุมสิวชนิดนี้ พบได้ค่อนข้างบ่อย โดยมักเป็นที่ขมับและแก้ม ปากหลุมกับก้นหลุมกว้างพอๆกัน ลักษณะคล้ายล้อรถทับ และขอบหลุมจะคมชัดและแข็ง มีพังผืดเกาะค่อนข้างมาก

3. หลุมสิวแบบรูเจาะ “Ice pick” atrophic scars

เป็นหลุมสิวที่ลึกที่สุด รักษาได้ยากที่สุด จะมีลักษณะเป็นรูแคบๆก้นหลุมลึก ลึกลงไปในชั้นหนังแท้เลยทีเดียว หลุมสิวประเภทนี้มักอยู่เป็นกลุ่มๆ พบบริเวณแก้ม จมูก ลักษณะดูคล้ายรูที่โดนที่เจาะน้ำแข็งครับ

ข้อควรปฏิบัติเมื่อมีหลุมสิว ?

• ระวังตัวไม่ให้เป็นสิว
• ดูแลผิวให้สะอาด เช็ดเครื่องสำอาง ล้างหน้าเป็นประจำเช้า-เย็น
• ถ้าเป็นสิวแล้วต้องรีบรักษา
• อาจพิจารณาใช้ตัวยาทากลุ่มกรดวิตามินเอ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่าสามารถช่วยกระตุ้นให้หลุมสิวที่เป็นไม่มากนักดีขึ้น แต่ต้องระวังการระคายเคืองด้วยนะครับ
• ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาหลุมสิวที่ถูกวิธี 

ข้อห้ามปฏิบัติเมื่อมีหลุมสิว

• ถ้ามีสิว ห้ามบีบแคะ แกะเกาสิว เพราะอาจจะทำให้เกิดหลุมสิวใหม่เพิ่มได้ครับ
• หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนาๆ เพราะอาจอุดตันกลายเป็นสิวเพิ่มได้
• ไม่ควรใช้น้ำมันหรือ Skincare รักษาหลุมสิวที่ไม่มีงานวิจัยรองรับ ไม่ควรหลงเชื่อซื้อครีมในอินเตอร์เน็ตที่อาจโฆษณาเกินจริง
• ห้ามซื้อกรดจากอินเตอร์เน็ตมาแต้มหลุมสิวเอง

รักษาหลุมสิวด้วยตัวเองได้ไหม

การรักษาหลุมสิวด้วยตัวเองนั้น โดยส่วนใหญ่มักไม่ได้ผล อย่างการทายาก็ช่วยเรื่องหลุมสิวได้น้อยมาก หลายท่านอาจจะเคยเห็นกรดที่ใช้แต้มหลุมสิวให้เต็มขึ้น ซึ่งแม้ราคาจะไม่แพง แต่หมอขอแนะนำว่าไม่ควรสั่งมารักษาหลุมสิวเองนะครับ เพราะกรดพวกนี้มักมีความเข้มข้นสูงมาก หากใช้ไม่ถูกวิธีอาจทำให้ผิวไหม้ และเกิดแผลเป็นหนักกว่าเดิมได้ครับ

รักษาหลุมสิวอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผล

หมอแนะนำว่า การรักษาหลุมสิวควรทำโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในวิธีรักษาหลุมสิว สถานที่รักษาควรเป็นคลินิกที่ได้รับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือและตัวยาที่ใช้ในการรักษาต้องได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. ด้วยครับ และหากยิ่งมีรีวิวการันตี ก็ยิ่งมั่นใจว่าการรักษาจะเห็นผลดีโดยไม่เกิดผลข้างเคียงแน่นอนครับ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายๆท่านคงอยากจะทราบแล้วใช่ไหมครับ ว่าวิธีรักษาหลุมสิวมีอะไรบ้าง เรามาดูกันเลยครับ

วิธีรักษาหลุมสิว

1. รักษาหลุมสิวด้วยยาทา

ผลลัพธ์	☆ (ได้ผลน้อย)
ราคา	☆
ความเจ็บ	ไม่เจ็บ
ช่วงพักฟื้น	ไม่มี

การรักษาหลุมสิวด้วยยาทาได้ผลน้อย

โดยยาที่มีงานวิจัยรับรอง ว่าพอจะช่วยให้หลุมสิวดีขึ้นได้บ้างคือ กรดวิตามินเอ (Retinoic acid) หรืออนุพันธ์อื่นของวิตามินเอ เช่น อะดาพาลีน (Adapalene ชื่อการค้า Differin) อาจได้ผลในหลุมสิวแบบคลื่น (Rolling scar) ที่เป็นไม่นาน และไม่ลึกมาก

ซึ่งอาจต้องทาต่อเนื่อง 3-5 เดือนขึ้นไป จึงจะเห็นว่าหลุมสิวตื้นขึ้น และการใช้ต้องระวังเพราะยากลุ่มนี้มักระคายเคืองผิว ทำให้ผิวแห้งลอกเป็นผื่นได้ครับ

2. รักษาหลุมสิวด้วยยากิน

ผลลัพธ์	ไม่ได้ผล
ราคา	☆☆
ความเจ็บ	ไม่เจ็บ
ช่วงพักฟื้น	ไม่มี

ยังไม่พบว่า มียาทาน หรือวิตามินใดที่รักษาหลุมสิวได้ครับ

ดังนั้นพวกอาหารเสริมต่างๆ คอลลาเจนเหล่านี้ให้ตัดผ่านไปเลยครับ ทานแล้วหลุมสิวไม่ดีขึ้นแน่นอน

3. รักษาหลุมสิวด้วยการผลัดเซลล์ผิว

ผลลัพธ์	☆ (ได้ผลบ้าง)
ราคา	☆☆
ความเจ็บ	☆
ช่วงพักฟื้น	☆☆ (1-2 สัปดาห์)

การผลัดเซลล์ผิวโดยใช้กรดทางการแพทย์ ช่วยรักษาหลุมสิวได้ผลดีในระดับนึงครับ

โดยต้องใช้ กรดชนิดเข้มข้นที่ลงสู่ผิวชั้นลึก เช่น Trichloracetic acid 50% ขึ้นไป แต้มที่บริเวณหลุมสิว วิธีนี้เรียกว่าการทำ TCA CROSS (TriChloroacetic Acid  Chemical Reconstruction Of Skin Scars) โดยวิธีรักษาหลุมสิวนี้ได้ผลดีกับหลุมแบบรูเจาะ Ice pick scar ครับ

วิธีต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากกรดที่ใช้เข้มข้นพิเศษ หากไม่มีประสบการณ์อาจเกิดผลข้างเคียงเป็นรอยไหม้ได้ จึงไม่ควรทำเองที่บ้านครับ 

4. รักษาหลุมสิวด้วยเลเซอร์

เลเซอร์ที่ใช้รักษาหลุมสิว ในปัจจุบันแทบทั้งหมดเป็นเลเซอร์ชนิดปรับสภาพผิวเป็นส่วนๆ (Fractional  Laser) ครับ

แล้ว Fractional Laser คืออะไร? ก็คือการยิงเลเซอร์เป็นจุดๆเรียงกันเป็นตารางดังรูปครับ

แบบนี้จะมีผิวบางส่วนที่ไม่โดนเลเซอร์ ทำให้การฟื้นฟูผิวหลังเลเซอร์จึงไว และลดการเกิดผลข้างเคียงเช่น รอยดำหลังเลเซอร์ได้ด้วยครับ

สำหรับบทความนี้หมอจะพูดถึงเลเซอร์หลุมสิวแบบกว้างๆ ให้เข้าใจง่ายก่อนนะครับ หากต้องการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่อง เลเซอร์หลุมสิว ให้คลิ๊กที่นี่นะครับ

เลเซอร์ Fractional ที่รักษาหลุมสิวจะแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ได้ 2 กลุ่มครับ

4.1 เลเซอร์ Fractional แบบไม่มีแผล (Non-Ablative)

ผลลัพธ์	☆☆☆ (ได้ผลดี)
ราคา	☆☆☆☆☆
ความเจ็บ	☆☆☆
ช่วงพักฟื้น	☆ (ประมาณ 1 สัปดาห์)

ตัวอย่างเลเซอร์กลุ่มนี้เช่น Fractional Erbium glass(Fraxel), Pico second laser ครับ

4.2 เลเซอร์ Fractional แบบมีแผล (Ablative)

ผลลัพธ์	☆☆☆☆ (ได้ผลดีมาก)
ราคา	☆☆☆☆
ความเจ็บ	☆☆☆☆
ช่วงพักฟื้น	☆☆☆ (2-3 สัปดาห์)

ตัวอย่างเลเซอร์กลุ่มนี้เช่น Fractional Erbium glass(Fraxel), Pico second laser ครับ

5. รักษาหลุมสิวด้วย RF (คลื่นความถี่วิทยุ)

ผลลัพธ์	☆☆☆☆☆ (ได้ผลดีเลิศ)
ราคา	☆☆☆
ความเจ็บ	☆☆☆☆
ช่วงพักฟื้น	☆☆ (1-2 สัปดาห์)

RF หรือคลื่นความถี่วิทยุ เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง ซึ่งมีข้อดีคือทำได้กับทุกสีผิว ท่านที่ผิวเข้มทำได้ไม่เสี่ยงที่ผิวจะไหม้ ซึ่งต่างจากกลุ่มเลเซอร์ที่จะต้องลดพลังงานในคนไข้ผิวเข้ม ในแง่ของ ผลลัพธ์ถือว่ารักษาหลุมสิวได้ผลดีมาก แต่ตอนทำก็เจ็บในระดับนึง หลังทำพักฟื้นไม่นาน ส่วนใหญ่จะประมาณ 1 สัปดาห์ครับ

ตัวอย่างเครื่องในกลุ่มนี้ได้แก่ Fractora, Ematrix, Infini เป็นต้นครับ

6. การตัดพังผืด (Subcision)

ผลลัพธ์	☆☆☆☆ (ได้ผลดีมาก)
ราคา	☆☆
ความเจ็บ	☆☆☆
ช่วงพักฟื้น	☆ (1 สัปดาห์)

เป็นการใช้เข็มชนิดพิเศษทำการตัดพังผืดที่ยึดหลุมสิวอยู่ออก หลังทำหลุมสิวจะดูตื้นขึ้น วิธีนี้ได้ผลดีกับหลุมสิวแบบคลื่น Rolling Scar กับหลุมสิวแบบบล็อก Boxcar Scar

หลังทำมีช่วงที่ต้องพักฟื้นด้วยเพราะหลังการตัดพังผืดจะเป็นรอยช้ำบวมประมาณ 5-7 วันหลังทำครับ

แต่ที่เอ็มวีต้าคลินิก หมอจะใช้เทคนิคพิเศษ และใช้เข็มพิเศษยิ่งขึ้นในการทำ คนไข้จะพักฟื้นน้อยกว่าการทำ Subcision ทั่วๆไป แต่จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีตั้งแต่ครั้งแรกหลังทำครับ

7. Air Dissector

ผลลัพธ์	☆☆☆ (ได้ผลดี)
ราคา	☆☆
ความเจ็บ	☆
ช่วงพักฟื้น	ไม่เกิน 1-2 วัน

เป็นการใช้ก๊าซ หรือแรงดันอากาศในการเลาะพังผืดใต้หลุมสิว และยกผิวขึ้นมาอย่างอ่อนโยน นอกจากนี้ยังกระตุ้นการซ่อมแซมผิวอีกด้วย จึงเป็นอีกวิธีรักษาหลุมสิวที่ดีครับ

วิธีนี้จะได้ผลดีสูงสุดหากทำร่วมกับการฉีดตัวยาเพื่อกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อ เพื่อเสริมการสร้างคอลลาเจนเข้าเติมเต็มใต้ผิวที่ถูกยกขึ้นมา จะทำให้หลุมสิวเต็มได้ดีขึ้น และได้ผลลัพธ์ที่ถาวรมากขึ้นครับ

8. ตัดเย็บหลุมสิว (Punch Excision)

ผลลัพธ์	☆☆☆ (ได้ผลดี)
ราคา	☆☆
ความเจ็บ	☆☆☆☆
ช่วงพักฟื้น	☆☆☆ (2-3 สัปดาห์)

เป็นการใช้เข็มชนิดพิเศษทำการตัดพังผืดที่ยึดหลุมสิวอยู่ออก หลังทำหลุมสิวจะดูตื้นขึ้น วิธีนี้ได้ผลดีกับหลุมสิวแบบคลื่น Rolling Scar กับหลุมสิวแบบบล็อก Boxcar Scar

เป็นการใช้เครื่องมือพิเศษ เพื่อทำการตัดผิวหนังส่วนที่เป็นหลุมออก จากนั้นใช้ไหมเย็บแผลทำการเย็บผิวหนังปิด ซึ่งเมื่อตัดไหมแล้วผลลัพธ์ที่ได้ก็จะดีขึ้นอย่างชัดเจน วิธีนี้เหมาะสำหรับหลุมสิวแบบรูเจาะ Icepick ครับ

9. การฉีดสารเติมเต็มหรือฉีดฟิลเลอร์ (Fillers injection)

ผลลัพธ์	☆☆☆ (ได้ผลดี)
ราคา	☆☆☆☆☆
ความเจ็บ	☆☆☆
ช่วงพักฟื้น	ไม่เกิน 2-3 วัน

ฟิลเลอร์(Filler) ที่ผ่าน อย. ปัจจุบันนี้มีชนิดเดียวคือ กรดไฮยาลูโลนิก ( Hyaluronic Acid หรือ HA) การฉีด Filler ช่วยเติมหลุมสิวที่บุ๋มกว่าผิวรอบๆ ให้เต็มขึ้น จะเหมาะกับหลุมที่พังผืดไม่เยอะ เช่น หลุมแบบคลื่น (Rolling scar) ถ้าหลุมที่มีพังผืดเยอะอาจต้องทำร่วมกับการตัดพังผืด (Subcision) จึงเห็นผลดี

จะเห็นผลทันทีหลังฉีดเลยครับ อย่างไรก็ตามฟิลเลอร์ไม่ถาวร ส่วนใหญ่จะอยู่ได้ 1-2 ปี ดังนั้นอาจจะต้องมาฉีดเติมเรื่อยๆครับ

สำหรับฟิลเลอร์หลุมสิวควรเลือกเป็นชนิดที่มีโมเลกุลของ HA ที่ไม่มากจนเกินไป เนื้อเบาๆจะเหมาะกว่า เพื่อให้เนียนไปกับผิว ไม่เป็นก้อนครับ รุ่นที่เหมาะสำหรับการฉีด Filler หลุมสิว เช่น Restylane Vital หรือ Belotero Soft/Balance เป็นต้นครับ

10. ฉีด PDRN/PN รักษาหลุมสิว

ผลลัพธ์	☆☆☆☆ (ได้ผลดีมาก)
ราคา	☆☆
ความเจ็บ	☆☆☆
ช่วงพักฟื้น	☆ (ไม่เกิน 1 สัปดาห์)

PDRN (PolyDeoxyNucleoTide) และ PN ( PolyNucleotide) เป็นสารที่ประกอบด้วยสาย DNA ที่สกัดจากปลาแซลม่อน

งานวิจัยพบว่า PDRN ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวได้ในหลายๆด้าน ช่วยต้านการอักเสบ ต้านการสร้างเม็ดสี ช่วยสร้างคอลลาเจน ช่วยปรับโครงผิวโดยรวมให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น และช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวอีกด้วย จึงมีผลิตภัณฑ์ที่มีสาร PDRN ออกมาหลายแบรนด์ เช่น Dermacare, P-cell, Tensonez, Belladict SSDN เป็นต้น

สำหรับ PN นี้ ถือว่าเป็นตัวที่พัฒนาต่อมาจาก PDRN อีกที โดย PN จะมีความเข้มข้นและบริสุทธิ์มากกว่า ประสิทธิภาพจึงสูงกว่า PDRN โดยจะทำหน้าที่เป็นโครงร่างที่ช่วย Support ผิว และยังอยู่ในผิวได้นานกว่า PDRN ปกติอีกด้วยครับ ผลิตภัณฑ์ที่มี PN ได้แก่ Rejuran รุ่นต่างๆนั่นเองครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Rejuran S ซึ่งเป็นรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับหลุมสิวโดยตรงครับ

รักษาหลุมสิวที่ไหนดี ?

ควรเลือกคลินิกที่คุณหมอมีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการรักษาหลุมสิวเยอะ รีวิวดี ผลลัพธ์เทียบก่อน หลังเห็นชัดเจน ใช้เครื่องมือเครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย ทุกตัวครับ

ซึ่งเอ็มวีต้าคลินิก ถือเป็นอีกคลินิกที่มีความชำนาญในด้านการรักษาสิว รอยสิว หลุมสิว เปิดมานานกว่า 14 ปี มีรีวิวการันตีผลการรักษามากมาย และมีเครื่องมือเครื่องเลเซอร์มาตรฐานระดับสากล รวมถึงตัวยาที่ผ่านการรับรองจาก อย หลากหลายชนิดซึ่งหมอนำมาประยุกต์เป็นเทคนิคการรักษาเฉพาะตัวที่ได้ผลดีมากครับ จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอันดับต้นๆในการรักษาหลุมสิวครับ

เอ็มวีต้าคลินิก รักษาหลุมสิวอย่างไร

การรักษาหลุมสิวที่เอ็มวีต้าคลินิกจะเป็นโปรแกรมที่ชื่อว่า ANGEL TOUCH เป็นสุดยอดโปรแกรมยอดนิยมที่มีคนไข้เข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง และได้รับการแนะนำบอกต่อมาโดยตลอด ด้วยประสบการณ์การรักษาหลุมสิวกว่า 16 ปี รักษามาแล้วกว่า 10,000 เคส ของคุณหมอเอ็ม จึงมั่นใจว่าคนไข้จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีอย่างแน่นอนครับ

โปรแกรมนี้หมอคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยผสมผสานการใช้เครื่องมือ เครื่องเลเซอร์ ตัวยา และเทคนิคการรักษาหลุมสิว ที่มีงานวิจัยรับรองประสิทธิภาพ และทุกตัวผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อนำมารักษาหลุมสิวทุกประเภทให้ดีขึ้นอย่างชัดเจนครับ 

โดยในการทำ หมอจะวิเคราะห์ประเมินหลุมสิวทั่วหน้าอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาทุกครั้ง โดยเทคนิคที่หมอนำมาใช้ในโปรแกรมมีดังนี้ครับ

1. Fractional RF (Fractora) คลื่นวิทยุรักษาหลุมสิว ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน สลายพังผืดใต้หลุมสิว และช่วยปรับสภาพผิว
2. Fractional Ablative Laser (Fotona) เลเซอร์ปรับสภาพผิวชั้นตื้น เน้นสร้างชั้นผิวใหม่ ให้หลุมสิวตื้นเสมอกับระดับผิวโดยรอบมากขึ้น
3. Fractional Non-Ablative Laser (LaseMD) เลเซอร์เกลี่ยชั้นผิวให้เรียบเนียนมากขึ้น กระตุ้นการฟื้นฟูผิว
4. Miracle Subcision การตัดพังผืดด้วยเทคนิคเฉพาะของเอ็มวีต้าคลินิก ตัดพังผืดได้มากถึง 3 ระดับ แต่อ่อนโยน ช้ำน้อย หลุมฟูเต็มขึ้นเร็ว
5. Gentle Subcision ยกหลุมสิวให้ฟูขึ้นทันที ด้วยเข็มขนาดเล็กพิเศษ ได้ผลดีมากในหลุมแบบ rolling และ boxcar ตื้นๆ
6. Air Subcision การเซาะพังผืดอย่างอ่อนโยนด้วยก๊าซ ด้วยเทคนิคเฉพาะที่พัฒนาโดยหมอเอ็ม จะช่วยยกหลุมสิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
7. PDRN สารสกัด DNA จากปลาแซลม่อน ที่ช่วยซ่อมแซมผิว ฟื้นหลุมสิวให้ฟูเต็มขึ้น
8. Low molecular Hyaluronic acid เติมเต็มหลุมสิวให้เต็มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหลุมแบบ rolling หรือ boxcar ที่ลึกมาก
9. Growth Factor เสริมการรักษาหลุมสิว ให้การฟื้นฟูเนื้อเยื่อเห็นผลยิ่งขึ้น
10. TCA CROSS ใช้เก็บหลุมลึกๆ หลุม Ice pick 

โดยในคอร์สคนไข้จะได้ทำ Fractora 5 ครั้ง สลับกับ Fotona 5 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกันทุก 2 สัปดาห์ รวมทั้งหมดเป็น 10 ครั้ง ในทุกครั้งจะมีการทำ Subcision 3 เทคนิค โดยหมอจะเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับหลุมของคนไข้ และจะพิจารณาเลือกเทคนิคเสริมตามปัญหาหลุมสิวที่คนไข้มีในแต่ละครั้งครับ

ราคารักษาหลุมสิว

สำหรับโปรแกรมรักษาหลุมสิว ANGEL TOUCH เป็นการรักษาคอร์สจำนวน 10 ครั้ง ประกอบด้วยการทำเลเซอร์สองเครื่อง คือ Fractora 5 ครั้ง กับ Fotona 5 ครั้ง โดยทำสลับกันทุก 2 สัปดาห์ 

โดยทุกครั้งที่ทำ หมอจะมีการทำหัตถการเสริม เช่นการทำ Subcision 3 เทคนิค การทำ TCA CROSS และร่วมกับการฉีดตัวยาต่างๆ โดยหมอจะพิจารณาเลือกการรักษาที่เหมาะกับหลุมสิวที่คนไข้มีเป็นรายบุคคลครับ

โปรแกรมนี้คุ้มมากครับ จากราคาปกติเลเซอร์ร่วมกับหัตถการเสริมรายครั้งอยู่ที่ครั้งละ 4500 บาท

หากทำเป็นคอร์ส จะได้รับส่วนลดสูงสุดอยู่ที่ 10 ครั้ง เพียง 20,000 บาทครับ เท่ากับตก ราคาต่อครั้งเพียง 2,000 บาทเท่านั้นครับ  ซึ่งคุ้มมากเมื่อเทียบกับการรักษาและผลลัพธ์ที่คนไข้จะได้รับครับ

• เปิด วันอังคาร – อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์)
• อังคาร – ศุกร์ : 11:00 – 20:00 , เสาร์ – อาทิตย์ : 10:00 – 20:00
• ตั้งอยู่บน ถนน อโศกมนตรี หรือสุขุมวิท 21 ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ครับ
• สามารถจอดรถได้ที่ คอนโด สุขุมวิท ลิฟวิ่ง ทาวน์ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ
• เดินทางสะดวกได้ง่ายๆ สำหรับคนที่ไม่มีรถ หรือเลี่ยงรถติด ก็มาง่ายมากๆครับเพราะร้านเรา ใกล้กับ MRT เพชรบุรี ออก Exit 2 เดินมา
• ทางถนนอโศกมนตรี ประมาณ 200 เมตร ก็ถึง M Vita Clinic แล้วครับ

ค้นหา